xs
xsm
sm
md
lg

เป่านกหวีดกู้ชาติก่อนล่มจม!!พันธมิตรฯร่วมพลใหญ่26ส.ค.นี้ไล่รัฐบาลหุ่นเชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตรฯ"ประกาศ"เป่านกหวีด" นัดร่วมพลใหญ่ครั้งสุดท้ายอังคารนี้ (26) แสดงพลังขับไล่"รัฐบาลหุ่นเชิด" ออกไป ก่อนที่ชาติจะล่มจม พร้อมออกแถลงการณ์ เร่งสนองกระแสพระราชดำรัสในหลวง "ให้ใช้เงินอย่างระมัดระวัง" จี้ยกเลิกเมกะโปรเจตก์ทั้งหมดที่ผลาญเงินชาติ "สุริยะใส" มั่นใจเป่านกหวีดครั้งสุดท้าย ต้องได้รับชัยชนะ เตือน"เลี้ยบ"ละเมิดกฎหมายสั่งสรรพากรถอนอายัดให้"โอ๊ค-เอม"ผิดกฎหมาย พันธมิตรฯต่างจังหวัดพร้อมเข้ากรุง "ชวน หลีกภัย " ชี้อดีตนายกฯ ทักษิณ หนีคดีซุกอยู่อังกฤษต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายเท่าเทียมคนอื่น ไม่มียกเว้น "ผอ.โยธินบูรณะ" ประกาศชัดไม่ปิดโรงเรียนหนีพันธมิตรฯจันทร์นี้(25) ด้าน“คุณหญิงกษมา” ยันการสร้างรัฐสภาไกลเกินกว่าประชาพิจารณ์แล้ว ยันสพฐ.ดูแลผลประโยชน์ของเด็กเป็นหลัก

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ย้ำว่า ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.ที่พันธมิตรฯเริ่มชุมนุมใหญ่เพื่อเร่งรัดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ให้รัฐบาลโยกย้ายข้าราชการเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้หลุดพ้นจากคดีทุจริต จากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯก็ได้พัฒนาการต่อสู้ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหนีคดียุบพรรคและให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นความผิด
นายสนธิ ยังอธิบายถึงการดิ้นรนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีความพยายามติดสินบนศาล แต่ไม่สำเร็จและต้องหนีออกนอกประเทศ แต่กระบวนการขายชาติ ขายอธิปไตยยังดำเนินการต่อไป เช่น กรณียกอธิปไตยประสาทพระวิหาร โดยมี นายนพดล ปัทมะ (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) เป็นตัวแทน รวมทั้งขายชาติในรูปแบบโครงการเมกะโปรเจกต์ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน และทุกอย่างมี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีส่วนร่วมและรับรู้
นายสนธิ กล่าวถึงกระบวนการล้มล้าง ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข ดาตอร์ปิโด ขณะเดียวกันมีกระบวนการกลั่นแกล้งตัวเองและพันธมิตรฯอย่างต่อเนื่อง
นายสนธิ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตนี้ ไม่เคยได้ยินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสแบบนี้มาก่อน พระองค์ทรงบอกว่าชาติใกล้ล่มจม
"สมัยก่อนพระองค์ท่านเคยตรัสว่า ชาติยังไม่ล่มจมมากู้ชาติทำไม แต่ตอนนี้ชาติใกล้ล่มจมแสดงว่าถึงเวลากู้ชาติแล้ว" นายสนธิ ระบุและว่า ตนเองขอพูดต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าถึงเวลาประกาศการกู้ชาติครั้งสุดท้าย ขอให้พี่น้องในต่างจังหวัดเริ่มทยอยมารวมพลกันในคืนวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม ส่วนพี่น้องในกรุงเทพฯให้มารวมพลสมทบตั้งแต่เช้าวันอังคารตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า
"ให้พี่น้องจากทุกจังหวัดทั่วประเทศตระเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม เช่น เสื้อกันฝน ร่วม เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม วันอังคารที่ 26 สิงหาคมนี้พวกเราจะเคลื่อนขบวนไม่เกิน 8 โมงเช้า ส่วนจะไปที่ไหนจะบอกในวันนั้นอีกครั้ง แต่ต้องไม่ให้รัฐบาลนี้ทำงานต่อไปอย่างเด็ดขาด" นายสนิ ระบุ
แกนนำพันธมิตรฯผู้นี้ ยังกล่าวเรียกร้องว่า พี่น้องที่ฟังพระราชดำรัสที่ทรงบอกว่าบ้านเมืองใกล้ล่มจมแล้ว เวลานี้เรามีรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ เราจะปล่อยให้ล่มจมรือ
"รัฐบาลนี้สร้างแต่ความเสียหายให้แก่บ้านเมือง และกว่า 90 วันที่พี่น้องได้รับรู้มาตลอด" นายสนธิ ระบุและว่า ชัยชนะต้องแลกมาด้วยความอดทนและมุ่งมั่น และย้ำว่า ภารกิจศักดิ์สิทธิ์นี้ต้องสิ้นสุดไป และขอวิงวอนพี่น้องทั่วประเทศให้ออกมาเป็นครั้งสุดท้าย
จากนั้น นายสนธิ ได้เป่านกหวีดสังสัญญาณกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ

มั่นใจ"เป่านกหวีด"นำชัยชนะ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯกล่าวว่า สถานการณ์ในช่วงนี้ 5 แกนนำพันธมิตรฯได้มีการประชุมหารือกัน พร้อมประกาศนกหวีดครั้งสุดท้าย เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมใดๆ หลงเหลืออยู่ในการบริหารประเทศ ซ้ำร้ายยังพยายามช่วยผู้หลบหนีคดีอาญา ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งในประเทศได้ แต่หากบริหารงานต่อ อาจจะเพิ่มความขัดแย้งให้หนักมากขึ้น ยืนยันว่า การเป่านกหวีดครั้งนี้ มีการประเมินแล้วว่าจะเป็นการเป่านกหวีดครั้งสุดท้าย และจะประสบความสำเร็จ เป้าหมายอยู่ที่การโค่นล้มรัฐบาลหุ่นเชิด ส่วนมาตราการเบื้องต้นได้คุยไปบ้างแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พันธมิตรฯประเมินสถานการณ์อย่างไรว่าจะประสบความสำเร็จ นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้มีการส่งสัญญาณความรุงแรงจากฝั่งคนรักทักษิณ โดยมีการเคลื่อนไหวเพื่อล่ารายชื่อที่สวนจตุจักร ไปพร้อมๆกับการเคลื่อนไหวที่มากขึ้นในต่างจังหวัด แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลก็ยังคงนิ่งเฉย
เมื่อถามว่าจะเป็นเคลื่อนไหวให้ทหารออกมาทำรัฐประหารอีกหรือไม่ นายสุริยะใสกล่าวว่า คงไม่ใช่การยั่วยุให้เกิดการรัฐประหาร เพราะประชาชนมีหน้าที่ขับไล่รัฐบาลฉ้อฉลอยู่แล้ว ทางกองทัพไม่มีหน้าที่ดังกล่าว แต่หากไปกลัวทหารเคลื่อนไหว ก็เท่ากับเป็นการสนับสนุนให้รัฐบาลฉ้อฉล เราจึงต้องชั่งน้ำหนัก

