‘นครสงขลา’ สร้างเขื่อนทรายกันคลื่นเสร็จแล้ว

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นายกเทศมนตรีนครสงขลาเผยเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายหาดสมิหลาเสร็จแล้ว โดยรูปแบบการก่อสร้างใช้ถุงทรายกั้นแนวก่อนถมทรายธรรมชาติทับ เชื่อป้องกันคลื่นกระแทกได้ดี เตรียมตั้งงบอีก 32 ล้านขยายเพิ่มปีหน้า

นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีนครสงขลา เปิดเผยว่า การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา จ.สงขลา ระยะทาง 250 เมตร ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง ใช้งบประมาณก่อสร้างเกือบ 7 ล้านบาท ขณะนี้การก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งใช้ทรายเป็นส่วนใหญ่ทำเป็นเขื่อนขึ้นมา ทั้งฝั่งอยู่ในดินและเป็นเขื่อนกำแพงอยู่บนดิน ความสูงเท่าระดับถนนชลาทัศน์ เชื่อว่า สามารถป้องกันการกัดเซาะชายหาดสมิหลาสงขลา ได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เขื่อนกันคลื่นป้องกันการกัดเซาะตลิ่งชายหาดชลาทัศน์ เป็นเขื่อนแบบใช้ถุงทรายวางเรียงซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ขนานไปกับแนวชายหาด เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล โดยเรียงถุงทรายให้ด้านหน้าลาดเอียง เพื่อลดแรงสะท้อนกลับของคลื่นและลดการกัดเซาะฐานเขื่อนด้านหน้า การก่อสร้างเขื่อนแบบถุงทรายจะก่อสร้างใต้ชายหาด เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะถมกลับด้วยทรายเพื่อให้ชายหาดมีความสวยงามเช่นเดิม

สำหรับถุงทราย เป็นวัสดุประดิษฐ์เพื่อใช้ทดแทนหินขนาดใหญ่หรือก้อนหินคอนกรีต มีหน้าที่รับแรงกระแทกของคลื่นทะเล โดยใช้แผ่นใยสงเคราะห์ (Geotextile) มาเย็บขึ้นเป็นถุงให้มีขนาดใหญ่พอที่จะรับแรงกระแทกของคลื่นทะเลได้ การก่อสร้างจะบรรจุทรายเต็มถุงและเรียงเป็นชั้นๆ ขนานไปกับแนวชายหาด

ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติทางทะเล โดยเฉพาะปรากฏการณ์ "สตอร์ม เซิร์จ" หรือคลื่นพายุหมุน หรือภัยน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ โดยจังหวัดสงขลาร่วมมือกันแบบบูรณาการทั้งจังหวัด โดยมีอำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนคร เทศบาลตำบล และ อปท.ในพื้นที่ต่างๆ โดยซักซ้อมแผนอพยพหนีภัย รวมถึงสร้างระบบการเตือนภัยที่ทุกฝ่ายพร้อมปฏิบัติร่วมกันทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นในการรับมือเหตุฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตามในปี 2552 ได้ตั้งงบประมาณเพิ่มเติมอีก 32 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 800 เมตร เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ชายหาดแหลมสมิหลาสงขลาตรงบริเวณนี้ทั้งหมด