ผู้จัดการรรายวัน -“ทักษิณ-พจมาน” ส่อหนีคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดา เผยเตรียมแถลงตรงจากอังกฤษหรือฮ่องกงวันนี้ ขณะที่ “โอ๊ค-เอม-อุ๋งอิ๋ง” ก็บินไปอังกฤษตั้งแต่ 9 ส.ค. “น้องเขย” ยันถ้ามีเหตุผลเพียงพอ ไม่มารายงานตัวต่อศาลก็ได้ ด้านพลังเสื้อฟ้าแน่นสะพานมัฆวานฯเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ "จำลอง"เหน็บรัฐบาลจัดงานไร้คนดูต้องเกณฑ์ตำรวจแต่งนอกเครื่องแบบมากู้หน้าพร้อมปฏิเสธแผนรัฐบาลเฉพาะการ "บิ๊กจิ๋ว" ชี้ยังกลับสู่วังเวียนเดิมของการเมืองแบบเก่า ยอมรับไม่ได้
วานนี้(10 ส.ค.)รายงานข่ายจากการบินไทยแจ้งว่า หลังจากเที่ยวบิน ทีจี 615 ปักกิ่ง-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ได้จองที่นั่งไว้สำหรับเดินทางกลับประเทศไทยได้ปิดการเช็กอินเพื่อออกเดินทางจากรุงปักกิ่งในเวลา 17.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะถึงกรุงเทพฯในเวลา 21.45 น.นั้น ปรากฏว่าในรายชื่อผู้โดยสารที่เช็กอินขึ้นเครื่องทั้งหมดนั้น ไม่มีชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร แต่อย่างใด ส่วนเที่ยวบินจากปักกิ่งถึงกรุงเทพฯ เที่ยวถัดไป คือ ทีจี 675 ที่จะออกจากปักกิ่งในเวลา 08.30 น. ถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 12.40 น. ของวันที่ 11 ส.ค. ก็ไม่มีรายชื่อของคนในครอบครัวชินวัตรเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินตรงระหว่างกรุงปักกิ่งและกรุงเทพฯ ที่ออกเดินทางวานนี้(10 ส.ค.) นอกจากเที่ยวบินของบริษัทการบินไทยแล้วก็ยังมีเที่ยวบินของจีนคือ แอร์ไชน่า (Air China) เที่ยวบินที่ CA979 ซึ่งจะออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งเวลา 20:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 00:20 น. ของวันที่ 11 ส.ค.
ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้เลื่อนกำหนดการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยออกไปโดยไม่มีกำหนดแล้ว แม้ว่าจะมีกำหนดการต้องมารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ ในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดา ในตอนเช้าวันที่ 11 ส.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะหลบหนีคดีทุจริตที่ส่งถึงศาลแล้วอย่างน้อย 4 คดี
เผยแถลงจากอังกฤษหรือฮ่องกง
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พร้อมด้วยกลุ่มคนรักทักษิณ ประมาณ 100 คน ได้ไปรอรับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ห้องวีไอพี สนามบินสุวรรณภูมิ จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.45 น. เที่ยวบิน ทีจี 615 ปักกิ่ง-กรุงเทพฯ เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เดินทางมาแต่อย่างใด
นายประชา กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่เดินทางกลับมาในวันนี้ แต่จะกลับมาเมื่อไร ไม่ทราบได้ แต่ถ้าเป็นตนก็จะไม่กลับมาเช่นกัน เนื่องจากมีปัญหาทั้งเรื่องคดี และยังมีกลุ่มพันธมิตรฯ คอยโจมตีอีก
อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวจะแถลงตรงจากประเทศอังกฤษ หรือที่ฮ่องกง ในวันนี้ (11ส.ค.) เวลา 09.00 น. ก็ขอให้คอยติดตามว่าท่านจะว่าอย่างไร