พธม.ต่างจังหวัดตบเท้าเข้ากรุง
นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มได้ข้อสรุปว่า เครือข่ายยามเฝ้าแผ่นดิน-พันธมิตรฯภูเก็ต จะออกเดินทางจากจังหวัดภูเก็ต ในวันอาทิตย์ที่ 24 ส.ค.นี้ เวลา 08.00 น.โดยขบวนรถจะออกจากบริเวณหน้าศาลเจ้ากิ้วเทียนเก้ง ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งจอโปรเจกเตอร์ถ่ายทอดสดบรรยากาศการรวมตัวชุมนุมของพี่น้องพันธมิตรส่วนกลาง ทั้งนี้ ทางกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ได้เตรียมรถบัสไว้ทั้งหมด 5 คัน ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์เดินทางร่วมไปกับคณะเต็มแล้ว 1 คัน โดยมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 1,500 บาท สำหรับเป็นค่ารถ และค่าที่พัก ซึ่งผู้ที่สนใจจะเดินทางร่วมไปกับคณะสามารถไปติดต่อสอบถามได้ที่เต็นท์อำนวยการ "กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต" ปลายแหลมสะพานหิน ตั้งแต่วานนี้ (22 ส.ค.) หรือ โทร.081-537-3756, 081-958-4085

เตือน'เลี้ยบ'ละเมิดกม.ให้"โอ๊ค-เอม"
นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีที่กรมสรรพากร พยายามทำหนังสือเพื่อถอดอายัดทรัพย์สินของนายพานทองแท้ กับ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร มูลค่ากว่า 76,000 ล้านบาท ว่า กรณีนี้ตนขอเตือนไปยังนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสรรพากร จะใช้อำนาจตามกฏหมายข้อใดมาทำ เพราะเป็นไปได้ว่า การดำเนินการดังกล่าวนี้ อาจเป็นการบีบบังคับให้ข้าราชการดำเนินงาน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ในสัปดาห์หน้า(วันจันทร์ที่ 25 ส.ค.นี้)อัยการสูงสุดจะยื่นเรื่องต่อศาลให้ดำเนิการยึดทรัพย์สินก้อนดังกล่าว
"ตนตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ด้วยเหตุนี้ข้าราชการในระบอบทักษิณจึงพยายามถอนอายัดให้เร็วที่สุด ทั้งๆที่ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นการได้มาในระหว่างที่ระบอบทักษิณเรืองอำนาจ ที่สำคัญยังเป็นผลประโยชน์ของประชาชนด้วย ตนขอเตือนให้ข้าราชการมีความหนักแน่น และดำรงตนเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองในช่วงขาลง"
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเรื่องร้องให้ถอนพาสปอร์ตของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พันธมิตรฯไปยืนจดหมายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนรู้สึกผิดหวังในการทำหน้าที่ของนายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาลที่ไม่ทำหน้าที่ๆ ควรจะทำ ทุกฝ่ายควรเอาจริงเอาจัง เพราะว่าในขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้ประโยชน์จากพาสปอร์ตเล่มดังกล่าวเดินทางไปทั่วโลก เพื่อเดินสายล็อบบี้รัฐบาลต่างประเทศ พร้อมกับสั่งการให้ลิ่วล้อในประเทศเคลื่อนไหวทางการเมือง
" ตนเชื่อว่ายิ่งยึดพาสปอร์ตได้เร็วเท่าไหร่ จะสามารถกุมสถาณการณ์ได้เร็วขึ้น แต่น่าเสียดายที่ขณะนี้นักการเมืองข้าราชการต่างโยนกันไปโยนกันมา และสะท้อนให้เห็นความไม่รับผิดชอบของรัฐบาลชุดนี้"

