xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นผันผวนรับการเมือง โบรกเกอร์เตือนระวังคลื่นยักษ์ลูกใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ดัชนีตลาดหุ้นผันผวนรับสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่สงบ แต่ได้ตลาดหุ้นต่างประเทศช่วย โดยปิดที่ 675.99 จุด เพิ่มขึ้น 7.07 จุด หรือ 1.06% มูลค่าการซื้อขายรวม 9.2 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายต่ออีกเกือบ 900 ล้านบาท โบรกเกอร์ ออกโรงเตือนนักลงทุนชะลอเทรดหุ้น ให้จับตาการเมืองอย่างใกล้ชิด หวั่นคลื่นใต้น้ำประทุรอบใหม่ แรงกว่าเดิม หลังออกหมายจับแกนนำพันธมิตร พร้อมแนะเลือกลงทุนหุ้นแบงก์ที่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยขาขึ้น หลังแบงก์ชาติขยับดอกเบี้ยอีก 0.25%

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (27 ส.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวนทั้งในแดนบวกและแดนลบ โดยมีปัจจัยหลักที่เข้ามากระทบ คือ การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมตรี ลาออก รวมถึงการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์/พี) ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าได้ปรับตัวลดลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 667.53 จุด หลังจากนั้นได้ขยับขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกและสูงสุดที่ระดับ 676.79 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 675.99 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 7.07 จุด หรือคิดเป็น 1.06% มูลค่าการซื้อขายรวม 9,212.08 ล้านบาท

โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงเทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง คือมียอดขายสุทธิรวม 889.50 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 986.86 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 97.35 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. (PTT) ปิดที่ 258 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มูลค่าการซื้อขายรวม 1,213.27 ล้านบาท บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปิด 147 บาท เพิ่มขึ้น 2.80% มูลค่า 858.75 ล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ปิด 78 บาท เพิ่มขึ้น 2.63% มูลค่า 542.95 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ปิด 71 บาท เพิ่มขึ้น 2.90% มูลค่า 447.93 ล้านบาท และธนาคารกรุงเทพ (BBL) ปิดที่ 115 บาท เพิ่มขึ้น 0.88% มูลค่า 399.60 ล้านบาท

นางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชีย บวกกับนักลงทุนคลายความกังวลในสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ของกนง. ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทั้ง SCB, KBANK และ BBL ปรับเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย โดยให้แนวรับไว้ที่รัดบ 667 จุด แนวต้น 680 จุด โดยมีหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นตัวนำในระยะสั้น หลังจากได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ทั้งนี้จะต้องจับตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังไม่มีความแน่นอน นักลงทุนควรชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยให้แนวรับไว้ที่ 675 จุด แนวต้านที่ 685 จุด และหลักทรัพย์ที่น่าสนใจในช่วงนี้ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์

นางสาวจิตตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากนักลงทุนมองว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและผ่านจุดวิกฤตไปแล้ว จึงได้กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง ขณะที่แนวโน้มวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นน่าจะยังแกว่งตัวตามสถานการณ์ทางการเมือง โดยมีแนวรับที่ 650 จุด แนวต้าน 670 จุด แต่นักลงทุนควรชะลอการลงทุนออกไปก่อน

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง ทำให้นักลงทุนมั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายลงบ้าง แม้ช่วงท้ายตลาดจะมีข่าวศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ และผู้เกี่ยวข้องรวม 9 คน ซึ่งนักลงทุนได้มองว่าเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้ว

สำหรับประเด็นเรื่องประชุม กนง. ที่ประกาศการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3.75% นั้น เป็นไปตามคาดการณ์อยู่แล้ว และคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ หมายความว่าการประชุมกนง.ในครั้งต่อๆ ไปของปีนี้ จะไม่มีการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด

"ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ราคาหุ้นปรับตัวลดต่ำมากแล้ว โดยพี/อี ตลาดอยู่แค่ 9-10 เท่า ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยพร้อมจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หากเหตุการณ์ทางการเมืองไม่บานปลาย หรือมีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น"

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเองอย่าเพิ่งไว้วางใจในสถานการณ์ทางการเมือง ดังนั้นจะต้องติดตามเหตุการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมีการอนุมัติหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ และผู้เกี่ยวข้องทั้ง 9 คนแล้ว การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ คาดว่าจะยังคงยืดเยื้อต่อไป และอาจจะลุกลามออกไปได้อีก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น