ไม่สน สตง.สอบ "เลี้ยบ" เดินหน้าโครงการมั่นใจไทยแลนด์อีกโครงการ คราวนี้ใช้ชื่อ "การลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทย" ครม.หมักไฟเขียวเงิน 30 ล้าน สตง.แฉพบเอกชนที่รับจัดงาน-พีอาร์ "ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" จดทะเบียนบริษัทฯ ช่วงเดียวกับบริษัทภริยาเลี้ยบ ขณะที่ "หมัก-เลี๊ยบ-ธีรพล" นั่ง ครม.เศรษฐกิจร่วม 4 กุนซือใหม่ตามคาด ถกสร้างภาพกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก 27 ส.ค.นี้
แม้โครงการมหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ "ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แต่วานนี้ (19 ส.ค.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังเห็นชอบการจัดโครงการมหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ หัวข้อใหม่ "การลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทย” ระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2551 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยอนุมัติค่าใช้จ่ายจำนวน 30 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2551 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อจัดงานดังกล่าวโดยดำเนินการตามระเบียบทางราชการ และเป็นผู้ทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ
น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกรัฐบาล แถลงว่ามีการจัดนิทรรศการ และการสัมมนากลุ่มย่อยเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับทราบแนวนโยบายของรัฐ รวมถึงรายละเอียดของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่างๆ จะมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานและความก้าวหน้าของแผนงานและโครงการ และมอบหมาย สศช. และสำนักงานพัฒนาบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงผลงานความก้าวหน้า และสาระสำคัญของการจัดประชุมวิชาการ ขณะเดียวกันสาระสำคัญของโครงการ “มั่นใจไทยแลนด์ : การลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทย” จะมีการนำเสนอเนื้อหาสาระของแผนงานและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่เป็นโครงการของภาคราชการ โครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และโครงการลงทุนของภาคเอกชน
นอกจากหน่วยงานรัฐที่เป็นรัฐวิสาหกิจและภาครัฐ แล้วยังจะมี ภาคเอกชน เช่นสมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ร่วมให้ข้อมูลด้วย
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แหล่งข่าว สตง.เปิดเผยว่า การจัดงานน่าจะใช้รูปแบบและวิธีการเดียวกับครั้งแรก "ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-20 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งใช้มติ ครม. สร้างความชอบธรรมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง เมื่อพิจารณาหลักการของการใช้มติ ครม. จะพบว่ามีลักษณะคล้ายการใช้มติ ครม. ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น โครงการหวย บนดิน หรือสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ที่ใช้มติ ครม.แสวงหาผลประโยชน์ ทั้งนี้ ไม่ใช้วิธีการประมูล ตามระเบียบโครงการที่ใช้งบสูงกว่า 5 ล้านบาท ต้องใช้วิธีประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนการ "การลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทย" เป็นไปตามที่ สตง.คาดการณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าซ้ำรอย "ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" หรือไม่ นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบบริษัทเอกชนที่รับจัดงานและประชาสัมพันธ์โครงการฯ ด้วยว่ามีความสัมพันธ์กับ รมว.คลังและคณะที่ปรึกษาหรือไม่ โดยความคืบหน้าล่าสุดพบว่าการจดทะเบียนบริษัทฯ เป็นช่วงเดียวกันกับการจดทะเบียนของบริษัทที่นางปรานี สืบวงศ์ ภริยา รมว.คลัง ถือหุ้นอยู่
สร้างภาพบูม ศก.ใหม่ 27 ส.ค.นี้
วันเดียวกัน นพ.สุรพงษ์ ยอมรับว่า เตรียมนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในวันที่ 27 ส.ค. นี้ โดยจะเป็นมาตรการที่เน้นการเพิ่มรายได้ และมุ่งหวังจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวได้ 6% โดย ครม.อนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอการแต่งตั้ง “คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (รศก.)” เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการกำหนดและขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการด้านเศรษฐกิจ มีองค์ประกอบของคณะกรรมการ ประกอบด้วยกรรมการ จำนวน 18 คน ได้แก่ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นรองประธานกรรมการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.คมนาคม รมว.พลังงาน รมว.พาณิชย์ รมว.อุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
รวมทั้งคณะที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายวีรพงษ์ รามางกูร นายณรงค์ชัย อัครเศรณี นายคณิศ แสงสุพรรณ และนายปรเมธี วิมลศิริ เป็นกรรมการ โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ มีหน้าที่ประเมินสภาวะเศรษฐกิจ และเสนอแนะนโยบายและมาตรการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สามารถเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ กำกับดูแล ประสาน ผลักดัน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายและมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อดำเนินการอื่นใดตามความเหมาะสม และ ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ ครม.หรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
