“หมัก” ด้านสุดบรรยาย ยอมรับเป็นนายกฯต่อ ไม่หวั่นกระแสกดดัน ลั่นยังคงมีกำลังใจดี พร้อมสู้ หากสภาโหวตให้พรุ่งนี้ อ้างเหตุผลเพื่อรักษาประชาธิปไตย
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานผลการประชุมพรรคพลังประชาชนว่า หลังจาก ส.ส.ของพรรคมีมติให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปแล้ว นายสมัครได้กล่าวในที่ประชุมว่า ขอขอบคุณ ส.ส.เมื่อมีมติเช่นนี้ก็พร้อมน้อมรับ
"แม้คุณหญิงจะบอกให้ผมถอย อย่าสู้ เพราะวันนี้มีบันได้ให้ลงก็ลงได้แล้ว แต่ผมก็จะสู้เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย แม้วันนี้จะมีคนชอบบ้างไม่ชอบบ้างไม่เป็นไร แต่จะไม่ให้คนเพียงไม่กี่คนมาปลุกม็อบไล่ ส่วนพวกเราในพรรคถ้ามีอะไรก็ควรจะมาคุยกันเอง ผมเป็นนายกฯบริหารประเทศมาหลายเดือนยังไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่ได้ทุจริตคอร์รัปชัน
"งบประมาณยังไม่ผ่านสภา เงินสักบาทยังไม่ได้ใช้ แต่มีการไปปลุกกระแสไล่รัฐบาล ผมอายุ 73 แล้ว รับใช้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมานานแล้ว การกลับมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้มีภารกิจใหญ่ 2 ประการ คืองานพระราชพิธีของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครรินทร์ และ อยู่เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ให้การเมืองเดินไปได้
"สภายังอยู่ รักษากติกาบ้านเมือง ไม่ให้การเมืองนอกกติกาประเภทรัฐบาลแห่งชาติ การเมืองใหม่ 70-30 เข้ามา ผมจะอยู่รับใช้พระบาทเต็มที่ ขอให้รอดูการโปรดเกล้าฯ"
นายสมัครกล่าวด้วยว่า ขอให้พวกเราทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 25 ก.ย. เพราะคดีนี้มี 3 ศาล และเป็นแค่คดีลหุโทษ "ผมจะสู้จนถึงศาลฎีกาเชื่อว่าศาลท่านจะเห็นใจ ที่มีคนบอกผมจะติดคุกเลย มันไม่ใช่ ศาลคงไม่ทำขนาดนั้น ผมจะสู้โดยยกกรณีของ น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ ที่อุทธรณ์ได้มีการขยายเวลารอลงอาญา และผมจะดำเนินการเรื่องของคดีเอง วันที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินผมเดินทางกลับจากจังหวัดอุดรธานีโดยรถยนต์ใช้เวลา 7 ชม. หวังว่าจะเจอคุณหญิงแต่ก็หลับไปก่อน เจอแต่ลูกเขยกับลูกสาว ซึ่งได้มีการปาฐกถากันแบบยกใหญ่ โดยผมบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเป้าประสงค์อยู่ที่ตัวผม เมื่อผมหลุดจากตำแหน่งนายกฯ แล้วได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรค ผมก็พร้อมที่จะทำเพื่อบ้านเมือง
"วันนี้ตามปกติแล้วผมจะย้ำว่าอย่าให้ข่าวรั่วไหล แต่วันนี้อยากบอกว่าขอเชิญให้ข่าวรั่วออกไปเลย สำหรับคดีชิมไปบ่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าผิดนั้น คดีแบบนี้นักกฎหมายฮาเวิร์ดเห็นก็คงจะงง เพราะการตีความพนักงานลูกจ้างนั้นต้องยกคุณให้จำเลย แต่ไม่เป็นไรผมพร้อมยอมรับ แต่การเมืองวันนี้ต้องเป็นไปตามกติกา ผมต้องแทนคุณแผ่นดิน แต่ขอให้พวกเขาเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง"
นายสมัครกล่าวอีกว่า การตั้ง ครม.ชุดใหม่จะไม่มีการปรับเปลี่ยน แต่เป็น ครม.ชุดเดิมทั้งหมด ส่วนเรื่องของกระทรวง ทบวง กรม หรือแม้แต่เรื่องทหาร ก็ดูแลให้อยู่ตัวหมดแล้ว แม้แต่พันธมิตรฯ เองก็เป็นปัญหาที่อยู่ตัวหมดแล้วเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังนายสมัครพูดจบนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคได้เดินเข้าไปหานายสมัครแล้วจับมือท่ามกลางเสียงปรบมือจากสมาชิกพรรคดังกึกก้องห้องประชุม โดยนายสมชายกล่าวว่า "ผมขอยืนยันสิ่งที่พูดกัน 2-3 วันนี้ เป็นเพราะกระแสทางการเมือง แต่ผมไม่เคยปารถนาเป็นนายกฯ ไม่เคยคิดแย่งตำแหน่งจากท่านสมัคร วันนี้การเมืองต้องการผู้นำอย่างท่านสมัคร เพราะสามารถสู้กับแรงเสียดทานแบบนี้ได้ ขอให้ท่านสมัครเป็นที่พึ่งของเราต่อไป เพื่อรักษาประชาธิปไตยให้ได้ และยึดหลักที่ว่าเราต้องเป็นรัฐบาล"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนท้ายแกนนำพรรค แกนนำ ส.