ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ในวาระ2และ3เป็นวันที่สอง วานนี้ (4 ก.ย.) ทันที่ที่นาย ชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เปิดโอกาสให้สมาชิกได้มีการหารือกันก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระนั้น นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามประธานถึงความชัดเจนในการจะเรียกประชุมร่วมกับของรัฐสภาว่าจะมีขึ้นอีกหรือไม่ เนื่องจากในวันประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 31 ก.ย.ที่ผ่านมามีการพูดชี้นำจนนำไปสู่การออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน ได้ลุกขึ้นประท้วงที่ นายอลงกรณ์ระบุว่าเป็นการประชุมเพื่อชี้นำทางการเมือง จากนั้นจึงมีการตอบโต้กันไปมาระหว่างนายศุภชัยและนายอลงกรณ์ จนทำให้นายชัย เริ่มมีอารมณ์โกรธและพูดว่า ขอให้จบได้แล้ว เมื่อประธานพูดควรรับฟังกันบ้าง อย่าเห็นกันเป็นเพียงแค่หัวหลักหัวตอ เรื่องการประชุมร่วมกันของรัฐสภานั้น ในวันศุกร์ที่ 5 ก.ย.นี้เวลา 12.30 น. ตนได้นัดประธานวุฒิสภาและผู้นำฝ่ายค้านมาหารือถึงการเปิดประชุมร่วมกันและหารือถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ด้วย
ขณะที่นายเอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี พรรคชาติไทย กล่าว แม้ขณะนี้จะมีการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินแต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ขณะที่การนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนบางรายบิดเบือนและทำให้ประชาชนเกิดความ ตื่นตระหนก จึงอยากเสนอให้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อดำเนินการกับการนำเสนอข่าวที่ยุยง ให้ประชาชนด้วย
ขณะที่นายพิษณุ หัตถะสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 3ก.ย. ได้รับทราบว่านายกฯจะแถลงข่าวในช่วงเช้าวันนี้ทำให้ ส.ส.หลายคนนอนไม่หลับเพราะเกรงว่าท่านจะประกาศอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เมื่อ นายกฯ ยืนยันชัดแล้วว่าจะไม่ยุบสภาหรือลาอกก็ทำให้หลายคนโล่งใจ และขอให้กำลังใจนายสมัครทำหน้าที่ต่อไป
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตี ชี้แจงสถานการณ์การเมืองผ่านรายงานวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ในช่วงเช้า เป็นการใช้สื่อเพื่อโอดครวญขอความเห็นใจ ซึ่งอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อส่งสัญญาณให้คนมาชุมนุมเพื่อให้เกิดการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และการที่นายสมัครประกาศจะไม่ลาออกและยุบสภา ดังนั้น หนทางเดียว ที่นายสมัครต้องการคือการรัฐประหาร เพื่อล้มกระดานทั้งหมด ส่วนที่นายสมัครบอกว่า จะอยู่ในตำแหน่งเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ตนคิดว่าหากนายสมัครอยู่ต่อ บ้านเมืองจะไม่มีทางออก อาจถึงขั้นล้มล้างระบอบประชาธิปไตย เพราะที่ผ่านมา นายสมัครมักเข้าใจผิดว่าเป็นผู้เดียวที่รักษาระบอบอยู่ได้
การออกรายการของนายสมัคร เป็นเหมือนการชักธงรบ เพื่อสู้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนออกมาระบุว่าจะยุบสภาเร็วๆ นี้ จึงไม่เป็นความจริง เป็นกลลวง และเป็นการข่มขู่ เพราะชัดเจนแล้วว่าวันนี้นายสมัครไม่ถอย ในทางกลับกันก็มีการปลุกระดมคนให้มาปะทะกันตลอดเวลา ถึงขนาดที่วางแผนให้ส.ส.แต่ละเขตจัดคนมาร่วมชุมนุม และมีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนมาบ่นกับผมว่าไม่อยากทำ เพราะไม่อยากรับผิดชอบหากมีคนล้มตาย และไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในห้องรับรองส.ส. ของรัฐสภา ซึ่งส.ส.ก็รู้กันหมด
