xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ บุกสถานทูตอังกฤษ 19 ส.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"สนธิ"แกนนำพันธมิตรฯ ประกาศยุทธศาสตร์"ดาวกระจาย" หน้าสถานทูตอังกฤษอีกรอบ ดีเดย์วันอังคารที่ 19 ส.ค.นี้ ยื่นจดหมายเปิดผนึกเปิดโปงพฤติกรรมฉ้อฉลโกงภาษีของ "ทักษิณ-พจมาน"ให้รัฐบาลอังกฤษได้หูตาสว่าง "สนธิ" ชี้ 6 แนวรบเกิดใหม่ที่ต้องเผชิญระบุเป็นกลุ่ม "กลุ่มกลายพันธุ์ใหม่" ที่หิวกระหายกว่าเดิม "อดีตทูต"เตือนอังฤกษ ปล่อย"แม้ว-พจมาน"ลี้ภัยกระทบความสัมพันธ์ 2 ประเทศ พร้อมปลุกประชาชนเรือนแสน แสดงพลังหน้าสถานทูต ด้านตำรวจจับก๊วนดา ตอร์ปิโด ข้อหาร้ายแรงปราศรัยพาดพิงองค์รัชทายาท ด้านพันธมิตรฯจ.อุดรฯจี้ตำรวจลากคอม็อบถ่อยชมรมคนรักอุดรฯรับโทษ นักวิชาการย้ำสื่อต้องใช้คำศัพท์ใหม่อดีตนายกฯทักษิณ "หนีคดีอาญา" ไม่ใช่ลี้ภัยทางการเมือง

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯท่ามกลางสายฝนที่ตกอย่างหนักก่อนที่จะหยุดตกอย่างฉับพลัน ว่า ในวันอังคาที่ 19 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. พวกเราจะมีการรวมพลบริเวณลานเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตอังกฤษ ในการแสดงจุดยืนของประชาชนคนไทยต่อการหลบหนีคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวที่อยู่ในประเทศอังกฤษ พร้อมทั้งจะมีการเปิดโปงเอกสารและนำจดหมายไปถึงเอกราชทูตอังกฤษ เพื่อนำไปถึงรัฐบาลอังกฤษว่า " เงินที่นำไปซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นเงินที่โกงชาติไป"

นอกจากนี้ เราในฐานะประชาชนก็ควรที่จะช่วยราชการ ช่วยตำรวจ โดยการติดประกาศจับตามป้ายเสาไฟฟ้าให้ทั่วประเทศ หรือขึ้นป้ายไปเลย ในเมื่อตำรวจได้ออกเป็นหมายจับแล้ว ประชาชนก็ช่วยราชการ ช่วยจับ

6 แนวรบสู้ "ระบอบทักษิณ-แก๊งออฟโฟร์"

นายสนธิ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแล้ว จะมีแนวรบใหม่เกิดขึ้น 6 แนวรบ นั่นคือ แนวรบที่ 1 ซึ่งก็คือยังเป็นแนวรบของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ต่างประเทศว่าจะตัดสินใจอย่างไรคือ ทางเลือกแรกจะอยู่อย่างสงบหาทางวิ่งเต้นหลบหนีอยู่ต่างประเทศใช้เงินใช้ทองที่เหลืออยู่ ใช้ชีวิตเงียบๆโดยหันหลังให้การเมือง หรือจะเลือกการกลับมาล้างแค้นและทวงคืนอำนาจ

แนวรบที่ 2 เกิดจากกลุ่มแก๊ง 4 คน (แก๊งออฟโฟร์) ที่ประกอบด้วย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชาชน(พปช.) นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรคคไทยรักไทย ซึ่งกลุ่มนี้ได้กลายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ หลังจากที่ พ.ต.ทักษิณ ได้ไปแล้ว และกำลังสร้างอาณาจักรใหม่ขึ้นมา เพื่อแสดงหาอำนาจและแสวงหาผลประโยชน์ต่อไป โดยยกตัวอย่างโครงการขององค์การโทรศัพท์ที่จะเปิดให้บริการ3G ซึ่งมีงบประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาท แต่ปรากฎว่าเลขาฯนายสมัคร ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินงบประมาณเป็น 24,000 ล้านบาท เพื่อหวังที่จะหาประโยชน์จากเปอร์เซ็นต์จากโครงการดังกล่าว

