คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงขอให้ รัฐบาลต้องยุติการใช้ความรุนแรงและต้องตรวจสอบ ทบทวน ความชอบธรรม ความรับผิดชอบของรัฐบาล
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้แสดงจุดยืนที่เด่นชัดว่า ไม่เห็นด้วยและคัดค้านการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากฝ่ายใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรียกร้องให้รัฐบาลต้องยุติความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่ใช่หนทางแก้ไขปัญหา มีแต่ทำให้การชุมนุมและการต่อสู้ของประชาชนขยายตัวยิ่งขึ้น
การเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงเวลาตั้งแต่ตีหนึ่งวันที่ 2 ก.ย. 2551 ทำให้เกิดความเศร้าเสียใจต่อการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้ควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงได้แล้ว แต่รัฐบาลกลับใช้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุผลในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ
กสม. ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา หากแต่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้าย และเกิดความรุนแรงบานปลายยิ่งขึ้น
กสม.ได้เคยมีข้อเสนอแนะท้วงติง การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2548 และคัดค้านการใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2550
และในครั้งนี้ กสม.ขอคัดค้านอีกเช่นเดียวกัน เพราะส่งผลกระทบที่สำคัญต่อระบบการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน จึงเสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกการประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้น
ประการสำคัญ ยังละเลยและมองข้ามปัญหาหลักของประเทศ คือ บทบาทและความรับผิดชอบของรัฐสภาและนักการเมือง ซึ่งต้องทำหน้าที่ถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหารให้ใช้อำนาจรัฐตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และถูกต้องทำนองคลองธรรม
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้แสดงจุดยืนที่เด่นชัดว่า ไม่เห็นด้วยและคัดค้านการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากฝ่ายใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรียกร้องให้รัฐบาลต้องยุติความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่ใช่หนทางแก้ไขปัญหา มีแต่ทำให้การชุมนุมและการต่อสู้ของประชาชนขยายตัวยิ่งขึ้น
การเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงเวลาตั้งแต่ตีหนึ่งวันที่ 2 ก.ย. 2551 ทำให้เกิดความเศร้าเสียใจต่อการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้ควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงได้แล้ว แต่รัฐบาลกลับใช้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุผลในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ
กสม. ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา หากแต่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้าย และเกิดความรุนแรงบานปลายยิ่งขึ้น
กสม.ได้เคยมีข้อเสนอแนะท้วงติง การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2548 และคัดค้านการใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2550
และในครั้งนี้ กสม.ขอคัดค้านอีกเช่นเดียวกัน เพราะส่งผลกระทบที่สำคัญต่อระบบการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน จึงเสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกการประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้น
ประการสำคัญ ยังละเลยและมองข้ามปัญหาหลักของประเทศ คือ บทบาทและความรับผิดชอบของรัฐสภาและนักการเมือง ซึ่งต้องทำหน้าที่ถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหารให้ใช้อำนาจรัฐตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และถูกต้องทำนองคลองธรรม