xs
xsm
sm
md
lg

ศาลรธน.นัด “หมัก”8ก.ย.ไต่สวนจัด “ชิมไปบ่นไป”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 21 ส.ค. ) คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีนายชัช ชลวร เป็นประธานได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่อให้คู่กรณีในคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ ส.ว.และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เนื่องจากเป็นพิธีกรดำเนินรายการ ชิมไปบ่นไป ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 182 วรรคหนึ่ง ( 7 ) และมาตรา 267 ประกอบ 182 วรรคสาม และมาตรา 91 ได้ตรวจพยานหลักฐานครั้งแรกก่อนเริ่มการไต่สวน
โดยฝ่ายผู้ร้องนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เดินทางมาพร้อมกับผู้แทนที่รับมอบอำนาจจาก กกต. ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกร้องคือนายสมัคร มอบอำนาจให้ นายธนา เบญจาธิกุล อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นทนายความมาดำเนินการ ซึ่งหลังจากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตรวจสอบพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุมาแสดงต่อกัน อาทิ คำชี้แจงจากผู้แทนกรมสรรพากร ผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากบริษัท เฟซ มิเดีย จำกัด เจ้าของรายการ ชิมไปบ่นไป แล้ว นายนายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้สอบถามคู่กรณีว่า จะคัดค้านพยาน ในส่วนใดบ้าง ปรากฏว่าคู่กรณีทั้ง 2 ไม่ติดใจในพยานของแต่ละฝ่าย และขอคัดสำเนาเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวกับรายการเสียภาษี ซึ่งทางคณะตุลาการฯก็อนุญาต ตามที่ขอ พร้อมแจ้งว่า หากคู่กรณีต้องการที่จะโต้แย้งพยานในส่วนใดก็สามารถ ยื่นร้องคัดค้านได้ภายในวันที่ 22 ส.ค.นี้
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดไต่สวนพยานบุคคลของ คณะตุลาการฯในวันที่ 26-27 ส.ค. เวลา 09.30 น.รวม 5 ปาก ประกอบด้วย 1. นาย ศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้แทน 2. พล.อ. ยอดชาย เทพยสุวรรณ ประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวของ กกต. 3.นางดาริกา รุ่งโรจน์ พนักงานบัญชีของ เฟซ มีเดีย จำกัด 4.ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 5. ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 หรือผู้แทนนั้น นายอุดมศักดิ์ ได้แจ้งต่อคู่กรณีหลังการตรวจพยานหลักฐานให้ทราบว่า
พล.อ.ยอดชาย ผอ.ช่อง 3 และ ช่อง 5 ได้ส่งบันทึกถ่อยคำมายังศาล เรียบร้อยแล้ว ส่วนนางดาริกา ศาลฯให้ถือเอาคำบันทึกถ้อยคำในชั้นสอบสวน ของอนุกรรรมการของ กกต. เหลือเพียงนายศานิต ที่ยังไม่ได้จัดส่งบันทึกข้อความมา และยังไม่ได้ประสานมายังศาลรัฐธรรมนูญมาจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งหากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายยังติดใจก็สามารถยื่นคำโต้แย้งได้ภายในวันที่ 22 ส.ค.นี้เช่นกัน รวมทั้งคณะตุลาการฯยังได้นัดไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 3 ปาก โดยเป็นพยานของคณะตุลาการฯคือ นาย วิศิษฏ์ ลิ้มประณะ ผู้สนับสนุนรายการชิมไปบ่นไป ในวันที่ 4 ก.ย. ส่วนพยานฝ่ายขอผู้ถูกร้อง คือ นาย ศักดิ์ชัย แก้วมณีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด และนายสมัคร สุนทรเวช นัดไต่สวนในวันที่ 8 ก.ย.เวลา 09.30 น. แต่ทั้งนี้หากนายศักดิ์ชัย ประสงค์จะเข้าไต่สวนก่อนในวันที่ 4 ก.ย.ก็สามารถทำได้
