ผู้จัดการรายวัน - เกิดเหตุระเบิดริมคลองผดุงกรุงเกษม ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ฝั่งวัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อเวลา 01.05 น. คืนวันที่ 31 ส.ค. จุดเกิดเหตุเป็นป้อมยามตำรวจที่ตั้งอยู่เชิงสะพานประชาเกษม ตรงข้ามคุรุสภา แรงระเบิดทำให้กระจกของป้อมตำรวจแตกยับเยิน และทำให้กระจกของอาคารสมาคมโรงเรียนเอกชนแห่งประเทศไทยที่อยู่ตรงข้ามแตกไปจนถึงชั้นที่ 4 รวมทั้งกระถางต้นไม้ที่วางไว้รอบๆ ป้องต่างก็ล้มระเนระนาด
เวลา 01.20 น. หรือหลังเกิดเหตุประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.นางเลิ้ง ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกับปิดการจราจรบริเวณแยกดังกล่าว ต่อมาเวลา 01.30 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมด้วย พล.ต.พิชา วิจิตรสิลป ผุ้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก 1 ในทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ โดยอ้างกับผู้สื่อข่าวว่า เพิ่งออกมาจากงาน "เสธ.แดงทอล์ก" ที่ รร.ดิเอ็มเมอรัลด์ ก่อนที่จะไปดูการชุมนุมของ นปก. ที่สนามหลวง พล.ต.พิชากล่าวว่า เหตุระเบิดครั้งนี้คงไม่ใช่ฝีมือของ นปก.แน่นอน เพราะว่าพวกเราออกมาโดยไม่ได้มีการตั้งใจจะมาปะทะ แต่คงมีการโยงให้มีความเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เหตุระบิดครั้งนี้น่าจะเป็นระเบิดตั้งเวลา และว่า ช่วงที่พันธมิตรฯ ชุมนุมยังไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น แต่พอ นปก.เริ่มชุมนุมก็เริ่มมี และเหตุการณ์ครั้งนี้คล้ายกับบรรยากาศที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาเมื่อครั้งอดีต เท่าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับตำรวจน่าจะเป็นระเบิดทีเอ็นที ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ นำมาซุกไว้ใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ด้านหลังป้อม แรงระเบิดทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ ฉีกขาด กระจกภายในป้อมแตกกระจาย เมื่อตรวจดูโดยรอบ ไม่มีสะเก็ดระเบิด คาดว่าคนวางไม่ได้หวังทำร้ายใคร ซึ่งระเบิดชนิดนี้คล้ายกับที่เคยใช้ก่อเหตุหน้าบ้านพักสี่เสาของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ และสำนักสันติอโศก เมื่อครั้งที่มีกลุ่ม นปก.ออกมาขับไล่ คมช. ซึ่งก็มาเข้ากับเหตุการณ์ในตอนนี้ ซึ่ง นปก.กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง อาจทำให้คนมองว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ มาจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม
“จงรัก” เชื่อมือที่ 3 ป่วน
พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.รักษาราชการแทน ผบช.น. เดินทางมาร่วมประชุมประเมินสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรฯ ซึ่งถือเป็นการทำงานในวันแรก ภายหลัง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ถูกสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงาน ผบ.ตร. โดยเมื่อมาถึง พล.ต.อ.จงรักได้สักการะอนุสาวรีย์พระองค์เจ้ากฤษฎาอภินิหาร ด้านหน้าบช.น.
พล.ต.อ จงรักกล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุดังกล่าวเมื่อ 02.00 น.เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการกระทำของมือที่ 3 ซึ่งต้องการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยดูจากพฤติการณ์ของคนร้ายไม่ได้มุ่งให้เกิดอันตรายต่อชีวิต เบื้องต้นทราบว่าเป็นระเบิดทีเอ็นที น้ำหนักไม่เกินครึ่งปอนด์
ผุดมาตรการป้องกันระเบิด
นอกจากนี้ พล.ต.อ.จงรัก ยังมีบันทึกข้อความด่วนที่สุด ถึง รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 รอง ผบก.ศส.บช.น.เรื่องเพิ่มมาตรการในการป้องกันความไม่สงบเกี่ยวกับการลอบวางระเบิด ตามที่เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2551 เวลาประมาณ 01.00 น.ได้มีการลอบวางระเบิดในเขตท้องที่ สน.นางเลิ้ง นั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุดังกล่าวจากผู้ไม่หวังดี จึงให้แต่ละหน่วยเพิ่มความเข้มในการป้องกันเหตุดังนี้
1.ให้แต่ละ บก.สั่งการให้ทุก สน.และ กก.สส.ในทุก บก.และศูนย์สืบสวน จัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหาข่าวในจุดล่อแหลม อาทิ ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ถังขยะ ป้ายหยุดรถประจำทาง เป็นต้น ในเขตรับผิดชอบ ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการป้องกันเหตุ 2.ให้ทุก สน.ตั้งด่านตรวจ ว.43 ในช่วงกลางคืน เรียกตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัยโดยให้เน้นการตรวจค้นอาวุธปืน วัตถุระเบิด ชนิดต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ
3.ให้ บก.ตปพ.จัดกำลังสายตรวจ ว.43 เคลื่อนที่ตรวจค้นบุคคลยานพาหนะต้องสงสัยในขณะที่ออกตรวจท้องที่โดยเน้นสถานีขนส่งต่างๆ และพื้นที่รอยต่อกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และให้ตปพ.จัดชุดเก็บกู้ และชุดปฏิบัติการสุนัขตำรวจเตรียมความพร้อม ณ ที่ตั้ง ในการสนับสนุนแต่ละ บก.ที่ร้องขอตลอด 24 ชม. 4.ให้ทุก สน.ประชาสัมพันธ์ แสวงหาความร่วมมือจากประชาชนและแนวร่วม กต.ตร.สน.และสมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรมให้ช่วยเป็นหูเป็นตาในการป้องกันเหตุเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบเกี่ยวกับการลอบวางระเบิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 5.ให้ผู้บังคับบัญชาระดับ บช. บก.และ สน.ได้ควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งนี้โดยเคร่งครัดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีคำสั่งย้าย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง มีความเห็นอย่างไร พล.ต.อ.จงรัก ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ตอบเพียงว่าในการดูแลม็อบได้มอบให้กับ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น.ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผบช.น.เป็น ผบ.เหตุการณ์
เวลา 01.20 น. หรือหลังเกิดเหตุประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.นางเลิ้ง ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกับปิดการจราจรบริเวณแยกดังกล่าว ต่อมาเวลา 01.30 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมด้วย พล.ต.พิชา วิจิตรสิลป ผุ้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก 1 ในทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ โดยอ้างกับผู้สื่อข่าวว่า เพิ่งออกมาจากงาน "เสธ.แดงทอล์ก" ที่ รร.ดิเอ็มเมอรัลด์ ก่อนที่จะไปดูการชุมนุมของ นปก. ที่สนามหลวง พล.ต.พิชากล่าวว่า เหตุระเบิดครั้งนี้คงไม่ใช่ฝีมือของ นปก.แน่นอน เพราะว่าพวกเราออกมาโดยไม่ได้มีการตั้งใจจะมาปะทะ แต่คงมีการโยงให้มีความเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เหตุระบิดครั้งนี้น่าจะเป็นระเบิดตั้งเวลา และว่า ช่วงที่พันธมิตรฯ ชุมนุมยังไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น แต่พอ นปก.เริ่มชุมนุมก็เริ่มมี และเหตุการณ์ครั้งนี้คล้ายกับบรรยากาศที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาเมื่อครั้งอดีต เท่าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับตำรวจน่าจะเป็นระเบิดทีเอ็นที ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ นำมาซุกไว้ใต้คอมเพรสเซอร์แอร์ด้านหลังป้อม แรงระเบิดทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ ฉีกขาด กระจกภายในป้อมแตกกระจาย เมื่อตรวจดูโดยรอบ ไม่มีสะเก็ดระเบิด คาดว่าคนวางไม่ได้หวังทำร้ายใคร ซึ่งระเบิดชนิดนี้คล้ายกับที่เคยใช้ก่อเหตุหน้าบ้านพักสี่เสาของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ และสำนักสันติอโศก เมื่อครั้งที่มีกลุ่ม นปก.ออกมาขับไล่ คมช. ซึ่งก็มาเข้ากับเหตุการณ์ในตอนนี้ ซึ่ง นปก.กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง อาจทำให้คนมองว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ มาจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม
“จงรัก” เชื่อมือที่ 3 ป่วน
พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.รักษาราชการแทน ผบช.น. เดินทางมาร่วมประชุมประเมินสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรฯ ซึ่งถือเป็นการทำงานในวันแรก ภายหลัง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ถูกสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงาน ผบ.ตร. โดยเมื่อมาถึง พล.ต.อ.จงรักได้สักการะอนุสาวรีย์พระองค์เจ้ากฤษฎาอภินิหาร ด้านหน้าบช.น.
