นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าว วานนี้ (4 ก.ย.) ถึงกรณีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถูกร้องว่าอาจกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 (2) เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐ ซึ่งอาจทำให้ความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงตามมาตรา 106 (6) ว่า นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ได้ส่งสำนวนให้ กกต.ทุกคนแล้ว และได้นัดให้มีการลงมติในวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งน่าจะลงมติได้คงไม่มีปัญหา ส่วนกรณี ส.ส.และส.ว.ถูกร้องว่าถือหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ ขณะนี้ยังอยู่ในการพิจารณาของอนุกรรมการสืบสวน เพราะต้องใช้เวลาในตรวจสอบส.ส.และส.ว.จำนวนมาก ซึ่งจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ
วันเดียวกัน คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีนายชัช ชลวร เป็นประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนเพิ่มเติมนัดที่ 3 กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ ส.ว.และ กกต. ขอให้วินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เนื่องจาก การเป็นพิธีกรรายการ ชิมไปบ่นไป และรายการ ยกโขยงหกโมงเช้า โดยได้เรียก นายวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ผู้สนับสนุนรายการ และนายศักดิ์ชัย แก้ววรรณีสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เฟช มีเดีย จำกัด มาให้การต่อศาล แต่ นายศักดิ์ชัย ขอเลื่อนเข้าเบิกความเป็นวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.พร้อมนายสมัคร สุนทรเวช
ทั้งนี้นายเฉลิมพล เอกอุรุ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ดำเนินการไต่สวน ได้สอบถามนายวิศิษฏ์ ถึงความสัมพันธ์ เกี่ยวข้องกับเจ้าของบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด และความสนิทสนมส่วนตัวกับนายสมัครว่าเป็นอย่างไร โดยนายวิศิษฏ์ กล่าวว่า เป็นเจ้าของ บริษัทง่วนสูน (1974) เยาวราช จำกัด ที่เป็นธุรกิจครอบครัว จำหน่าย เครื่องเทศ ตรามือ ทุกชนิด ไม่ได้รู้จักกับนายสมัครเป็นการส่วนตัว แต่การที่เข้ามาสนับสนุนทั้ง 2 รายการดังกล่าว เป็นเพราะว่าเจ้าของบริษัท เฟช มีเดีย จำกัด ได้เข้ามาติดต่อ และเมื่อพิจารณาช่วงเวลาออกอากาศเห็นว่าเหมาะสมไม่มีการเจาะจงว่าบริษัทต้องนำใครมาเป็นพิธีกร จึงได้เซ็นสัญญาสนับสนุนโดยการเหมาจ่าย ทั้ง 2 รายการ
ส่วนที่เคยถูกเชิญไปออกรายการกับนายสมัคร ก็เป็นการบันทึกเทป ไม่ใช่ถ่ายทอดสด ยืนยันว่า พบปะกับนายกฯก็มีเพียงไม่กี่ครั้ง ตามงานที่รัฐบาล เป็นเจ้าภาพเท่านั้น
นอกจากนี้คณะตุลาการฯ ยังสนใจในประเด็นที่นายวิศิษฏ์ ไปเป็นอนุกรรมการ บริหารของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง นายวิศิษฏ์ กล่าวว่าได้รับคัดเลือกจากสภาอุสาหกรรมที่ตนดำรงตำแหน่ง รองเลขานุการของ สภาอุตสาหกรรม ส่วนในประเด็นที่ บริษัทการบินไทยฯ ซื้อพริกไทยตรามือ สินค้าของ บริษัททั้งที่แพงกว่ายี่ห้ออื่นนั้น ก็เป็นการซื้อหาเองตาม ท้องตลาด บริษัทไม่ได้เข้าไปประมูล
อย่างไรก็ตามหลังการไต่สวน นายชัช ได้แจ้งว่า การไต่สวนพยานอีก 2 ปาก ที่เหลือคือนายศักดิ์ชัย และนาย สมัคร สุนทรเวช ที่ทางฝ่ายผู้ถูกร้องต้องการ ให้มาเบิกความในวันที่ 8 ก.ย.นั้น หากไม่มาตามนัด ศาลฯจะถือว่าไม่ติดใจ
วันเดียวกัน คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีนายชัช ชลวร เป็นประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนเพิ่มเติมนัดที่ 3 กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ ส.ว.และ กกต. ขอให้วินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เนื่องจาก การเป็นพิธีกรรายการ ชิมไปบ่นไป และรายการ ยกโขยงหกโมงเช้า โดยได้เรียก นายวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ผู้สนับสนุนรายการ และนายศักดิ์ชัย แก้ววรรณีสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เฟช มีเดีย จำกัด มาให้การต่อศาล แต่ นายศักดิ์ชัย ขอเลื่อนเข้าเบิกความเป็นวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.พร้อมนายสมัคร สุนทรเวช
ทั้งนี้นายเฉลิมพล เอกอุรุ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ดำเนินการไต่สวน ได้สอบถามนายวิศิษฏ์ ถึงความสัมพันธ์ เกี่ยวข้องกับเจ้าของบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด และความสนิทสนมส่วนตัวกับนายสมัครว่าเป็นอย่างไร โดยนายวิศิษฏ์ กล่าวว่า เป็นเจ้าของ บริษัทง่วนสูน (1974) เยาวราช จำกัด ที่เป็นธุรกิจครอบครัว จำหน่าย เครื่องเทศ ตรามือ ทุกชนิด ไม่ได้รู้จักกับนายสมัครเป็นการส่วนตัว แต่การที่เข้ามาสนับสนุนทั้ง 2 รายการดังกล่าว เป็นเพราะว่าเจ้าของบริษัท เฟช มีเดีย จำกัด ได้เข้ามาติดต่อ และเมื่อพิจารณาช่วงเวลาออกอากาศเห็นว่าเหมาะสมไม่มีการเจาะจงว่าบริษัทต้องนำใครมาเป็นพิธีกร จึงได้เซ็นสัญญาสนับสนุนโดยการเหมาจ่าย ทั้ง 2 รายการ
ส่วนที่เคยถูกเชิญไปออกรายการกับนายสมัคร ก็เป็นการบันทึกเทป ไม่ใช่ถ่ายทอดสด ยืนยันว่า พบปะกับนายกฯก็มีเพียงไม่กี่ครั้ง ตามงานที่รัฐบาล เป็นเจ้าภาพเท่านั้น
นอกจากนี้คณะตุลาการฯ ยังสนใจในประเด็นที่นายวิศิษฏ์ ไปเป็นอนุกรรมการ บริหารของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง นายวิศิษฏ์ กล่าวว่าได้รับคัดเลือกจากสภาอุสาหกรรมที่ตนดำรงตำแหน่ง รองเลขานุการของ สภาอุตสาหกรรม ส่วนในประเด็นที่ บริษัทการบินไทยฯ ซื้อพริกไทยตรามือ สินค้าของ บริษัททั้งที่แพงกว่ายี่ห้ออื่นนั้น ก็เป็นการซื้อหาเองตาม ท้องตลาด บริษัทไม่ได้เข้าไปประมูล
อย่างไรก็ตามหลังการไต่สวน นายชัช ได้แจ้งว่า การไต่สวนพยานอีก 2 ปาก ที่เหลือคือนายศักดิ์ชัย และนาย สมัคร สุนทรเวช ที่ทางฝ่ายผู้ถูกร้องต้องการ ให้มาเบิกความในวันที่ 8 ก.ย.นั้น หากไม่มาตามนัด ศาลฯจะถือว่าไม่ติดใจ