ด้านนายเรืองไกร กล่าวภายหลังการตรวจพยานว่า เท่าที่ดูจากพยานเอกสาร ต่างๆ ในคำร้องทั้งหมดแล้วถือว่าเพียงพอต่อการพิจารณาของศาล ไม่ติดใจแต่อย่างใด เช่นเดียวกับคำให้การของนางดารกา ก็คิดว่าพอที่จะให้คณะตุลาการฯ พิจารณา ส่วนนายสมัครนั้นทราบว่าศาลนัดให้มาไต่สวน ไม่ใช่ชี้แจงเป็นเอกสาร ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดตนมั่นใจและพร้อมที่จะซักค้านนายสมัครด้วยตนแอง รวมถึงพยานทุกปากด้วย ซึ่งตนก็จะเดินทางมาทุกวันที่มีการนัดไต่วน ทั้งนี้ตนไม่รู้สึกหนักใจอะไรเนื่องจากข้อมูลหลังฐานทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริง
ด้านนายธนา กล่าวว่า ประเด็นที่จะหยิบยกมาโต้แย้งนั้นมี 2 ประเด็น คือตำแหน่งในบริษัท เฟซฯ ที่นายสมัครไม่มีตำแหน่งใดๆในบริษัทดังกล่าว การเป็นลูกจ้างนั้นนายสมัครก็ไม่ได้รับค่าตอบเป็นเงินเดือน และเมื่อมาดำรงตำแหน่งนายกฯแล้วก็ไม่ได้จัดรายการดังกล่าวอีก เพียงแต่ช่วงที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ เป็นการบันทึกเทป ก่อนที่จะรับตำแหน่งนายกฯ อย่างไรก็ตามรายการดังกล่าวออกอากาศมานานแล้ว เพียงแต่มีการนำภาพในช่วงที่นายสมัครเป็นนายกฯมาตัดต่อเพิ่มเติมในรายการ จึงเป็นเหตุให้มีการร้องเรียนดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนตนได้เชิญนานสมัครมาให้การด้วยตนเอง
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน และหัวหน้ากลุ่ม อีสานพัฒนา กล่าวว่าหากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่านายสมัคร ขาดคุณสมบัติเป็นนายกฯ ต่อไปไม่ได้ ต้องพ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตตรีก็ต้องสรรหานายกฯคนใหม่ในที่ประชุมสภา ซึ่งจะเป็นใครนั้นคงต้องเป็นไปตามมติพรรค
หากมติพรรคให้นายสมัครกลับเข้ามาเป็นนายกฯอีกครั้ง เราก็พร้อมที่โหวตเลือกนายสมัครให้เป็นนายกฯอีกครั้ง
นายอนุชา สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคพลังประชาชน กล่าว่า ส่วนตัวแล้วชื่นชอบนายสมัครอยู่แล้ว และสถานการณ์ขณะนี้ก็ไม่มีใครเหมาะกับตำแหน่งนายกฯเท่า ดังนั้นเมื่อมีการโหวตเลือกนายสมัครให้เป็นนายกฯ อีกครั้งตนก็ยินดีและคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสาคาม พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวยืนยันว่าตนและส.ส.ในกลุ่มก็จะโหวตเลือกนายสมัคร กลับเข้ามาเป็นนายกฯ อีกครั้งไม่มีปัญหาอะไร เพราะท่านทำงานดีสามารถประสานกับทุกฝ่ายได้
ด้านนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า หากนายสมัครถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าขาดคุณสมบัติ ก็ไม่มีผลต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปี ก็สามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ได้ เหมือนกับกรณีนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ แต่กรณีของนายสมัครเพียงแต่ต้องมารบกวนสภาผู้แทนราษฎร ให้ลงมติเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งส่วนตัวก็พร้อมสนับสนุนเพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่า
กำลังโหลดความคิดเห็น