แม้โครงการมหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ "ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แต่วานนี้ (19 ส.ค.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังเห็นชอบการจัดโครงการมหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ หัวข้อใหม่ "การลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทย” ระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2551 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยอนุมัติค่าใช้จ่ายจำนวน 30 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2551 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อจัดงานดังกล่าวโดยดำเนินการตามระเบียบทางราชการ และเป็นผู้ทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ
น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกรัฐบาล แถลงว่ามีการจัดนิทรรศการ และการสัมมนากลุ่มย่อยเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับทราบแนวนโยบายของรัฐ รวมถึงรายละเอียดของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่างๆ จะมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานและความก้าวหน้าของแผนงานและโครงการ และมอบหมาย สศช. และสำนักงานพัฒนาบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงผลงานความก้าวหน้า และสาระสำคัญของการจัดประชุมวิชาการ ขณะเดียวกันสาระสำคัญของโครงการ “มั่นใจไทยแลนด์ : การลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทย” จะมีการนำเสนอเนื้อหาสาระของแผนงานและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่เป็นโครงการของภาคราชการ โครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และโครงการลงทุนของภาคเอกชน
นอกจากหน่วยงานรัฐที่เป็นรัฐวิสาหกิจและภาครัฐ แล้วยังจะมี ภาคเอกชน เช่นสมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ร่วมให้ข้อมูลด้วย
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แหล่งข่าว สตง.เปิดเผยว่า การจัดงานน่าจะใช้รูปแบบและวิธีการเดียวกับครั้งแรก "ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-20 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งใช้มติ ครม. สร้างความชอบธรรมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง เมื่อพิจารณาหลักการของการใช้มติ ครม. จะพบว่ามีลักษณะคล้ายการใช้มติ ครม. ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น โครงการหวย บนดิน หรือสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ที่ใช้มติ ครม.แสวงหาผลประโยชน์ ทั้งนี้ ไม่ใช้วิธีการประมูล ตามระเบียบโครงการที่ใช้งบสูงกว่า 5 ล้านบาท ต้องใช้วิธีประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนการ "การลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทย" เป็นไปตามที่ สตง.คาดการณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าซ้ำรอย "ดีแน่ ถูกแน่เพื่อคนไทย" หรือไม่ นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบบริษัทเอกชนที่รับจัดงานและประชาสัมพันธ์โครงการฯ ด้วยว่ามีความสัมพันธ์กับ รมว.คลังและคณะที่ปรึกษาหรือไม่ โดยความคืบหน้าล่าสุดพบว่าการจดทะเบียนบริษัทฯ เป็นช่วงเดียวกันกับการจดทะเบียนของบริษัทที่นางปรานี สืบวงศ์ ภริยา รมว.คลัง ถือหุ้นอยู่
สร้างภาพบูม ศก.ใหม่ 27 ส.ค.นี้
วันเดียวกัน นพ.สุรพงษ์ ยอมรับว่า เตรียมนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในวันที่ 27 ส.ค. นี้ โดยจะเป็นมาตรการที่เน้นการเพิ่มรายได้ และมุ่งหวังจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวได้ 6% โดย ครม.อนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอการแต่งตั้ง “คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (รศก.)” เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการกำหนดและขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการด้านเศรษฐกิจ มีองค์ประกอบของคณะกรรมการ ประกอบด้วยกรรมการ จำนวน 18 คน ได้แก่ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นรองประธานกรรมการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.คมนาคม รมว.พลังงาน รมว.พาณิชย์ รมว.อุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
รวมทั้งคณะที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายวีรพงษ์ รามางกูร นายณรงค์ชัย อัครเศรณี นายคณิศ แสงสุพรรณ และนายปรเมธี วิมลศิริ เป็นกรรมการ โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ มีหน้าที่ประเมินสภาวะเศรษฐกิจ และเสนอแนะนโยบายและมาตรการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สามารถเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ กำกับดูแล ประสาน ผลักดัน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายและมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อดำเนินการอื่นใดตามความเหมาะสม และ ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ ครม.หรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย