พรานทะเล ทุ่ม 150 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ "คลิ๊ก" เรือธงสร้างรายได้ลุยตลาดอาหารพร้อมทานตลาดแมส อัดกลยุทธ์สร้างตลาดกินคู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลังพบเป็นตลาดใหญ่มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท คนไทยกิน 7 ล้านซองต่อวัน แถมมีช่องว่างคุณค่าทางโภชนาการ ชูจุดขายสะดวก ราคาประหยัดต่อมื้อ 19-22 บาท ปีแรกโกย 1,300 ล้านบาท ปี 52 กวาด 1,500 ล้านบาท
นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็งพรานทะเล เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอาหารพร้อมรับประทานมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น โดยมีร่วม 16 แบรนด์ที่อยู่ในตลาด จากเดิมมีเพียง 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ พรานทะเล เอสแอนด์พี และซีพี อีกทั้งผู้บริโภคยังไม่มีความภักดีต่อตราสินค้า ดังนั้นเพื่อรักษาอัตราการเติบโต บริษัทจึงต้องแตกเซกเมนต์ใหม่
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 150 ล้านบาท แบ่งเป็น 50 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ใหม่ "คลิ๊ก" อาหารพร้อมรับประทานแบบซอง กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แนวคิด "เติมเต็มคุณค่า ให้อาหารจานด่วนของคุณ" เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มแมสเป็นหลัก ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนกลุ่มเป้าหมายระดับรากหญ้า จากปัจจุบันฐานลูกค้าเป็นกลุ่มพรีเมียมเป็นหลัก
ทั้งนี้บริษัทวางงบการตลาด 100 ล้านบาทในช่วง 5 เดือน ในช่วงแรกมุ่งเน้นการทำตลาดสื่อสารเนื้อคู่ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นตลาดใหญ่มูลค่า 13,000 ล้านบาท โดยพบว่าคนไทยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 7 ล้านซองต่อวัน และ 80% ส่วนใหญ่นำเนื้อสัตว์ต่างๆ มาใส่เอง ขณะที่ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็มีช่องว่างคุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เร่งรีบในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้การเปิดตัวสินค้าดังกล่าว ยังสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง โดยพบว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโต 10% ในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี และช่วงเศรษฐกิจดีเติบโตคงที่ นำร่อง 9 เมนู ได้แก่ หมูแดง กุ้ง หมูสับ เป็นต้น ราคา 13-16 บาท ซึ่งหากรวมราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 6 บาท ราคาต่อมื้อ 19-22 บาท ถูกกว่าอาหารทั่วไปซึ่งมีราคาเริ่มต้น 25 บาท
ส่วนด้านช่องทางจำหน่ายในระยะแรกตามโมเดิร์นเทรด ขณะที่ร้านสะดวกซื้อเริ่มในเดือนหน้านี้กว่า 1,000 จุด ส่วนช่องทางยี่ปั๋ว-ซาปั๊ว ได้เตรียมทุ่มงบเป็นกว่า 100 ล้านบาท นำตู้พรานทะเลตามจุดจำหน่าย 4 หมื่นตู้ นำร่องกว่า 1,000 ตู้ก่อน ซึ่ง 2-3 เดือนจะหาพันธมิตรมากระจายสินค้าในช่องทางเทรดิชันนัลเทรด
อย่างไรก็ตามเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง บริษัทได้เตรียมดำเนินกิจการตลาดอย่างครบวงจร ผ่านโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ ฯลฯ กิจกรรมโรดโชว์ ในระยะ 3 เดือน และอนาคตวางแผนทำโควมาร์เก็ตติงร่วมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งขณะนี้ในแต่ละโมเดิร์นเทรดก็มีการจัดกิจกรรมบะหมึ่แต่ละแบรนด์แตกต่างกัน
นายอนุรัตน์ กล่าวว่า แบรนด์คลิ๊ก วางเป้าหมายให้เป็นสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้หลักในอนาคต โดยในปีหน้าตั้งเป้ารายได้คลิ๊ก 1,500 ล้านบาท ขณะที่พรานทะเล 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็น อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน และซูชิ มีสัดส่วนรายได้เท่ากัน ส่วนรายได้ 5 เดือนในปีนี้ 400 ล้านบาท และรายได้ปีแรก 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% จากตลาดบะหมี่กึ่งฯ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทยังวางแผนส่งออกแบรนด์คลิ๊กไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการบริโภคบะหมี่กึ่งฯ มาก อย่าง ญี่ปุ่น
