7 เดือนแรก "คิวท์เพรส" โต30%สวนกระแส คุยวางหมากถูกเกม ชูสินค้าในขนาดเล็กตอบโจทย์สาวรักสวย ในยุคเงินฝืด เพิ่มคนขายรายย่อยทะลวงเข้าถึงแหล่งชุมชน หวังลดขั้นตอนการจัดส่ง พร้อมคุมการจัดการภายใน รับต้นทุนเพิ่มมา 5% เสริมทัพด้วยเม็ดเงินอีก 14 ล้านบาท ลุตตลาดแจกสินค้าตัวอย่าง มั่นใจสิ้นปี โกยรายได้ถึง1,400 ล้านบาท ทะลุเป้าโต 30%
นายธีระทัศน์ รังสิวรโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสเอสยูพี กรุงเทพฯ 1991 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง คิวท์เพรส เปิดเผยว่า แม้ว่าปีนี้เศรษฐกิจในประเทศจะไม่ดี ผู้บริโภคใช้ความคิดในการตัดสินใช้ซื้อมากขึ้น แต่สำหรับคิวท์เพรส กลับมีรายได้ที่ยังเติบโตได้ดีมาก เห็นได้จาก 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้แล้วกว่า 820 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนถึง 30% ขณะเดียวกันยังเป็นยอดการเติบโตที่สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้จากเดิมที่ 15% ด้วย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้คิวท์เพรสโตสวนกระแส เกิดจากการทำตลาดชูแบรนด์ DNA: Smart&Modern นำเสนอความเป็นเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รวมถึงการที่บริษัทฯขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบชอป ที่มีทั้งการรีโนเวทและเปิดเพิ่ม โดยขณะนี้มีกว่า 150 สาขา ปลายปีคาดว่าจะเปิดเพิ่มได้ถึง 170-180 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยจะเน้นในส่วนของการเปิดให้ได้อำเภอละ 1 แห่ง ในระยะเวลา 3-5 ปีนับจากนี้ โดยแต่ละสาขาใช้เงินลงทุน 5 แสน- 1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่
และการเพิ่มตัวแทนจำหน่าย จากเดิมที่มีแต่ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ 300 ราย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีแนวคิดในการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายรายย่อยขึ้น ขณะนี้มีถึง 500 ราย สิ้นปีคาดว่าจะสูงถึง 700 ราย ซึ่งการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายรายย่อย จะช่วยลดขั้นตอนการส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้มีการปรับแพ็กเกจจิ้งสินค้าใหม่ รวมถึงออกไซส์ซิ่ง ที่มีขนาดเล็กลง และจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม พบว่าผู้บริโภคพร้อมจ่ายดีขึ้น
ในส่วนของจำนวนสมาชิกใหม่ต่อเดือนพบว่า เพิ่มขึ้นถึง 1 เท่าตัว จากปกติ 1หมื่นคน เป็น 2 หมื่นคน หรือในขณะนี้คิวท์เพรสมีฐานสมาชิกแล้วกว่า 2.6 แสนราย แอกทีฟอยู่ประมาณ 30% ขณะที่การใช้จ่ายต่อบิล คิดจากช่องทางคิวท์เพรสชอป ยังพบด้วยว่า เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 100 บาทต่อบิล หรือประมาณ 830บาท
อย่างไรก็ตามปีนี้ทางบริษัทฯยังได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดรวมกว่า 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30% โดยปีนี้จะเน้นกิจกรรมทางการตลาดด้านบิโลว์ เดอะ ไลน์ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายในแคมเปญใหญ่ๆที่จะจัดขึ้นไตรมาสละครั้ง หรือการซัพพรอตให้กับตัวแทนจำหน่ายรายย่อยทั้งในเรื่องของดิสเพลย์ การจัดวางสินค้าหรือทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย และที่สำคัญกับการแจกสินค้าตัวอย่าง หรือการแจกแซมปิ้งของผลิตภัณฑ์ที่ออกวางจำหน่ายใหม่ โดยปีนี้ทางบริษัทฯเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเท่าตัว หรือเฉลี่ยสินค้าออกใหม่แต่ละชิ้น จะมีการแจกแซมปิ้งถึง 2 แสนชิ้น จากปกติในปีก่อนใช้เพียง 1 แสนชิ้น
ล่าสุดในไตรมาส3นี้ บริษัทฯจะมีการจัดแคมเปญใหญ่ เปิดตัวสินค้ากลุ่มเพอร์เซอนัลแคร์ กับแคมเปญ Sweet Must Body Lotion และผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Sweet Must : ซึ่งแคมเปญดังกล่าวคาดว่าจะใช้งบตลาดที่ 30 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยทำให้รายได้ที่จะมาจาก กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท หรือทั้งปีบริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นถึง 25-30% คิดเป็นมูลค่า 1,400-1,500 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนโตเพียง 22%
