เรามีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เป็นศาสนาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลก ไม่ได้สอนให้เชื่ออย่างมงาย เป็นหนึ่งเดียวกับกฎธรรมชาติ “ศาสนาพุทธคือกฎธรรมชาติ กฎธรรมชาติคือศาสนาพุทธ” รู้แจ้ง เข้าใจในคำสอนได้ด้วยการศึกษาวิปัสสนาคือการปฏิบัติให้รู้แจ้งที่ตัวของเรานี่เอง
เรามีพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งชาติ ที่ดีที่สุด ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรของพระองค์ด้วยโครงการพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการ ตลอดระยะเวลา 60 กว่าปีที่พระองค์ทรงครองราชย์ นี่คือยิ่งใหญ่ของพระองค์ ความดีอันเป็นรากฐาน แก่นแท้ของชาติ แต่ก็สามารถจะต้านทานความเลวร้ายจากระบอบการเมืองมิจฉาทิฐิ ที่ครอบงำมายาวนาน 76 ปี นั่นได้
แต่กลับกลายเป็นความล้มเหลวในทุกด้าน ล้าหลังถดถอยลงๆ อ่อนแอลง อย่างไม่น่าเชื่อ กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านกล้าที่จะเอาเปรียบเราตลอดเวลา ทั้งนี้ด้วยเหตุเพียงประการเดียวเท่านั้น อันเป็นเหตุแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติคือ การที่เราไม่มีหลักการปกครอง เป็นเหตุให้รัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับเป็นมิจฉาทิฐิเรื่อยมา แต่ผู้รับผิดชอบใหญ่ กลับมองไม่เห็น
การมีรัฐธรรมนูญโดยไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม อุปมาดุจดัง ดอกไม้อันหลากหลาย กองเรี่ยราด, ดุจดังดาวเคราะห์ไม่ดวงอาทิตย์, ดุจดังชิงช้าสวรรค์ที่กองอยู่อย่างระเกะระกะ ฯลฯ
พวงมาลัยที่สวยงามเพราะมีด้ายร้อยไว้เป็นแกนกลาง, ดาวเคราะห์ดำรงอยู่ได้เพราะดวงอาทิตย์, ชิงช้าสวรรค์หมุนอยู่ได้ เพราะมีเพลาเป็นแกนกลางอันแข็งแรง...ฉันใด
ระบอบการเมืองที่ถูกต้องยิ่งใหญ่ จะต้องมีรากฐาน แก่นของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เชิดชูยกขึ้นเป็นหลักการปกครอง เพื่อพิสูจน์แนวคิดธรรมาธิปไตยว่ามีความถูกต้องยิ่งใหญ่ ที่จะเป็นแนวทางอันยิ่งใหญ่ในการสร้างชาติของให้ยิ่งใหญ่ต่อไป ดังนี้
ก่อนอื่นเราจะต้องรู้จักตัวเราเองเสียก่อน ด้วยการวิปัสสนาญาณ จะได้พบสัจธรรม คือสัมพันธภาพระหว่างด้านเอกภาพกับด้านความแตกต่างหลากหลายของธรรมะ หรือของกฎธรรมชาติ ในมิติต่างๆ ดังจะได้แสดงโดยย่อเป็นลำดับไป ดังนี้
1. ชีวิต หรือขันธ์ 5 (กาย กับ จิต หรือ รูป กับ นาม) โดยมีสัมพันธภาพ ดังนี้
2. สภาวะกฎธรรมชาติ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างสภาวะอสังขตธรรมกับสภาวะสังขตธรรม จัดความสัมพันธ์ได้ ดังนี้
แสดงให้เห็นว่า ขันธ์ 5 และกฎธรรมชาติอยู่ภายใต้กฎเดียวกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยปัญญาอันยิ่งสูงสุดดังกล่าว จึงได้จัดสัมพันธภาพในด้านต่างๆ เพิ่มเติม ดังนี้
3. การประยุกต์เข้ากับอุดมการณ์ชาติ คือ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” และระบอบการเมือง (Politic regime) ฯลฯ บนความสัมพันธ์ระหว่างด้านเอกภาพกับด้านความแตกต่างหลากหลาย เป็นหนึ่งเดียวกันในทุกมิติ นี่คือความยิ่งใหญ่อันได้เจริญรอยตามพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง อันจะเป็นเหตุแห่งความมั่นคง เจริญรุ่ง ยิ่งใหญ่ด้วยแนวทางอารยธรรมใหม่ โดยสังเขป ดังนี้
