00 เช้าตรู่วันนี้ (อังคารที่ 26 ส.ค.)ได้เวลาสำคัญของมวลมหาประชาชน “พลังเสื้อสีเหลือง” ออกมาสำแดงพลังครั้งสำคัญ เพื่อขับไล่รัฐบาล “หุ่นเชิด-ขายชาติ” ให้พ้นไปให้จงได้ ถ้าจะว่าไปแล้วนี่คือ “สงครามครั้งสุดท้าย” ที่เหล่านักรบประชาชนต้องทำศึกด้วยตัวเอง เพราะนาทีนี้จะหวังพึ่งใครไม่ได้แล้ว
00 กำหนดการ “เป่านกหวีด” เคลื่อนพลได้ผ่านการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ และได้จังหวะเวลาอันเหมาะสมหลังจากได้ชุมนุมปักหลักพักค้างยืดเยื้อยาวนานกว่า 90 วัน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน จนหัวใจหลอมรวมเป็นอันเดียวกัน
00 นอกจากนี้ ยังมีแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวอยู่หน้าจอเอเอสทีวี อยู่ทั่วประเทศ และสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเข้าร่วมชุมนุมไม่ได้ขาด จนทำให้พลังการต่อสู้ของภาคประชาชน ณ สะพานมัฆวานฯ ลื่นไหลไม่ได้ขาด
00 จนกระทั่งมาถึงวาระพิเศษสุด หลังจากพระราชดำรัสของ “พ่อหลวง” ที่ทรงตรัสว่า “บ้านเมืองใกล้ล่มจม เพราะใช้เงินไม่ระวัง” ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดผึง และทำให้พสกนิกรทั่วทั้งราชอาณาจักรอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ต้องเก็บสัมภาระสิ่งของจำเป็นหลั่งไหลออกมาเดินบนท้องถนนอีกครั้ง เพื่อทวงสิทธิ์ ทวงอธิปไตยคืนกลับมาจากรัฐบาล “หุ่นเชิด” หลังจากที่ไม่ได้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่
00 กว่า 6 เดือนย่อมเป็นการพิสูจน์ให้เห็นเด่นชัด วันแล้ววันเล่าที่คณะรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำปฏิญาณ ตรงกันข้ามภารกิจเร่งด่วนของพวกเขาก็คือ ทำทุกทางเพื่อรักษาทรัพย์สมบัติของ “นายใหญ่” หรือใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ช่วยเหลือให้พ้นผิด ไม่ยี่หระต่อความรู้สึกของผู้คนในสังคมเลยแม้แต่น้อย
00 นาทีนี้ไม่ต้องสาธยายในรายละเอียดกันอีกต่อไปแล้วว่า รัฐบาลของ “สมัคร สุนทรเวช” มีความผิด ขายชาติ ขายอธิปไตยอย่างไรกันบ้าง เพราะตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา สังคมได้รับรู้กันจนหมดไส้หมดพุง และกว่า 90 วันที่กิน-นอนอยู่บนถนนราชดำเนิน ก็ยิ่งซึมซับตื้นลึกหนาบางกันจนแทบอ๊วกอยู่แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง
00 ดังนั้นเมื่อเสียงนกหวีดดังปรี๊ด !! พี่น้อง “พลังเสื้อเหลือง” ต้องรวมพลังพร้อมกัน พรึบ ทั่วประเทศ มากันให้เป็นเรือนล้าน ให้ “สีเหลืองละลานตา” เต็มทุกท้องถนนสำคัญทั่วกรุงเทพมหานคร เพราะวันนี้เป็นวาระสำคัญ ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ เป็น “สงครามครั้งสุดท้าย” เดิมพันบ้านเมืองว่า “ล่มจม-ไม่ล่มจม” อีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้ รู้กัน !!
ก้อนกรวด
00 กำหนดการ “เป่านกหวีด” เคลื่อนพลได้ผ่านการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ และได้จังหวะเวลาอันเหมาะสมหลังจากได้ชุมนุมปักหลักพักค้างยืดเยื้อยาวนานกว่า 90 วัน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน จนหัวใจหลอมรวมเป็นอันเดียวกัน
00 นอกจากนี้ ยังมีแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวอยู่หน้าจอเอเอสทีวี อยู่ทั่วประเทศ และสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเข้าร่วมชุมนุมไม่ได้ขาด จนทำให้พลังการต่อสู้ของภาคประชาชน ณ สะพานมัฆวานฯ ลื่นไหลไม่ได้ขาด
00 จนกระทั่งมาถึงวาระพิเศษสุด หลังจากพระราชดำรัสของ “พ่อหลวง” ที่ทรงตรัสว่า “บ้านเมืองใกล้ล่มจม เพราะใช้เงินไม่ระวัง” ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดผึง และทำให้พสกนิกรทั่วทั้งราชอาณาจักรอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ต้องเก็บสัมภาระสิ่งของจำเป็นหลั่งไหลออกมาเดินบนท้องถนนอีกครั้ง เพื่อทวงสิทธิ์ ทวงอธิปไตยคืนกลับมาจากรัฐบาล “หุ่นเชิด” หลังจากที่ไม่ได้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่
00 กว่า 6 เดือนย่อมเป็นการพิสูจน์ให้เห็นเด่นชัด วันแล้ววันเล่าที่คณะรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำปฏิญาณ ตรงกันข้ามภารกิจเร่งด่วนของพวกเขาก็คือ ทำทุกทางเพื่อรักษาทรัพย์สมบัติของ “นายใหญ่” หรือใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ช่วยเหลือให้พ้นผิด ไม่ยี่หระต่อความรู้สึกของผู้คนในสังคมเลยแม้แต่น้อย
00 นาทีนี้ไม่ต้องสาธยายในรายละเอียดกันอีกต่อไปแล้วว่า รัฐบาลของ “สมัคร สุนทรเวช” มีความผิด ขายชาติ ขายอธิปไตยอย่างไรกันบ้าง เพราะตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา สังคมได้รับรู้กันจนหมดไส้หมดพุง และกว่า 90 วันที่กิน-นอนอยู่บนถนนราชดำเนิน ก็ยิ่งซึมซับตื้นลึกหนาบางกันจนแทบอ๊วกอยู่แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง
00 ดังนั้นเมื่อเสียงนกหวีดดังปรี๊ด !! พี่น้อง “พลังเสื้อเหลือง” ต้องรวมพลังพร้อมกัน พรึบ ทั่วประเทศ มากันให้เป็นเรือนล้าน ให้ “สีเหลืองละลานตา” เต็มทุกท้องถนนสำคัญทั่วกรุงเทพมหานคร เพราะวันนี้เป็นวาระสำคัญ ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ เป็น “สงครามครั้งสุดท้าย” เดิมพันบ้านเมืองว่า “ล่มจม-ไม่ล่มจม” อีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้ รู้กัน !!
ก้อนกรวด