xs
xsm
sm
md
lg

อาจิเซน ราเมน ตั้งเป้าปีหน้าเปิด 3-5 สาขา คาดยอดขาย70 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประเสริฐ ทองดี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อาจิเซน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยเนื่องในโอกาสที่บริษัทฯ ฉลองครบรอบการเปิดสาขาที่ 9 ในครั้งนี้ว่า “ร้านอาจิเซน ราเมน ได้เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งถือกำเนิดขึ้นเป็นประเทศที่ 9 และสาขาที่ 353 ของโลก เมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยบริษัท อาจิเซน (ประเทศไทย) จำกัด อันเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง คุณกริช อิ้งวิฑูรย์สถิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท สากลธุรกิจเลิศรวมมิตร จำกัด และ คุณ ชิเงมิสึ คัสสึอากิ ผู้แทนกรรมการบริษัท บริษัท ชิเงมิสึ โซโยคาบุกิ ได้ก่อตั้งเป็นบริษัทอาจิเซน (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นมา ซึ่งมีทำเลที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ในปัจจุบันอยู่ที่ เลขที่ 31 ซ.ถาวรธวัช 2 ถ.รามคำแหง 24 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 และได้ทำการเปิดดำเนินกิจการจดทะเบียนครั้งแรก 30 ล้านบาท ปัจจุบันร้านอาจิเซน ราเมน มีด้วยกันทั้งหมด 9 สาขาในประเทศไทย”

นายประเสริฐกล่าวเพิ่มเติมเรื่องนโยบายในการขยายสาขาของอาจิเซน ราเมนว่า “เรามีแผนในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีหน้าอยู่ที่ประมาณ 3- 5 สาขา โดยใช้พื้นที่ประมาณ 80 – 150 ตารางวา เพื่อผู้บริโภคของเราจะได้รับประทานราเมนกันอย่างทั่วถึง ซี่งสามารถกล่าวได้ว่า เราเป็นราเมนที่มีตระกูลน้ำซุป และ Topping มากที่สุดในประเทศไทย”

ส่วนภาพรวมการแข่งขันในปัจจุบัน มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงมาก โดยเฉพาะอาหารประเภทราเมน มีแบรนด์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นหลายราย โดยทุกแบรนด์ต่างใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มเมนูใหม่ ๆ และกลยุทธ์ทางด้านราคาเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายของตนเอง ดังนั้น ร้านอาจิเซน ราเมนเองก็มีการปรับแผนโดยใช้สื่อผสมผสานเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักมากขึ้น โดยปีนี้ บริษัทฯ ใช้งบประมาณในการส่งเสริมโฆษณาและประชาสัมพันธ์ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย

นายกวิน อึ้งวิฑูรย์สถิตย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อาจิเซน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดขณะนี้ว่า “กลยุทธ์การตลาดที่อาจิเซน ราเมน เน้นในช่วงถัดจากนี้คือ การอัพเดทเมนูใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยการนำเอาเมนูโปรโมชั่นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับความนิยมสูงจากการรับประทานของผู้บริโภค เช่น เมนูราเมนเนื้อ ราเมนทงโทโร่ ราเมนต้มยำเห็ด หรือ ราเมนหูฉลาม กลับมาเป็นเมนูหลักที่ผู้บริโภคยังชื่นชอบและให้การตอบรับอยู่ เพื่อเป็นการลดภาระในการเก็บวัตถุดิบ และคงความสดใหม่ของวัตถุดิบตลอดเวลา ส่วนแผนในการรุกออกต่างจังหวัดเป็นแผนการที่เรามองไว้ในอนาคต โดยที่เราจะเจาะตามเมืองท่องเที่ยว และจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นก่อน เนื่องจากนโยบายในการขนส่งวัตถุดิบเราเน้นที่ความสดใหม่ตลอดเวลาเพราะบริษัทฯ ใช้ครัวกลางในการผลิต และจัดส่งวัตถุดิบ “

“ส่วนโปรโมชั่นเนื่องในโอกาสที่บริษัท อาจิเซน (ประเทศไทย) จำกัด ก้าวขึ้นสู่สาขาที่ 9 เราจะมอบส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าของเรา ทุก ๆ วันที่ 22 ของเดือนเราจะเรียกว่าเป็นวัน RAMEN DAY รับส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ลูกค้าสามารถอิ่มอร่อยกับทุกสาขาของ อาจิเซน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมอบสิทธิพิเศษในการสมัครบัตรสมาชิกสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ ณ สาขาที่ 9 ของเราที่ SF MBK (ศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์.) แห่งนี้ โดยมอบส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ ใน 9 เมนู เป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่ วันที่ 8 – 12 กันยายน 2551 เป็นไป

ด้านผลประกอบการของอาจิเซน ราเมน ในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 55 ล้านบาท คาดว่าจนถึงสิ้นปี 2551 นี้ อาจิเซน ราเมน คาดว่าจะทำยอดขายทะลุ 70 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถทำยอดขาย 36 ล้านบาท

กลุ่มเป้าหมายหลักของอาจิเซน ราเมน คือ วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา กลุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาหรือวัยทำงานต้น ๆ เป็นผู้บริโภคกลุ่มหลัก แต่ในบาง Location อาจิเซน ราเมน ก็ได้กลุ่มครอบครัวที่ชอบรับประทานราเมนที่มี Topping หลากหลาย

ปัจจุบัน อาจิเซนมีร้านสาขาที่ญี่ปุ่น 106 สาขา มีสาขากระจายอยู่ในต่างประเทศ 12 ประเทศ อาทิ จีน 224 สาขา , ไต้หวัน 2 สาขา , ฮ่องกง 28 สาขา , ฟิลิปินส์ 2 สาขา , สิงคโปร์ 28 สาขา , อเมริกา 5 สาขา ,ออสเตรเลีย 4 สาขา , มาเลเซีย 4 สาขา , แคนนาดา 3 สาขา และประเทศไทย 9 สาขา ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น