"ขณะนี้ นายสมัคร กำลังตีตนขึ้นเป็นเมืองใหม่ และแก๊งออฟโฟร์เป็นระบอบทักษิณกลายพันธุ์ ที่หิวกระหายกว่าเดิม สามานต์กว่าเดิม " นายสนธิ กล่าว

แนวรบที่ 3 กลุ่มนี้ไม่สนใจว่าใครเป็นนายกฯขอให้พวกตัวเองได้ทำมาหากินก็พอใจแล้ว เพื่อนำเงินที่ได้มารองรับในการเลือกตั้ง เรียกว่าเป็นการ"ปล้นกลางแดด"

แนวรบที่ 4 เป็นกลุ่มธุรกิจการเมืองอีกกลุ่มหนึ่งที่รอจังหวะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเวลานี้ไม่สนใจแล้วว่าจะแก้ไขมาตรา 309 หรือไม่ แต่ขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกยุบพรรคเป็นพอ เพื่อจะได้โกงการเลือกตั้งเข้ามาใหม่แล้ว ไม่ผิด

แนวรบที่ 5 เป็นแนวรบเรื่องอธิปไตยของชาติที่เวลานี้ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปราสาทพระวิหาร พรมแดนตั้งแต่บนบกถึงในทะเล ที่เวลานี้ทางฝ่ายกัมพูชากำลังรุกคืบเข้ามา โดยปล่อยให้ประเทศมหาอำนาจต่างๆเข้ามาขุดเจาะพลังงานซึ่งอยู่ในเขตประเทศไทย เพื่อหวังอำนาจต่อรองประเทศไทย

และแนวรบที่ 6 พวกแก๊งออฟโฟร์ ยังคงสนับสนุนในการจ้องทำร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ โดยเฉพาะ "เพ็ญกาหลิบ"ยังคงลอยนวล ตำรวจไม่ทำอะไร นายกรัฐมนตรีไม่ทำอะไรทั้งสิ้น

"แม้ว-เมีย"ต้องถูกรับโทษในไทย

นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯว่า การออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ซึ่งหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษไม่ได้เป็นแค่เรื่องการเมืองภายในประเทศเท่านั้น แต่เป็นมติเกี่ยวข้องกับต่างประเทศที่จะมีผลต่อการเมืองในประเทศว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ การหลบหนีคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวขณะนี้ เป็นเพียงการหนีคดีเท่านั้น ไม่ได้มีการขอลี้ภัย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการยึดหนังสือเดินทางทั้ง 3 ประเภทที่เขาถืออยู่ เพื่อไม่ให้เดินทางไปไหนได้

นายสุรพงษ์ กล่าวฝากถึงประชาชนว่า เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำขณะนี้ คือ ต้องพิสูจน์ให้ประชาคมโลกและประเทศอังกฤษได้เห็นว่า เราไม่พอใจที่พ.ต.ท.ทักษิณหนีออกนอกประเทศ โดยเราต้องแสดงพลังว่า คนไทยมีความเป็นประชาธิปไตย และรับผิดชอบ ซึ่งประชาชนต้องมารวมตัวกันให้มากที่สุด เป็นหมื่นหรือแสนคน เพื่อแสดงพลังที่หน้าสถานทูตอังกฤษ เพื่อให้รู้ถึงเรื่องนี้

