ผู้จัดการรายวัน- กูรูด้านอสังหาฯ ระบุตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งปีหลังชะลอตัว ชี้สาเหตุมาจากปัจจัยด้านลบทางเศรษฐกิจ และการเมือง ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เชื่องาน “Intersec Thailand 2008” ปลายปีนี้ จะช่วยกระตุ้นตลาดอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย
รศ. มานพ พงศ์ทัต อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ความต้องการที่อยู่อาศัยและภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังว่าชะลอตัวบ้างเล็กน้อย เนื่องจากปัจจัยลบทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ เช่น น้ำมันแพง เงินเฟ้อ ปัญหาสินค้าราคาแพง ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้ ยังส่งผลกระทบต่อต้นทุนด้านการก่อสร้างให้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่เท่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันผู้บริโภคทางด้านที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานเริ่มให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น เพราะนอกเหนือจากปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมแล้ว ยังเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาทางด้านอาชญากรรมที่ปัจจุบันเริ่มมีข่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาผู้ประกอบการอสังหาฯส่วนหนึ่งได้ให้ความสำคัญและนำเรื่องอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมาเป็นจุดขายในโครงการด้วย
“ ที่ผ่านมาโครงการต่างๆ เริ่มหันมาสนใจในระบบความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ตลาดอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยขยายตัวตาม ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก สำนักงาน โรงงาน ธนาคาร สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า และอาคารสูงต่างๆ ”
อย่างไรก็ตาม รศ.มานพ กล่าวถึงงาน Intersec Thailand 2008 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านความปลอดภัย ซึ่งได้จัดขึ้นในช่วงวันที่ 1-3 ธ.ค. ที่ศูนย์การแสดงสินค้าไบเทค บางนาว่า นับเป็นโอกาสอันดีของนักธุรกิจกลุ่มอสังหาฯ ที่จะได้ดูเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยจากบริษัทชั้นนำของโลก เพื่อนำมาใช้กับธุรกิจ หรือโครงการของตนเอง โดยมั่นใจว่า งาน Intersec Thailand 2008 นี้ จะกระตุ้นอุตสาหกรรมด้านการรักษาความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมด้านที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ เล็งเห็นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนมากขึ้น อีกทั้งภายในงาน ยังได้จัดองค์ความรู้ เพื่อให้ทุกฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ซึ่งงานดังกล่าวใช้งบในการจัดงานกว่า 50 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 1 หมื่นตร.ม.
รศ. มานพ พงศ์ทัต อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ความต้องการที่อยู่อาศัยและภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังว่าชะลอตัวบ้างเล็กน้อย เนื่องจากปัจจัยลบทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ เช่น น้ำมันแพง เงินเฟ้อ ปัญหาสินค้าราคาแพง ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้ ยังส่งผลกระทบต่อต้นทุนด้านการก่อสร้างให้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่เท่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันผู้บริโภคทางด้านที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานเริ่มให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น เพราะนอกเหนือจากปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมแล้ว ยังเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาทางด้านอาชญากรรมที่ปัจจุบันเริ่มมีข่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาผู้ประกอบการอสังหาฯส่วนหนึ่งได้ให้ความสำคัญและนำเรื่องอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมาเป็นจุดขายในโครงการด้วย
“ ที่ผ่านมาโครงการต่างๆ เริ่มหันมาสนใจในระบบความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ตลาดอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยขยายตัวตาม ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก สำนักงาน โรงงาน ธนาคาร สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า และอาคารสูงต่างๆ ”
อย่างไรก็ตาม รศ.มานพ กล่าวถึงงาน Intersec Thailand 2008 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านความปลอดภัย ซึ่งได้จัดขึ้นในช่วงวันที่ 1-3 ธ.ค. ที่ศูนย์การแสดงสินค้าไบเทค บางนาว่า นับเป็นโอกาสอันดีของนักธุรกิจกลุ่มอสังหาฯ ที่จะได้ดูเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยจากบริษัทชั้นนำของโลก เพื่อนำมาใช้กับธุรกิจ หรือโครงการของตนเอง โดยมั่นใจว่า งาน Intersec Thailand 2008 นี้ จะกระตุ้นอุตสาหกรรมด้านการรักษาความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมด้านที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ เล็งเห็นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนมากขึ้น อีกทั้งภายในงาน ยังได้จัดองค์ความรู้ เพื่อให้ทุกฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ซึ่งงานดังกล่าวใช้งบในการจัดงานกว่า 50 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 1 หมื่นตร.ม.