พล.ต.อ จงรักกล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุดังกล่าวเมื่อ 02.00 น.เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการกระทำของมือที่ 3 ซึ่งต้องการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยดูจากพฤติการณ์ของคนร้ายไม่ได้มุ่งให้เกิดอันตรายต่อชีวิต เบื้องต้นทราบว่าเป็นระเบิดทีเอ็นที น้ำหนักไม่เกินครึ่งปอนด์
ผุดมาตรการป้องกันระเบิด
นอกจากนี้ พล.ต.อ.จงรัก ยังมีบันทึกข้อความด่วนที่สุด ถึง รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 รอง ผบก.ศส.บช.น.เรื่องเพิ่มมาตรการในการป้องกันความไม่สงบเกี่ยวกับการลอบวางระเบิด ตามที่เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2551 เวลาประมาณ 01.00 น.ได้มีการลอบวางระเบิดในเขตท้องที่ สน.นางเลิ้ง นั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุดังกล่าวจากผู้ไม่หวังดี จึงให้แต่ละหน่วยเพิ่มความเข้มในการป้องกันเหตุดังนี้
1.ให้แต่ละ บก.สั่งการให้ทุก สน.และ กก.สส.ในทุก บก.และศูนย์สืบสวน จัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหาข่าวในจุดล่อแหลม อาทิ ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ถังขยะ ป้ายหยุดรถประจำทาง เป็นต้น ในเขตรับผิดชอบ ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการป้องกันเหตุ 2.ให้ทุก สน.ตั้งด่านตรวจ ว.43 ในช่วงกลางคืน เรียกตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัยโดยให้เน้นการตรวจค้นอาวุธปืน วัตถุระเบิด ชนิดต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ
3.ให้ บก.ตปพ.จัดกำลังสายตรวจ ว.43 เคลื่อนที่ตรวจค้นบุคคลยานพาหนะต้องสงสัยในขณะที่ออกตรวจท้องที่โดยเน้นสถานีขนส่งต่างๆ และพื้นที่รอยต่อกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และให้ตปพ.จัดชุดเก็บกู้ และชุดปฏิบัติการสุนัขตำรวจเตรียมความพร้อม ณ ที่ตั้ง ในการสนับสนุนแต่ละ บก.ที่ร้องขอตลอด 24 ชม. 4.ให้ทุก สน.ประชาสัมพันธ์ แสวงหาความร่วมมือจากประชาชนและแนวร่วม กต.ตร.สน.และสมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรมให้ช่วยเป็นหูเป็นตาในการป้องกันเหตุเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบเกี่ยวกับการลอบวางระเบิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 5.ให้ผู้บังคับบัญชาระดับ บช. บก.และ สน.ได้ควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งนี้โดยเคร่งครัดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีคำสั่งย้าย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง มีความเห็นอย่างไร พล.ต.อ.จงรัก ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ตอบเพียงว่าในการดูแลม็อบได้มอบให้กับ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น.ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผบช.น.เป็น ผบ.เหตุการณ์