อีกนัยที่สำคัญคือ ความแตกต่างหลากหลายต้องขึ้นต่อด้านองค์เอกภาพเสมอไป หรือองค์แห่งเอกภาพแผ่ออกไปสู่ส่วนที่สัมพันธ์เกี่ยวพันกันทั้งหมด (แผ่กับรวมศูนย์ คือเหตุปัจจัยก่อให้เกิดดุลภาพ ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนเช่นเดียวกับกฎธรรมชาติ) เมื่อมองภาพรวมทุกมิติ ก็จะเห็นเป็นลักษณะพระธรรมจักร เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก จะเขียนภาพ เพื่อประกอบความเข้าใจ ดังนี้
สัมพันธภาพในมิติต่างๆ ดังกล่าวนี้ คือปัญญาอันยิ่งใหญ่ จะเห็นได้ว่าถ้าสาธุชนทั้งหลายได้ร่วมใจกัน ร่วมมือกันผลักดันดำเนินการให้ถูกต้องโดยธรรม ก็จะเป็นเหตุให้ประเทศไทยมีความดำรงอยู่อย่างดลุยภาพ ก้าวหน้า มั่นคง ยั่งยืน เช่นเดียวกับกฎธรรมชาติ ที่ดำรงอยู่มายาวนานเป็นล้านๆ ปีมาแล้ว ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งของระบอบนรกจะเดินหน้าต่อไป
มีข้อสังเกตว่า ถ้าด้านเอกภาพไม่ดี หรือไม่มี ด้านความแตกต่างหลากหลายก็จะพลอยเลวร้าย พินาศเสียหายไปด้วย เช่น เมื่อกิเลสครอบงำจิต กาย วาจา ก็จะไม่ดีไปด้วย
ดวงอาทิตย์พินาศ ดาวเคราะห์ก็พินาศด้วย
ระบอบการเมืองมิจฉาทิฐิ ย่อมแผ่ความเลวร้าย ความไม่เป็นธรรมออกไปสู่ปวงชน และส่วนที่สัมพันธ์เกี่ยวพันกันทั้งหมดทั้งประเทศ ประเทศชาติพินาศ เพราะระบอบการเมืองเลวนี่เอง นี่คือเหตุแห่งความพินาศฉิบหายทั้งปวงของประเทศชาติ
สัมพันธภาพระหว่างเอกภาพกับความแตกต่างหลากหลายเป็นกฎธรรมชาติ เป็นสัจธรรมอันยิ่งใหญ่ ได้พัฒนาองค์ความรู้ คือรู้รักสามัคคีธรรม เจริญรอยตามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน คือหลักเอกภาพ อันเป็นหลักหนึ่งในธรรมาธิปไตย 9 ซึ่งเป็นองค์ความรู้ใหม่ของโลกยังไม่มีใครนำเสนอมาก่อน
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสัมมาทิฐิ ซึ่งตรงกันข้ามกับระบอบเผด็จการปัจจุบัน ที่ขบวนการเมืองทั้งหมด คือกลุ่มคนล้มเหลวทั้งหลาย ยังเห็นผิด คิดผิด พูดผิด ทำผิด แล้วทำร้ายประเทศชาติและประชาชนมาแล้ว 76 ปี คนพวกนี้เขากินอะไร ถึงได้หลง โง่เขลาเบาปัญญากันยิ่งนัก
ผู้มีเจตนาดี มีอุดมการณ์มั่นคงในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะต้องยืนขึ้นอุทิศตนศึกษาธรรมาธิปไตยให้ถ่องแท้ เมื่อท่านก็ต้องศึกษาและรับรอง เพื่อร่วมแก้ไขเหตุวิกฤตชาติและโลกต่อไป
สาธุชนคนดี ผู้มีปัญญาทั้งหลาย พึงนำไปศึกษาอย่างโยนิโสมนสิการ คือศึกษาอย่างจริงจังและแยบคาย นำไปสัมมนาทำให้เกิดความกระจ่างเถิด จะก่อเกิดคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและมนุษยชาติทั้งปวง
สาธุชนคนดีทั้งหลาย ร่วมกันอุทิศตนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นพลังก่อให้เกิดความถูกต้องในแผ่นดินด้วยการศึกษา ผลักดัน ให้มีการสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย (มี 9 ข้อ ได้นำเสนอมาเป็นลำดับแล้ว) ให้เป็นเอกภาพหรือศูนย์กลางของปวงชนไทยทุกคน ให้สำเร็จลุล่วงในเร็ววัน ฤาท่านจะยอมให้ประเทศชาติของเราต้องล้มเหลวต่อไปๆๆ เช่นนั้นหรือ
เรามีพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งชาติ ที่ดีที่สุด ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรของพระองค์ด้วยโครงการพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการ ตลอดระยะเวลา 60 กว่าปีที่พระองค์ทรงครองราชย์ นี่คือยิ่งใหญ่ของพระองค์ ความดีอันเป็นรากฐาน แก่นแท้ของชาติ แต่ก็สามารถจะต้านทานความเลวร้ายจากระบอบการเมืองมิจฉาทิฐิ ที่ครอบงำมายาวนาน 76 ปี นั่นได้
แต่กลับกลายเป็นความล้มเหลวในทุกด้าน ล้าหลังถดถอยลงๆ อ่อนแอลง อย่างไม่น่าเชื่อ กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านกล้าที่จะเอาเปรียบเราตลอดเวลา ทั้งนี้ด้วยเหตุเพียงประการเดียวเท่านั้น อันเป็นเหตุแห่งความเลวร้ายทั้งปวงของชาติคือ การที่เราไม่มีหลักการปกครอง เป็นเหตุให้รัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับเป็นมิจฉาทิฐิเรื่อยมา แต่ผู้รับผิดชอบใหญ่ กลับมองไม่เห็น
การมีรัฐธรรมนูญโดยไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม อุปมาดุจดัง ดอกไม้อันหลากหลาย กองเรี่ยราด, ดุจดังดาวเคราะห์ไม่ดวงอาทิตย์, ดุจดังชิงช้าสวรรค์ที่กองอยู่อย่างระเกะระกะ ฯลฯ
พวงมาลัยที่สวยงามเพราะมีด้ายร้อยไว้เป็นแกนกลาง, ดาวเคราะห์ดำรงอยู่ได้เพราะดวงอาทิตย์, ชิงช้าสวรรค์หมุนอยู่ได้ เพราะมีเพลาเป็นแกนกลางอันแข็งแรง...ฉันใด
ระบอบการเมืองที่ถูกต้องยิ่งใหญ่ จะต้องมีรากฐาน แก่นของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เชิดชูยกขึ้นเป็นหลักการปกครอง เพื่อพิสูจน์แนวคิดธรรมาธิปไตยว่ามีความถูกต้องยิ่งใหญ่ ที่จะเป็นแนวทางอันยิ่งใหญ่ในการสร้างชาติของให้ยิ่งใหญ่ต่อไป ดังนี้
ก่อนอื่นเราจะต้องรู้จักตัวเราเองเสียก่อน ด้วยการวิปัสสนาญาณ จะได้พบสัจธรรม คือสัมพันธภาพระหว่างด้านเอกภาพกับด้านความแตกต่างหลากหลายของธรรมะ หรือของกฎธรรมชาติ ในมิติต่างๆ ดังจะได้แสดงโดยย่อเป็นลำดับไป ดังนี้
1. ชีวิต หรือขันธ์ 5 (กาย กับ จิต หรือ รูป กับ นาม) โดยมีสัมพันธภาพ ดังนี้
2. สภาวะกฎธรรมชาติ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างสภาวะอสังขตธรรมกับสภาวะสังขตธรรม จัดความสัมพันธ์ได้ ดังนี้
แสดงให้เห็นว่า ขันธ์ 5 และกฎธรรมชาติอยู่ภายใต้กฎเดียวกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยปัญญาอันยิ่งสูงสุดดังกล่าว จึงได้จัดสัมพันธภาพในด้านต่างๆ เพิ่มเติม ดังนี้
3. การประยุกต์เข้ากับอุดมการณ์ชาติ คือ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” และระบอบการเมือง (Politic regime) ฯลฯ บนความสัมพันธ์ระหว่างด้านเอกภาพกับด้านความแตกต่างหลากหลาย เป็นหนึ่งเดียวกันในทุกมิติ นี่คือความยิ่งใหญ่อันได้เจริญรอยตามพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง อันจะเป็นเหตุแห่งความมั่นคง เจริญรุ่ง ยิ่งใหญ่ด้วยแนวทางอารยธรรมใหม่ โดยสังเขป ดังนี้