นอกจากนี้ในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน ซึ่งการแข่งขันรุนแรง บริษัทยังปรับกลยุทธ์การตลาด โดยพัฒนาเมนูอาหารที่เป็นนิชมาร์เก็ต อาทิ การเปิดตัวอาหารตามกรุ๊ปเลือด และในอนาคตพัฒนาอาหารสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือกระทั่งการแบ่งแยกเพศ ขณะที่ซูชิใช้กลยุทธ์ราคาจำหน่ายราคาเพียง 10 บาท เพื่อสร้างกระแสซูชิให้มีการเติบโต เป็นต้น
นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็งพรานทะเล เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอาหารพร้อมรับประทานมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น โดยมีร่วม 16 แบรนด์ที่อยู่ในตลาด จากเดิมมีเพียง 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ พรานทะเล เอสแอนด์พี และซีพี อีกทั้งผู้บริโภคยังไม่มีความภักดีต่อตราสินค้า ดังนั้นเพื่อรักษาอัตราการเติบโต บริษัทจึงต้องแตกเซกเมนต์ใหม่
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 150 ล้านบาท แบ่งเป็น 50 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ใหม่ "คลิ๊ก" อาหารพร้อมรับประทานแบบซอง กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แนวคิด "เติมเต็มคุณค่า ให้อาหารจานด่วนของคุณ" เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มแมสเป็นหลัก ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนกลุ่มเป้าหมายระดับรากหญ้า จากปัจจุบันฐานลูกค้าเป็นกลุ่มพรีเมียมเป็นหลัก
ทั้งนี้บริษัทวางงบการตลาด 100 ล้านบาทในช่วง 5 เดือน ในช่วงแรกมุ่งเน้นการทำตลาดสื่อสารเนื้อคู่ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นตลาดใหญ่มูลค่า 13,000 ล้านบาท โดยพบว่าคนไทยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 7 ล้านซองต่อวัน และ 80% ส่วนใหญ่นำเนื้อสัตว์ต่างๆ มาใส่เอง ขณะที่ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็มีช่องว่างคุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เร่งรีบในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้การเปิดตัวสินค้าดังกล่าว ยังสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง โดยพบว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโต 10% ในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี และช่วงเศรษฐกิจดีเติบโตคงที่ นำร่อง 9 เมนู ได้แก่ หมูแดง กุ้ง หมูสับ เป็นต้น ราคา 13-16 บาท ซึ่งหากรวมราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 6 บาท ราคาต่อมื้อ 19-22 บาท ถูกกว่าอาหารทั่วไปซึ่งมีราคาเริ่มต้น 25 บาท
ส่วนด้านช่องทางจำหน่ายในระยะแรกตามโมเดิร์นเทรด ขณะที่ร้านสะดวกซื้อเริ่มในเดือนหน้านี้กว่า 1,000 จุด ส่วนช่องทางยี่ปั๋ว-ซาปั๊ว ได้เตรียมทุ่มงบเป็นกว่า 100 ล้านบาท นำตู้พรานทะเลตามจุดจำหน่าย 4 หมื่นตู้ นำร่องกว่า 1,000 ตู้ก่อน ซึ่ง 2-3 เดือนจะหาพันธมิตรมากระจายสินค้าในช่องทางเทรดิชันนัลเทรด
อย่างไรก็ตามเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง บริษัทได้เตรียมดำเนินกิจการตลาดอย่างครบวงจร ผ่านโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ ฯลฯ กิจกรรมโรดโชว์ ในระยะ 3 เดือน และอนาคตวางแผนทำโควมาร์เก็ตติงร่วมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งขณะนี้ในแต่ละโมเดิร์นเทรดก็มีการจัดกิจกรรมบะหมึ่แต่ละแบรนด์แตกต่างกัน
นายอนุรัตน์ กล่าวว่า แบรนด์คลิ๊ก วางเป้าหมายให้เป็นสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้หลักในอนาคต โดยในปีหน้าตั้งเป้ารายได้คลิ๊ก 1,500 ล้านบาท ขณะที่พรานทะเล 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็น อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน และซูชิ มีสัดส่วนรายได้เท่ากัน ส่วนรายได้ 5 เดือนในปีนี้ 400 ล้านบาท และรายได้ปีแรก 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% จากตลาดบะหมี่กึ่งฯ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทยังวางแผนส่งออกแบรนด์คลิ๊กไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการบริโภคบะหมี่กึ่งฯ มาก อย่าง ญี่ปุ่น
นอกจากนี้ในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน ซึ่งการแข่งขันรุนแรง บริษัทยังปรับกลยุทธ์การตลาด โดยพัฒนาเมนูอาหารที่เป็นนิชมาร์เก็ต อาทิ การเปิดตัวอาหารตามกรุ๊ปเลือด และในอนาคตพัฒนาอาหารสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือกระทั่งการแบ่งแยกเพศ ขณะที่ซูชิใช้กลยุทธ์ราคาจำหน่ายราคาเพียง 10 บาท เพื่อสร้างกระแสซูชิให้มีการเติบโต เป็นต้น