เกษร จับวิกฤตเป็นโอกาส จัดกิจกรรมจับนักชอบไฮโซ “เพียว รีวอร์ด เดอะเมจิคอล โมเม้นท์ส” ดึงกำลังซื้อเข้าศูนย์ หลังพิษเศรษฐกิจโลก กระทบจิตวิทยานักชอปไม่กล้าไปต่างประเทศ เทงบ 12 ล้านบาท อัดกิจกรรมถี่ยิบยิงยาวถึงปีหน้า หวังเพิ่มลูกค้าขึ้นอีก 20%
นางสาธิมา ทานาเบ้ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เกษร แลนด์ แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเกษร เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯได้หาทางออกเพื่อเพิ่มยอดขายทางการตลาด เพราะยอดขาย 2 เดือนที่ผ่านมาลดลง 10-12% ทั้งที่ 6 เดือนแรกปีนี้ยอดขายโตถึง 25%
ล่าสุดเกษรอัดแคมเปญ ”เพียว รีวอร์ด เดอะเมจิคอล โมเม้นท์ส”ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.51 ถึง 5 ม.ค.52 เอาใจนักช้อบระดับพรีเมี่ยมทั้งไทย และต่างประเทศด้วยการเจาะตลาดพฤติกรรมผู้บริโภคที่ฉีกแนวกระเช้าแบบเดิมๆและยังจับมือกับแบรนด์ดังอาทิ เซลีน ,เอมิเลโอ,ปุชชี่,โลเอเว่,มงก์บลองก์ เพื่อสร้างความแตกต่างทางการตลาดในธุรกิจศูนย์การค้าระดับบนด้วย”เกษร ฮอลิเดย์ แฮมเปอร์ส”ถือเป็นการเปิดนวัตกรรมการตลาดครั้งแรกในเมืองไทยกับกระเช้าของขวัญและกิฟท์ไอเดียระดับพรีเมี่ยม คอนเซ็ปต์Gifts With Style นำสินค้าลิมิเด็ดอิดิชั่นแบรนด์ดังมาจัดเป็นกระเช้าของขวัญรองรับทุกไลฟสไตล์ ราคาตั้งแต่500-1.5ล้านบาท
ทั้งนี้ ห้างเกษร มีฐานลูกค้าเป็นตลาดไฮเอน ซึ่ง 50% เป็นชาวต่างชาติ อาทิ ญี่ป่น จีน ตะวันออกกลางรวมทั้งรัฐเซีย ยุโรปตะวันออกส่วนในประเทศไทยเจาะกลุ่มฐานลูกค้าฐานเงินเดือนเกิน8หมื่นถึง 1แสนบาทต่อคน จากผลการวิจัยฐานข้อมูลของเกษร พบว่ามีถึง290, 000ครัวเรือนที่เป็นลูกค้าประจำรวมถึงกลุ่มไฮสแตนดิ้งที่มีกำลังซื้อสูง
“ปีนี้เกษรได้บุกตลาดด้วยการสร้างแรงจูงใจและตอบโจทย์ของผู้บริโภคและตีโจทย์ตลาดใหญ่ที่มีมูลค่ากว่า1,200 ล้านบาทโดย10เดือนที่ผ่านมาโต10-12%โดยมองว่าจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าใช้จ่ายหรือบินไปต่างประเทศถือเป็นโอกาสดีที่เกษรมองว่าจะทำให้คนกลับมาซื้อและใช้จ่ายในประเทศมากขึ้นทั้งนี้มองว่าการจัดแคมเปญดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีและทำให้ธุรกิจโตกว่า20% ถือเป็นการชดเชยในช่วง2 เดือนที่หายไป”
ส่วนแนวโน้มธุรกิจมองว่าสัดส่วนปีหน้าเตรียมรับปัญหาและวิกฤติเต็มที่ด้วยการเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้นอีก 2-3 เท่าในทุกๆเทศกาล เช่น จากปีก่อนๆ เคยทำ2 เดือนครั้ง ก็จะเปลี่ยนเป็นเดือนละครั้ง และ ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.52 เตรียมใช้งบกว่า12 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 40% จัดกิจกรรมเพื่อดึงผู้บริโภคที่มีไม่ต่ำกว่า15,000คนให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก20%ได้แน่นอน