อีกนัยที่สำคัญคือ ความแตกต่างหลากหลายต้องขึ้นต่อด้านองค์เอกภาพเสมอไป หรือองค์แห่งเอกภาพแผ่ออกไปสู่ส่วนที่สัมพันธ์เกี่ยวพันกันทั้งหมด (แผ่กับรวมศูนย์ คือเหตุปัจจัยก่อให้เกิดดุลภาพ ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนเช่นเดียวกับกฎธรรมชาติ) เมื่อมองภาพรวมทุกมิติ ก็จะเห็นเป็นลักษณะพระธรรมจักร เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก จะเขียนภาพ เพื่อประกอบความเข้าใจ ดังนี้
สัมพันธภาพในมิติต่างๆ ดังกล่าวนี้ คือปัญญาอันยิ่งใหญ่ จะเห็นได้ว่าถ้าสาธุชนทั้งหลายได้ร่วมใจกัน ร่วมมือกันผลักดันดำเนินการให้ถูกต้องโดยธรรม ก็จะเป็นเหตุให้ประเทศไทยมีความดำรงอยู่อย่างดลุยภาพ ก้าวหน้า มั่นคง ยั่งยืน เช่นเดียวกับกฎธรรมชาติ ที่ดำรงอยู่มายาวนานเป็นล้านๆ ปีมาแล้ว ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งของระบอบนรกจะเดินหน้าต่อไป
มีข้อสังเกตว่า ถ้าด้านเอกภาพไม่ดี หรือไม่มี ด้านความแตกต่างหลากหลายก็จะพลอยเลวร้าย พินาศเสียหายไปด้วย เช่น เมื่อกิเลสครอบงำจิต กาย วาจา ก็จะไม่ดีไปด้วย
ดวงอาทิตย์พินาศ ดาวเคราะห์ก็พินาศด้วย
ระบอบการเมืองมิจฉาทิฐิ ย่อมแผ่ความเลวร้าย ความไม่เป็นธรรมออกไปสู่ปวงชน และส่วนที่สัมพันธ์เกี่ยวพันกันทั้งหมดทั้งประเทศ ประเทศชาติพินาศ เพราะระบอบการเมืองเลวนี่เอง นี่คือเหตุแห่งความพินาศฉิบหายทั้งปวงของประเทศชาติ
สัมพันธภาพระหว่างเอกภาพกับความแตกต่างหลากหลายเป็นกฎธรรมชาติ เป็นสัจธรรมอันยิ่งใหญ่ ได้พัฒนาองค์ความรู้ คือรู้รักสามัคคีธรรม เจริญรอยตามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน คือหลักเอกภาพ อันเป็นหลักหนึ่งในธรรมาธิปไตย 9 ซึ่งเป็นองค์ความรู้ใหม่ของโลกยังไม่มีใครนำเสนอมาก่อน
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสัมมาทิฐิ ซึ่งตรงกันข้ามกับระบอบเผด็จการปัจจุบัน ที่ขบวนการเมืองทั้งหมด คือกลุ่มคนล้มเหลวทั้งหลาย ยังเห็นผิด คิดผิด พูดผิด ทำผิด แล้วทำร้ายประเทศชาติและประชาชนมาแล้ว 76 ปี คนพวกนี้เขากินอะไร ถึงได้หลง โง่เขลาเบาปัญญากันยิ่งนัก
ผู้มีเจตนาดี มีอุดมการณ์มั่นคงในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะต้องยืนขึ้นอุทิศตนศึกษาธรรมาธิปไตยให้ถ่องแท้ เมื่อท่านก็ต้องศึกษาและรับรอง เพื่อร่วมแก้ไขเหตุวิกฤตชาติและโลกต่อไป
สาธุชนคนดี ผู้มีปัญญาทั้งหลาย พึงนำไปศึกษาอย่างโยนิโสมนสิการ คือศึกษาอย่างจริงจังและแยบคาย นำไปสัมมนาทำให้เกิดความกระจ่างเถิด จะก่อเกิดคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและมนุษยชาติทั้งปวง
สาธุชนคนดีทั้งหลาย ร่วมกันอุทิศตนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นพลังก่อให้เกิดความถูกต้องในแผ่นดินด้วยการศึกษา ผลักดัน ให้มีการสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย (มี 9 ข้อ ได้นำเสนอมาเป็นลำดับแล้ว) ให้เป็นเอกภาพหรือศูนย์กลางของปวงชนไทยทุกคน ให้สำเร็จลุล่วงในเร็ววัน ฤาท่านจะยอมให้ประเทศชาติของเราต้องล้มเหลวต่อไปๆๆ เช่นนั้นหรือ