นายธีระทัศน์ รังสิวรโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสเอสยูพี กรุงเทพฯ 1991 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอาง คิวท์เพรส เปิดเผยว่า แม้ว่าปีนี้เศรษฐกิจในประเทศจะไม่ดี ผู้บริโภคใช้ความคิดในการตัดสินใช้ซื้อมากขึ้น แต่สำหรับคิวท์เพรส กลับมีรายได้ที่ยังเติบโตได้ดีมาก เห็นได้จาก 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้แล้วกว่า 820 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนถึง 30% ขณะเดียวกันยังเป็นยอดการเติบโตที่สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้จากเดิมที่ 15% ด้วย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้คิวท์เพรสโตสวนกระแส เกิดจากการทำตลาดชูแบรนด์ DNA: Smart&Modern นำเสนอความเป็นเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รวมถึงการที่บริษัทฯขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบชอป ที่มีทั้งการรีโนเวทและเปิดเพิ่ม โดยขณะนี้มีกว่า 150 สาขา ปลายปีคาดว่าจะเปิดเพิ่มได้ถึง 170-180 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยจะเน้นในส่วนของการเปิดให้ได้อำเภอละ 1 แห่ง ในระยะเวลา 3-5 ปีนับจากนี้ โดยแต่ละสาขาใช้เงินลงทุน 5 แสน- 1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่
และการเพิ่มตัวแทนจำหน่าย จากเดิมที่มีแต่ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ 300 ราย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีแนวคิดในการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายรายย่อยขึ้น ขณะนี้มีถึง 500 ราย สิ้นปีคาดว่าจะสูงถึง 700 ราย ซึ่งการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายรายย่อย จะช่วยลดขั้นตอนการส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้มีการปรับแพ็กเกจจิ้งสินค้าใหม่ รวมถึงออกไซส์ซิ่ง ที่มีขนาดเล็กลง และจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม พบว่าผู้บริโภคพร้อมจ่ายดีขึ้น
ในส่วนของจำนวนสมาชิกใหม่ต่อเดือนพบว่า เพิ่มขึ้นถึง 1 เท่าตัว จากปกติ 1หมื่นคน เป็น 2 หมื่นคน หรือในขณะนี้คิวท์เพรสมีฐานสมาชิกแล้วกว่า 2.6 แสนราย แอกทีฟอยู่ประมาณ 30% ขณะที่การใช้จ่ายต่อบิล คิดจากช่องทางคิวท์เพรสชอป ยังพบด้วยว่า เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 100 บาทต่อบิล หรือประมาณ 830บาท
อย่างไรก็ตามปีนี้ทางบริษัทฯยังได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดรวมกว่า 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30% โดยปีนี้จะเน้นกิจกรรมทางการตลาดด้านบิโลว์ เดอะ ไลน์ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายในแคมเปญใหญ่ๆที่จะจัดขึ้นไตรมาสละครั้ง หรือการซัพพรอตให้กับตัวแทนจำหน่ายรายย่อยทั้งในเรื่องของดิสเพลย์ การจัดวางสินค้าหรือทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย และที่สำคัญกับการแจกสินค้าตัวอย่าง หรือการแจกแซมปิ้งของผลิตภัณฑ์ที่ออกวางจำหน่ายใหม่ โดยปีนี้ทางบริษัทฯเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเท่าตัว หรือเฉลี่ยสินค้าออกใหม่แต่ละชิ้น จะมีการแจกแซมปิ้งถึง 2 แสนชิ้น จากปกติในปีก่อนใช้เพียง 1 แสนชิ้น
ล่าสุดในไตรมาส3นี้ บริษัทฯจะมีการจัดแคมเปญใหญ่ เปิดตัวสินค้ากลุ่มเพอร์เซอนัลแคร์ กับแคมเปญ Sweet Must Body Lotion และผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Sweet Must : ซึ่งแคมเปญดังกล่าวคาดว่าจะใช้งบตลาดที่ 30 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยทำให้รายได้ที่จะมาจาก กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท หรือทั้งปีบริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นถึง 25-30% คิดเป็นมูลค่า 1,400-1,500 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนโตเพียง 22%