นางสาธิมา ทานาเบ้ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เกษร แลนด์ แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเกษร เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯได้หาทางออกเพื่อเพิ่มยอดขายทางการตลาด เพราะยอดขาย 2 เดือนที่ผ่านมาลดลง 10-12% ทั้งที่ 6 เดือนแรกปีนี้ยอดขายโตถึง 25%
ล่าสุดเกษรอัดแคมเปญ ”เพียว รีวอร์ด เดอะเมจิคอล โมเม้นท์ส”ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.51 ถึง 5 ม.ค.52 เอาใจนักช้อบระดับพรีเมี่ยมทั้งไทย และต่างประเทศด้วยการเจาะตลาดพฤติกรรมผู้บริโภคที่ฉีกแนวกระเช้าแบบเดิมๆและยังจับมือกับแบรนด์ดังอาทิ เซลีน ,เอมิเลโอ,ปุชชี่,โลเอเว่,มงก์บลองก์ เพื่อสร้างความแตกต่างทางการตลาดในธุรกิจศูนย์การค้าระดับบนด้วย”เกษร ฮอลิเดย์ แฮมเปอร์ส”ถือเป็นการเปิดนวัตกรรมการตลาดครั้งแรกในเมืองไทยกับกระเช้าของขวัญและกิฟท์ไอเดียระดับพรีเมี่ยม คอนเซ็ปต์Gifts With Style นำสินค้าลิมิเด็ดอิดิชั่นแบรนด์ดังมาจัดเป็นกระเช้าของขวัญรองรับทุกไลฟสไตล์ ราคาตั้งแต่500-1.5ล้านบาท
ทั้งนี้ ห้างเกษร มีฐานลูกค้าเป็นตลาดไฮเอน ซึ่ง 50% เป็นชาวต่างชาติ อาทิ ญี่ป่น จีน ตะวันออกกลางรวมทั้งรัฐเซีย ยุโรปตะวันออกส่วนในประเทศไทยเจาะกลุ่มฐานลูกค้าฐานเงินเดือนเกิน8หมื่นถึง 1แสนบาทต่อคน จากผลการวิจัยฐานข้อมูลของเกษร พบว่ามีถึง290, 000ครัวเรือนที่เป็นลูกค้าประจำรวมถึงกลุ่มไฮสแตนดิ้งที่มีกำลังซื้อสูง
“ปีนี้เกษรได้บุกตลาดด้วยการสร้างแรงจูงใจและตอบโจทย์ของผู้บริโภคและตีโจทย์ตลาดใหญ่ที่มีมูลค่ากว่า1,200 ล้านบาทโดย10เดือนที่ผ่านมาโต10-12%โดยมองว่าจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคไม่กล้าใช้จ่ายหรือบินไปต่างประเทศถือเป็นโอกาสดีที่เกษรมองว่าจะทำให้คนกลับมาซื้อและใช้จ่ายในประเทศมากขึ้นทั้งนี้มองว่าการจัดแคมเปญดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีและทำให้ธุรกิจโตกว่า20% ถือเป็นการชดเชยในช่วง2 เดือนที่หายไป”
ส่วนแนวโน้มธุรกิจมองว่าสัดส่วนปีหน้าเตรียมรับปัญหาและวิกฤติเต็มที่ด้วยการเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้นอีก 2-3 เท่าในทุกๆเทศกาล เช่น จากปีก่อนๆ เคยทำ2 เดือนครั้ง ก็จะเปลี่ยนเป็นเดือนละครั้ง และ ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.52 เตรียมใช้งบกว่า12 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 40% จัดกิจกรรมเพื่อดึงผู้บริโภคที่มีไม่ต่ำกว่า15,000คนให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก20%ได้แน่นอน