"การชุมนุมหน้าสถานทูตอังกฤษ เพื่อให้เขารู้ว่าเราไม่พอใจ และให้รู้ว่าทักษิณ อยู่ในอังกฤษ แม้จะยังไม่ลี้ภัย ซึ่งเขาเป็นคนโกง โดยเราต้องการให้รัฐบาล และประชาชนอังกฤษตระหนักถึงเรื่องนี้ ให้คำนึงถึงความรู้สึกของคนไทย และความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งจะมีผลกระทบแน่นอน หากอังกฤษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ลี้ภัย และเราจะไปชุมนุมให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ต้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ รู้ด้วยว่า เราไม่ได้ต้องการแค่ไม่ให้ทักษิณลี้ภัยเท่านั้น แต่อังกฤษต้องส่งตัวคนๆ นี้กลับมารับโทษที่ประเทศไทยด้วย"นายสุรพงษ์กล่าว

จับแก๊งสนามหลวงหมิ่นรัชทายาท

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐ์ผล ผกก.สน.ชนะสงคราม เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เพื่อรายงานคดีหมิ่นองค์รัชทายาท โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีนางบุญยืน ประเสริฐยิ่ง แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยก้าวหน้า ขึ้นปราศรัยที่เวทีท้องสนามหลวง ซึ่งในการปราศรัยได้มีบางช่วงกล่าวพาดพิง ถึงองค์รัชทายาท เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่ง พ.ต.ท.สุเมธ จิตต์พานิชย์ รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการรายงาน พ.ต.อ.รังสรรค์ ได้เดินทางกลับทันที โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แต่อย่างใด ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.สุเมธ ได้เดินทางไปศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับ นางบุญยืน ตามประมวลกฏหมาย อาญา ม.112 และศาลได้อนุมัติหมายจับนางบุญยืน แล้ว
 
สำหรับนางบุญยืน เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2506 ปัจจุบันอายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/6 หมู่ที่ 10 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็ณกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เช่นเดียวกับนางสาวดารณี ชาญเชิงศิลปชัย หรือ "ดา ตอร์ปิโด" ซึ่งถูกจับกุมในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงไปก่อนหน้านี้

เตรียมหลักฐานเด็ดมัดลิ่วล้อ"แม้ว"

ที่ จ.อุดรธานีวานนี้ (15 ส.ค.) ที่โรงแรมต้นคูน ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯอุดรธานี พร้อมสมาชิกได้เปิดแถลงข่าว ความคืบหน้าจากกรณี เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ลิ่วล้อทาสทักษิณ ในกลุ่มชมรมคนรักอุดร ได้ยกพวกเข้าทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะกำลังจัดตั้งเวทีปราศรัย "รู้ทันรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติทาสแม้ว" ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 15 ราย ตามที่ เป็นข่าวออกไปทั่วโลก

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้แกนนำชมรมคนรักอุดรทั้งนายขวัญชัย ไพรพนา นายอุทัย แสนแก้ว รวมถึงนายสุพจน์ เลาวัณย์สิริ ผู้ว่าฯอุดรธานี-ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.อุดรธานี และผู้กำกับ สภ.เมืองอุดรธานีตกเป็นจำเลยสังคมถูกประณามอย่างหนัก
 
นายเจริญ แถลงว่า ขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วนและองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง มีความกล้าหาญทางจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ ในการติดตามสอบสวนหาผู้กระทำผิดจากเหตุการณ์รุนแรงดังกล่าวมารับโทษให้ได้

แนะสื่อใช้คำ"แม้วหนีคดี"แทนลี้ภัย

รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการหลบหนีคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในขณะนี้ว่า ไม่อยากเห็นสื่อใช้คำว่า"เป็นการลี้ภัยทางการเมือง" เนื่องจากตอนนี้ยังไม่ใช่เรื่องของการขอลี้ภัย ถือเป็นพฤติกรรม"หนีคดี" ของคนที่ถูกดำเนินคดีอาญา อยากให้สื่อใช้คำศัพท์ให้ถูกต้องชัดเจน มองในข้อเท็จจริงจะพบว่า การกลับมาสู้คดี หลังจากที่พรรคพลังประชาชนได้เป็นแกนนำรัฐบาล เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวมั่นใจว่าจะได้เปรียบในด้านคดี