นายเทพไทกล่าวอีกว่า การกระทำของนายสมัคร ชี้ชัดว่าสนับสนุนให้มีการระดมคนเข้ามาเพื่อให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้ ผบ.ทบ. ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เพราะที่ผ่านมาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมือนว่ากระสุนนัดแรกที่ด้าน ใช้งานไม่ได้ จึงต้องกดดันด้วยกระสุนอีกนัด เพื่อให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร
คุณสมัครกำลังปิดหูปิดตาพูดฝ่ายเดียวว่าตัวเองคือความถูกต้อง โดยไม่ได้เหลียวมองคนรอบข้าง โดยเฉพาะคุณเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ ที่ต้องลาออก เพราะถูกกระแสกดดันจากสถานการณ์และสังคมในบ้าน แต่นายสมัครกลับเยาะเย้ยว่าคุณเตชลาออกเพราะกลัวเมีย เพราะเมียขอร้องให้ออก ผมจึงอยากให้ คุณสมัครเอาแบบอย่างนายเตช และไม่ควรเอามาตรฐานรัฐมนตรีที่เป็นนักการเมือง เพราะคนเหล่านี้ผูกติดกับผลประโยชน์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การลาออก ของนายเตช ถือเป็นเสียงสะท้อนรัฐบาลจากบุคคลที่ได้รับการนับถือในสังคม นอกจากนี้ ตนรู้สึกเป็นห่วงการพูดจาของนายสมัคร ที่ได้กล่าวผ่านสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพราะนายสมัครควรหยุดคิดให้ได้ว่า ตัวเองไม่ได้ทำผิดจริงหรือไม่ เพราะสิ่งที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย คือการที่นักการเมืองต้องรักษาศรัทธาของประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการแก้ไขสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ปัญหาจะไม่มีทางออกแน่นอน หากทั้ง 2 ฝ่ายไม่ยอมทบทวนจุดยืนของตนเอง ส่วนข้อเสนอการเมืองใหม่แบบ 30 - 70 ของพันธมิตรฯ นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่นายสมัครไม่ยอมรับ ซึ่งพันธมิตรฯ ต้องทบทวนตัวเองเหมือนกันว่า ถ้าแสดงท่าทีเหมือนนายกฯ ในลักษณะที่ไม่มีการลดหย่อน ในจุดยืนและข้อเรียกร้องของตัวเอง
ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย ส.ว. ระบบสรรหา กล่าวว่านายสมัคร กล่าวทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยนั้น ล้วนแต่เป็นการแก้ตัวในทุกเรื่อง ขณะเดียวกันยังตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอย่างดุเดือด ทั้งนี้ หากพิจารณาลักษณะการพูดจาของนายสมัคร แล้ว ก็จะเห็นว่าพยายามที่จะใช้ถ้อยคำที่จะให้เป็นกันเอง มีกลั้วหัวเราะไปด้วย และการพูดแบบไม่มีสคริปมาก่อน การพูดจาทั่วไปจึงมีแต่ความสับสนวกไปวนมาจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ จนไม่เหลือแววนัก โต้วาทีฝีปากเอกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สมัยเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา
คำพูดของคุณสมัครพูดแล้วเข้าตัวเองหลายเรื่อง และขณะนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างก็ถาโถมมาลงใส่อย่างมากมาย ผู้คนก่นด่าสาดเสียเทเสีย และเชื่อว่า ไม่น่ามีใครในประเทศนี้ที่จะทนได้อย่างนายสมัคร และไม่รู้ว่าจะรออะไรอีก หรือว่า มีอะไรเบื้องลึกในใจแบบที่คนอื่นไม่สามารถที่จะทำตามได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะไม่เกิดผลดีในภาพรวมของประเทศ และคิดว่าน่าจะตัดสินใจให้เด็ดขาดได้แล้ว เหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกลุ่ม นปช. กับกลุ่มพันธมิตรฯ ปรากฏว่ามี ส.ส.พรรคพลังประชาชนไปอยู่ในเหตุการณ์หลายราย จนเป็นที่มาว่าพรรคพลังประชาชนและรัฐบาลอยู่เบื้องหลังม็อบ นปช.
ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน ได้ลุกขึ้นประท้วงที่ นายอลงกรณ์ระบุว่าเป็นการประชุมเพื่อชี้นำทางการเมือง จากนั้นจึงมีการตอบโต้กันไปมาระหว่างนายศุภชัยและนายอลงกรณ์ จนทำให้นายชัย เริ่มมีอารมณ์โกรธและพูดว่า ขอให้จบได้แล้ว เมื่อประธานพูดควรรับฟังกันบ้าง อย่าเห็นกันเป็นเพียงแค่หัวหลักหัวตอ เรื่องการประชุมร่วมกันของรัฐสภานั้น ในวันศุกร์ที่ 5 ก.ย.นี้เวลา 12.30 น. ตนได้นัดประธานวุฒิสภาและผู้นำฝ่ายค้านมาหารือถึงการเปิดประชุมร่วมกันและหารือถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ด้วย
ขณะที่นายเอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี พรรคชาติไทย กล่าว แม้ขณะนี้จะมีการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินแต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ขณะที่การนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนบางรายบิดเบือนและทำให้ประชาชนเกิดความ ตื่นตระหนก จึงอยากเสนอให้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อดำเนินการกับการนำเสนอข่าวที่ยุยง ให้ประชาชนด้วย
ขณะที่นายพิษณุ หัตถะสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 3ก.ย. ได้รับทราบว่านายกฯจะแถลงข่าวในช่วงเช้าวันนี้ทำให้ ส.ส.หลายคนนอนไม่หลับเพราะเกรงว่าท่านจะประกาศอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เมื่อ นายกฯ ยืนยันชัดแล้วว่าจะไม่ยุบสภาหรือลาอกก็ทำให้หลายคนโล่งใจ และขอให้กำลังใจนายสมัครทำหน้าที่ต่อไป
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตี ชี้แจงสถานการณ์การเมืองผ่านรายงานวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ในช่วงเช้า เป็นการใช้สื่อเพื่อโอดครวญขอความเห็นใจ ซึ่งอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อส่งสัญญาณให้คนมาชุมนุมเพื่อให้เกิดการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และการที่นายสมัครประกาศจะไม่ลาออกและยุบสภา ดังนั้น หนทางเดียว ที่นายสมัครต้องการคือการรัฐประหาร เพื่อล้มกระดานทั้งหมด ส่วนที่นายสมัครบอกว่า จะอยู่ในตำแหน่งเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ตนคิดว่าหากนายสมัครอยู่ต่อ บ้านเมืองจะไม่มีทางออก อาจถึงขั้นล้มล้างระบอบประชาธิปไตย เพราะที่ผ่านมา นายสมัครมักเข้าใจผิดว่าเป็นผู้เดียวที่รักษาระบอบอยู่ได้
การออกรายการของนายสมัคร เป็นเหมือนการชักธงรบ เพื่อสู้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนออกมาระบุว่าจะยุบสภาเร็วๆ นี้ จึงไม่เป็นความจริง เป็นกลลวง และเป็นการข่มขู่ เพราะชัดเจนแล้วว่าวันนี้นายสมัครไม่ถอย ในทางกลับกันก็มีการปลุกระดมคนให้มาปะทะกันตลอดเวลา ถึงขนาดที่วางแผนให้ส.ส.แต่ละเขตจัดคนมาร่วมชุมนุม และมีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนมาบ่นกับผมว่าไม่อยากทำ เพราะไม่อยากรับผิดชอบหากมีคนล้มตาย และไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในห้องรับรองส.ส. ของรัฐสภา ซึ่งส.ส.ก็รู้กันหมด
