นายศิริโชค โสภา โฆษกคณะรัฐมนตรี (ครม.) เงา แถลงภายหลังการประชุม ครม.เงาว่า ที่ประชุมได้หารือกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจัฉัยว่านายสมัคร สุนทรเวช ขาดคุณสมบัติความเป็นนายกรัฐมนตรีแต่ได้มีกระบวนการบิดเบือนคำวินิจฉัยในทำนองให้ร้ายศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งในอินเตอร์เน็ต และในสื่อต่างประเทศว่า เป็นการวินิจัฉัยที่ไร้สาระ ทำไมแค่นายกฯ ทำกับข้าวโชว์ในทีวีก็ถูดปลดได้ ทางครม.เงา จึงเป็นห่วงว่าสื่อต่างประเทศและประชาชนชาวไทยจำนวนหนึ่งอาจเข้าใจผิด และเป็นเหตุให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยกไปอ้างได้ว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพื่อเป็นข้ออ้างในการขอลี้ภัย ทั้งๆ ที่ตัวเองหนีคดีไปอยู่ประเทศอังกฤษ โดยข้อเท็จจริงแล้วเป็นเรื่องที่นายสมัครไปทำผิดกฎหมายแสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเป็นข้อห้ามในรัฐธรรมนูญ
นายศิริโชค กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาเอกสารความเป็น สมาชิกพรรคกาเมืองของผู้ที่ถูกจับกุม 82 คนกรณีบุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ NBT โดยเห็นว่า นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ไปพูดในการจัดรายการ ความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ NBT ในลักษณะพยายามบิดเบือน ข้อเท็จจริง หรือให้ความจริงครึ่งเดียว โดยอ้างว่ามีคนที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 8 คนที่บุกรุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ NBT แต่นายจตุพรกลับปกปิดว่า มีคนที่เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย 8 คน รวมอยู่ด้วย และยังมีคนที่เป็นสมาชิก พรรคอื่นรวมอยู่ด้วยเช่นกันคือ สมาชิกพรรคมหาชน ที่บุกรุกเข้าไปด้วย แต่กลับไม่พูดถึง
พฤติกรรมดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าเป็นพฤติกรรมที่คนในพรรคพลังประชาชนถนัด และทำมาอย่างต่อเนื่อง เช่น กรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ตัดสินว่าทำผิดเลือกตั้ง และถูกเพิกถอนสิทธิ์ และถูก กกต. มีมติให้ยุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งครั้งนั้นมีความพยายามปกปิดความเป็น สมาชิกพรรคไทยรักไทยของพยาน โดยใช้เอกสารปลอม ทำให้เห็นว่าเป็นคนของ พรรคปะชาธิปัตย์ เพื่อทำลายน้ำหนักในศาล แต่ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้น ครั้งนี้จึงอยากเตือน ให้พรรคพลังประชาชน โดยเฉพาะนายจตุพรหยุดพฤติกรรมอันน่ารังเกียจเช่นนี้ เพราะจะทำให้สังคมระอานักการเมืองมากขึ้น
นายศิริโชค กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาเอกสารความเป็น สมาชิกพรรคกาเมืองของผู้ที่ถูกจับกุม 82 คนกรณีบุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ NBT โดยเห็นว่า นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ไปพูดในการจัดรายการ ความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ NBT ในลักษณะพยายามบิดเบือน ข้อเท็จจริง หรือให้ความจริงครึ่งเดียว โดยอ้างว่ามีคนที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 8 คนที่บุกรุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ NBT แต่นายจตุพรกลับปกปิดว่า มีคนที่เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย 8 คน รวมอยู่ด้วย และยังมีคนที่เป็นสมาชิก พรรคอื่นรวมอยู่ด้วยเช่นกันคือ สมาชิกพรรคมหาชน ที่บุกรุกเข้าไปด้วย แต่กลับไม่พูดถึง
พฤติกรรมดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าเป็นพฤติกรรมที่คนในพรรคพลังประชาชนถนัด และทำมาอย่างต่อเนื่อง เช่น กรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ตัดสินว่าทำผิดเลือกตั้ง และถูกเพิกถอนสิทธิ์ และถูก กกต. มีมติให้ยุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งครั้งนั้นมีความพยายามปกปิดความเป็น สมาชิกพรรคไทยรักไทยของพยาน โดยใช้เอกสารปลอม ทำให้เห็นว่าเป็นคนของ พรรคปะชาธิปัตย์ เพื่อทำลายน้ำหนักในศาล แต่ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้น ครั้งนี้จึงอยากเตือน ให้พรรคพลังประชาชน โดยเฉพาะนายจตุพรหยุดพฤติกรรมอันน่ารังเกียจเช่นนี้ เพราะจะทำให้สังคมระอานักการเมืองมากขึ้น