ขณะที่เหตุการณ์ทนายความให้สินบนเจ้าหน้าที่ศาลเป็นถุงขนมเค๊ก 2 ล้านเองก็ใช้ไม่ได้ผล ดอกผลไม่งอก ทางอดีตนายกฯก็เห็นแล้วว่าชะตากรรมจะเป็นอย่างไร อยากให้พิจารณาพฤติกรรมแวดล้อมเหล่านี้ให้ดี รวมทั้งนักวิชาการผู้เกี่ยวข้องด้านกฎหมาย ก็ควรคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่ชี้นำหรือเบี่ยงเบนประเด็นเพื่อปกป้องคนที่กระทำผิดต่อประเทศชาติ

รศ.ดร.สุทธิพงศ์ กล่าวถึงกรณีแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเห็นว่าไม่ใช่การถอย แต่เป็นการหนีไปเพื่อตั้งหลัก โดยเฉพาะเรื่องการกล่าวร้ายต่อกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นการละเมิดศาลอย่างชัดเจน

"พฤติกรรมที่แสดงออกไม่ใช่การถอย แต่เป็นการตั้งหลัก ส่วนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่อยากคาดหวัง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ คงเห็นแล้วว่าประเทศที่เลือกไปนั้น ค่อนข้างมีความมั่นคงต่อตนเอง " รศ.ดร.สุทธิพงศ์ กล่าว และว่า อยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องในบ้านเมืองให้ทำความเข้าใจในประเด็นหลักๆ คือ 1.พ.ต.ท.ทักษิณทำผิดกฎหมายจริงหรือไม่ 2.ความขัดแย้งในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวเพื่อฟอกคนผิด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อนมาก อยากให้เห็นแก่ประเทศชาติ ทำในสิ่งที่ควรทำ ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับกรรมที่ก่อขึ้น

เชื่อตั้งพรรคใหม่หวังกินชาติต่อ

สำหรับประเด็นการเตรียมพรรคการเมืองใหม่ รองรับไว้หากพรรคพลังประชาชนถูกยุบนั้น รศ.ดร.สุทธิพงศ์ กล่าวว่า "ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเกมการเมืองต้องมีแผนสำรองอยู่แล้ว แต่ถามว่าความเชื่อมโยงระหว่างพรรคเดิมคือ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาเป็นพรรคพลังประชาชน แล้วหลังจากนี้จะเปลี่ยนไปเป็นพรรคอะไรก็แล้วแต่ ความเข้มข้น ภาพลักษณ์คงจางไป"

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม ส.ส.ที่มีปัญหาภายในพรรค ซึ่งเห็นอยู่แล้วว่าขณะนี้ มีการแตกตัวออกไป เพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้สวามิภักดิ์ด้วยความภักดี มีเป้าหมายด้านทรัพย์สินเงินทอง และยิ่ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ส่งเรื่องเพื่อขออายัดทรัพย์ของตระกูลชินวัตร อีกหลายหมื่นล้านด้วยแล้ว กระทบต่อการส่งท่อน้ำเลี้ยงในมุ้งต่าง ๆ ชะงักลง

"วีระ"ฟันธง พปช.ถูกยุบแน่

นายวีระ สมความคิด กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯเขาพรม จ.กระบี่ ว่า สาเหตุที่ยังไม่หยุด เพราะนายสมัคร สุนทรเวช ยังอยู่ รัฐบาลชุดนี้เป็นตัวแทน(นอมินี)ของพ.ต.ท.ทักษิณ และที่รัฐบาลยังอยู่ ก็ต้องการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อช่วยกลุ่มและพวกพ้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ

"ฟันธงได้เลย พรรคพลังประชาชนก็คือตัวแทนของพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ที่ผ่านมาก็ซื้อเสียง แล้วคนที่ซื้อเสียงก็คือ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้ให้ใบแดง และตอนนี้เรื่องก็ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เชื่อว่าพรรคพลังประชาชนต้องถูกยุบพรรคแน่นอน"
กำลังโหลดความคิดเห็น