นายเทพไทกล่าวอีกว่า การกระทำของนายสมัคร ชี้ชัดว่าสนับสนุนให้มีการระดมคนเข้ามาเพื่อให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้ ผบ.ทบ. ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เพราะที่ผ่านมาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมือนว่ากระสุนนัดแรกที่ด้าน ใช้งานไม่ได้ จึงต้องกดดันด้วยกระสุนอีกนัด เพื่อให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร
คุณสมัครกำลังปิดหูปิดตาพูดฝ่ายเดียวว่าตัวเองคือความถูกต้อง โดยไม่ได้เหลียวมองคนรอบข้าง โดยเฉพาะคุณเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ ที่ต้องลาออก เพราะถูกกระแสกดดันจากสถานการณ์และสังคมในบ้าน แต่นายสมัครกลับเยาะเย้ยว่าคุณเตชลาออกเพราะกลัวเมีย เพราะเมียขอร้องให้ออก ผมจึงอยากให้ คุณสมัครเอาแบบอย่างนายเตช และไม่ควรเอามาตรฐานรัฐมนตรีที่เป็นนักการเมือง เพราะคนเหล่านี้ผูกติดกับผลประโยชน์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การลาออก ของนายเตช ถือเป็นเสียงสะท้อนรัฐบาลจากบุคคลที่ได้รับการนับถือในสังคม นอกจากนี้ ตนรู้สึกเป็นห่วงการพูดจาของนายสมัคร ที่ได้กล่าวผ่านสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพราะนายสมัครควรหยุดคิดให้ได้ว่า ตัวเองไม่ได้ทำผิดจริงหรือไม่ เพราะสิ่งที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย คือการที่นักการเมืองต้องรักษาศรัทธาของประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการแก้ไขสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ปัญหาจะไม่มีทางออกแน่นอน หากทั้ง 2 ฝ่ายไม่ยอมทบทวนจุดยืนของตนเอง ส่วนข้อเสนอการเมืองใหม่แบบ 30 - 70 ของพันธมิตรฯ นั้น ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่นายสมัครไม่ยอมรับ ซึ่งพันธมิตรฯ ต้องทบทวนตัวเองเหมือนกันว่า ถ้าแสดงท่าทีเหมือนนายกฯ ในลักษณะที่ไม่มีการลดหย่อน ในจุดยืนและข้อเรียกร้องของตัวเอง
ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย ส.ว. ระบบสรรหา กล่าวว่านายสมัคร กล่าวทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยนั้น ล้วนแต่เป็นการแก้ตัวในทุกเรื่อง ขณะเดียวกันยังตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอย่างดุเดือด ทั้งนี้ หากพิจารณาลักษณะการพูดจาของนายสมัคร แล้ว ก็จะเห็นว่าพยายามที่จะใช้ถ้อยคำที่จะให้เป็นกันเอง มีกลั้วหัวเราะไปด้วย และการพูดแบบไม่มีสคริปมาก่อน การพูดจาทั่วไปจึงมีแต่ความสับสนวกไปวนมาจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ จนไม่เหลือแววนัก โต้วาทีฝีปากเอกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สมัยเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา
คำพูดของคุณสมัครพูดแล้วเข้าตัวเองหลายเรื่อง และขณะนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างก็ถาโถมมาลงใส่อย่างมากมาย ผู้คนก่นด่าสาดเสียเทเสีย และเชื่อว่า ไม่น่ามีใครในประเทศนี้ที่จะทนได้อย่างนายสมัคร และไม่รู้ว่าจะรออะไรอีก หรือว่า มีอะไรเบื้องลึกในใจแบบที่คนอื่นไม่สามารถที่จะทำตามได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะไม่เกิดผลดีในภาพรวมของประเทศ และคิดว่าน่าจะตัดสินใจให้เด็ดขาดได้แล้ว เหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกลุ่ม นปช. กับกลุ่มพันธมิตรฯ ปรากฏว่ามี ส.ส.พรรคพลังประชาชนไปอยู่ในเหตุการณ์หลายราย จนเป็นที่มาว่าพรรคพลังประชาชนและรัฐบาลอยู่เบื้องหลังม็อบ นปช.