"ชวน"กรีด"แม้ว"อ้างศาลถูกแทรกแซง
นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวภายหลังจากตรวจเยี่ยมให้กำลังทหารไทยและเจ้าหน้าที่ ที่ปฎิบัติงานบนเขาพระวิหารชายไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ถึงกรณีออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรีและภรรยา ที่หนีคดีอาญาแผ่นดินไปอยู่ประเทศอังกฤษ ว่า เป็นเรื่องของทางฝ่ายกฏหมายที่จะต้องดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตามต้องปฏิบัติโดยเสมอกันไม่ใช่ไปยกเว้น โดยเราปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติต่อทุกคนเช่นนั้นไม่มากน้อยกว่ากัน เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มารายงานตัวและจะขอลี้ภัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษนั้น ตนเห็นว่าเป็นข้ออ้างของแต่ละคน แต่ปัญหาในขณะนี้ไม่ใช่การเมือง สิ่งที่รัฐบาลควรทำและต้องทำความเข้าใจอย่างเร่งด่วนก็คือ ความชอบธรรมของบ้านเมืองนั้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ หากมีใครไปกล่าวหาว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง เราก็ต้องดูว่าใครเป็นรัฐบาล ทั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลชุดใดก็ตามที่ปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แสดงว่ารัฐบาลชุดนั้นไม่รับผิดชอบ
" ฉะนั้นรัฐบาลชุดนี้ซึ่งตามความจริงก็คือเป็นรัฐบาลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ถ้ารัฐบาลที่เป็นฝ่ายของท่านเองประพฤติปฏิบัติการใดที่ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ปล่อยให้องค์กรอื่นเข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างนี้ แสดงว่ารัฐบาลชุดนั้นใช้ไม่ได้ ฉะนั้นเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้จะต้องดูว่าคำกล่าวอ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความจริงหรือไม่ หากเป็นความจริงรัฐบาลชุดนี้ก็จะต้องรับผิดชอบ"ประธานฯปชป.กล่าวและว่า

ผอ.ร.ร.โยธินฯยันจันทร์นี้เปิดสอนปกติ
นายมานพ นพศิริกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนโยธินบูรณะ กล่าวถึงกรณีที่ในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.นี้ พันธมิตรฯมีกำหนดการณ์จะเดินทางไปให้กำลังใจนักเรียนที่คัดค้านการรื้อโรงเรียนเพื่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ว่า จะไม่มีการปิดโรงเรียนอย่างแน่นอน โดยจะปิดการเรียนการสอนตามปกติ และจะรอต้อนรับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย
ด้านนางรพีพรรณ เอกสุภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 (สพท.กทม.เขต 1 ) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ทาง สพท.1 ได้ประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการบริหารโรงเรียนโยธินบูรณะและผู้ปกครอง เพื่อหาแนวทางแก้ไขในการย้ายโรงเรียน เนื่องจากนักเรียน ผู้ปกครองมีความเห็นแตกต่างกันและมีเงื่อนไข
เช่น ไม่ให้มีการย้ายโรงเรียนภายใน 2 ปี พร้อมกันนี้ยังขอให้ปรับสภาพแวดล้อมบริเวณที่จะไปสร้างโรงเรียนแห่งใหม่ ย่านวัดสร้อยทองให้ดีขึ้น รวมไปถึงขอให้ย้ายปั๊มแก๊สออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและชาวบ้าน
“การย้ายรัฐสภาตามนโยบายรัฐบาล เราก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เราต้องมาดูกันว่า เมื่อไปอยู่สถานที่แห่งใหม่ จะทำอย่างไรให้โรงเรียนมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ดีที่สุด ”

คุณหญิงกษมาโบ้ยสร้างรัฐสภาใหม่ยากแก้!!
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวยอมรับว่า การสร้างรัฐสภาแห่งใหม่เป็นเรื่องที่ "ดำเนินการมาไกลเกินกว่าที่จะมาทำประชาพิจารณ์แล้ว" เรื่องนี้ต้องให้รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ ในส่วนของโรงเรียนตนได้กำชับให้ ผอ.โรงเรียนไปทำความเข้าใจกับนักเรียน รวมถึงผู้ปกครองแล้ว และทราบว่าทาง ผอ.ก็ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ปกครองแล้ว
"เรื่องโรงเรียนโยธินฯไปเชื่อมโยงกับการเมือง ก็ต้องบอกว่า การเมืองเข้าไปเกี่ยวได้ทุกเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องของโรงเรียนที่ต้องมีการชี้แจงเหตุผล ส่วนสพฐ.มีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์เท่านั้น ในเรื่องการย้ายสถานที่เรียนของนักเรียน ดูแลให้เด็กได้รับประโยชน์มากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากมีการย้ายจริงก็ต้องใช้เวลาสร้างปี 2 ปี"
กำลังโหลดความคิดเห็น