ส. หัวหน้ากลุ่มต่างๆ ได้กำชับให้ ส.ส.ในสังกัดลงมติโหวตให้นายสมัคร ห้ามแตกแถวเป็นอันขาด นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี ได้เสนอความคิดว่า ในการจัด ครม.จะต้องแบ่งโควตาเป็นสูตร 1-15 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกกลุ่ม
นายไพจิต ศรีวรขาน กล่าวว่า ส่วนตัวยังคงยืนยันที่จะไม่โหวตให้นายสมัครเป็นนายกฯ ถ้าไม่งดออกเสียง ก็จะทำการโหวตไปอีกทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวม ส.ส.กลุ่มอีสาน และกลุ่มอื่นๆ เพื่องดออกเสียงให้นายสมัคร
นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.นครพนม กล่าวว่า การโหวตลงมติของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนในวันพรุ่งนี้จะเป็นเอกภพา การที่นายไพจิตรอ้างว่าจะมีส.ส. 70 คน ไม่สนับสนุนนายสัครนั้น คงรวมไปถึงคนขับรถและคนติดตามด้วย พวกนี้อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ว่าที่ออกมาเพื่อต้องการตำแหน่ง เพราะคิดว่าจะต่อรองได้ แต่การตั้งครม.ชุดใหม่คาดว่าจะใช้ชุดเดิมเกือบทั้งหมด
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี กล่าวว่า ถ้า ส.ส.ไม่ไปโหวตเลือกนายกฯก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวเอง เชื่อว่าพรุ่งนี้กลุ่มอีสานพัฒนาคงไม่กล้าไม่ไปโหวต กลุ่มพวกนี้ถ้าได้เป็นรัฐมนตรีคงหยุดเคลื่อนไหว ที่ออกมาป่วนเพราะต้องการตำแหน่ง ด้านนายดนุพร ปุณกัณฑ์ สส.กทม. กล่าวว่า นายสมัคร เข้าที่ประชุมเมื่อเวลา 18.30 น. โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และกล่าวขอบคุณที่ประชุมที่มาให้กำลังใจและไว้วางใจ เพราะถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่จะมาคุยกัน ถ้าพรรคมั่นใจให้นายสมัคร กลับมาเป็นนายกฯอีกก็พร้อมที่จะรักษาประชาธิปไตย ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อมีพายุกับตันก็ต้องถือหางเสือ ไม่ปล่อยให้คนอื่นมาถือแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนาได้ทยอยเดินทางไปร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านรัชโยธิน เพื่อหารือถึงท่าทีการโหวตนายกฯอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสข่าวว่ากลุ่มอีสานพัฒนาจะโหวตสวน
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ประชาชนส่วนหนึ่งมาชุมนุมหน้ารัฐสภา ตนทราบมาว่าเป็นกลุ่มคนที่มาชุมนุมเพื่อให้มีการเปิดสภาเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 12 ก.ย. อีกทั้งทราบมาว่า กลุ่มประชาชนดังกล่าวกลัวว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวนมาปิดล้อมสภาเพื่อไม่ให้เลือกนายกฯ จึงเดินทางมาก่อน และยังทราบมาอีกว่า เมื่อมีการเลือกนายกฯ เสร็จสิ้น กลุ่มดังกล่าวก็จะสลายตัวไปเอง โดยจุดประสงค์ที่มาเพียงต้องการให้เปิดสภาเลือกนายกฯ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุยั่วยุ เพราะคนกลุ่มนี้รู้ว่า หากมีการยึดสภาจะสร้างความกระทบกระเทือนหนักกว่าที่กลุ่มพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบ และขอปฎิเสธว่า กลุ่มประชาชนที่มาไม่ได้มีพรรคการเมือง หรือนักการเมืองหนุนหลัง มาด้วยตัวเขาเอง มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อระบอบประชาธิปไตย