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากการบินไทย เปิดเผยว่า นายพานทองแท้ น.ส.พิณทองทา และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสามคนได้เดินทางไปประเทศอังกฤษแล้วตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดเผยว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่มารายงานตัวตามนัดในวันนี้ ต้องดูว่ามีเหตุผลอะไร แต่ถ้ายังมีพฤติกรรมที่หลบหนีไปประเทศอื่นอีก ก็สามารถพิจารณาออกหมายจับได้เลย และถ้าผู้ต้องหาหนีไปประเทศอังกฤษ ก็จะดำเนินการขอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยอาจจะทำหนังสือถึงรัฐบาลอังกฤษโดยตรง ซึ่งหากผู้ต้องหาอ้างว่าจะขอลี้ภัยทางการเมือง ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะสถานการณ์ภายในประเทศไทยไม่ได้มีความรุนแรงถึงขั้นต้องขอลี้ภัยทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณต่างปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว โดย น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ โฆษกส่วนตัว ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่คิดจะลี้ภัยอย่างแน่นอน ส่วนนายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ทนายความในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ยืนยันว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างแน่นอน หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นขออนุญาตออกนอกประเทศ เพื่อเดินทางไปประเทศอังกฤษด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ และในวันนี้ ในส่วนของทีมทนายความจะเดินทางไปถึงศาล เวลาประมาณ 08.00 น.อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเดินทางมาศาลเวลาเท่าใด
สำหรับคดีนี้ อัยการสูงสุดยื่นฟ้องคุณหญิงพจมาน และพ.ต.ท.ทักษิณ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 100 และ 122
น้องเขยแม้วอ้างไม่มารายงานตัวก็ได้
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะไม่เดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 10 ส.ค. หลังจากมีข่าวว่าได้คืนตั๋วเครื่องบินไปแล้วนั้นคิดว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือ เนื่องจากตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่จะไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องบอกใคร
"เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาสู้ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าไม่กลับมาต้องมีเหตุผลที่เพียงพอ สามารถไม่มารายงานตัวก็ได้ และศาลจะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจเอง"
ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาหรือไม่ นายสมชาย กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมือง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปจากการเมืองแล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยพูดถึงการลี้ภัย ขณะเดียวกันบรรยากาศภายในพรรคพลังประชาชน ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มีความเข้าใจกันมากขึ้น แม้จะมีความเห็นที่แตกต่าง ก็ถือเป็นปกติ เหมือนผัวกับเมียอยู่ด้วยกัน ต้องมีทะเลาะกันบ้าง
คลื่นสีฟ้าแน่นมัฆวานฯ
บรรยากาศที่บริเวณเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (10 ส.ค.) คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯจำนวนมากที่มาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลขายชาติ ซึ่งก้าวเข้าสู่เดือนที่ 3 แล้ว ได้พร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้าเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี และเพื่อร่วมแสดงความกตัญญูต่อแผ่นดิน
ขณะเดียวกันบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแนวร่วมพันธมิตรฯหลายสิบร้าน ได้นำสินค้าที่ระลึกเนื่องในวันแม่แห่งชาติ เช่น เสื้อสีฟ้า ดอกมะลิ เข็มกลัดวันแม่ ผ้าพันคอสีฟ้ามาจำหน่ายให้ผู้ชุมนุมซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งอาสาสมัครพันธมิตรฯ และนักรบศรีวิชัยได้เพิ่มความเข้มงวดการรักษาความปลอดภัยทุกจุดทางเข้าออก โดยเฉพาะบริเวณกองทัพภาคที่ 1 มีการนำลวดหนามมากั้นเพิ่มเติมเนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นจุดล่อแหลมและมีคนผ่านไปมาจำนวนมาก อาจมีผู้ไม่หวังดีทำอันตรายผู้ชุมนุมได้
ทั้งนี้ คาดว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.) และพรุ่งนี้ (12 ส.ค.) จะมีประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ เดินทางมาร่วมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หลายหมื่นคนแน่นอน ขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกภาคก็จะมีการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติในพื้นที่ของตนเองด้วยเช่นกัน
จวก “หมัก” พูดไร้สาระกลบ “แก๊งออฟโฟร์”
วันเดียวกันนายสมศักดิ์ โกศัยสุข พร้อมด้วย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ในรายการเวทีคู่ขนานตอบโต้รายการสนทนาประสาสมัคร โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า นายสมัครพยายามพูดหลีกเลี่ยงหลบหลีกปัญหา ทำเป็นไม่รู้เรื่อง พูดจาไร้สาระให้มาก เพื่อให้เวลาหมดไปทั้งที่พวกตัวเองสร้างปัญหาขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องถนัดของนายสมัครอยู่แล้ว ที่ไม่เลิกพฤติกรรมพูดเลอะเทอะวนเวียนไปเรื่อย
“คุยเรื่องการเปิดกีฬาโอลิมปิก บอกว่าได้นั่งคุยกันถูกคอกับนายพลเต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีพม่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะประเทศพม่าเป็นเผด็จการละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชนมากที่สุดในโลก เผด็จการเหมือนกันก็ต้องคุยกันอย่างถูกคอ และยังมาพูดถึงแก๊งออฟไฟว์ ซึ่งคงหมายถึงพันธมิตรฯ พยายามกลบเกลื่อนที่จะพูดถึงแก๊งออฟโฟร์ แค่บอกว่าเดี๋ยวจะปรับตัวของมันเอง แสดงว่าสมัครเริ่มรู้ชะตากรรมแล้วว่าสุดท้ายต้องออกจากตำแหน่ง แต่พยายามดื้อให้อยู่นานที่สุด เพราะต้องการอนุมัติโครงการเมกะโปรเจกต์”
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า นายสมัครเป็นตัวปัญหาสร้างความแตกแยก สามารถสั่งพวกนรกอันธพาลการเมืองได้ ไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 175 ที่ได้ถวายสัตย์ฯ ว่าจะซื่อสัตย์สุจริต ทำผิดรัฐธรรมนูญซ้ำซาก การปรับ ครม.ก็เอาพรรคพวกที่เคยทำมาหากินด้วยกันมาเป็นรัฐมนตรี เป็นกรรมการในบริษัทเอกชน ทั้งนายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช รมช.คลัง นายวีรพงษ์ รามางกูร นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลหุ่นเชิด แถมยังมีเรื่องเกี่ยวกับแก๊งออฟโฟร์อีก ซึ่งตนเห็นว่าพวกนี้ไม่มีสัจจะในหมู่โจร มีเป้าหมายโกงให้มากที่สุด มีการชิงไหวชิงพริบกันตลอด
ด้าน นายสมเกียรติกล่าวว่า นายกฯพูด 1 ชั่วโมงมีแต่เรื่องไร้สาระ ยังคุยว่าตัวเองไปร่วมพิธีเปิดโอลิมปิก นั่งกับนายกฯ พม่า และประธานาธิบดีบุช ซึ่งเป็นพวกหุ่นเชิดและพวกขายชาติเหมือนกัน แถมวันนี้ยังมาทำหน้าที่โฆษกให้หูจิ่นเทา นายกรัฐมนตรีจีน เรื่องการจัดกีฬาโอลิมปิก และยังมาพูดเรื่องนักกีฬาไทยที่เข้าแข่งขัน ทั้งๆ ที่รัฐบาลหุ่นเชิด ไม่เคยสนับสนุบงบประมาณด้านกีฬา หรือเชิญนักกีฬาโอลิมปิกเข้าไปพบที่ทำเนียบเลย
แกนนำพันธมิตร กล่าวด้วยว่า รัฐบาลหุ่นเชิดมีการอนุมัติโครงการเมกะโปรเจกต์กว่า 3 ล้านล้านบาท โดยตั้งคณะกรรมการมา 5 ชุด เอาไอ้เบื๊อกที่เป็นคนสนิท มานั่งเป็นประธานแก๊งออฟโฟร์ นอกจากนี้ นายสมัครยังล้วงลูกกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องข้าว เป็นจอมล้วงลูกมากกว่านายบรรหารเสียอีก จึงเป็นเรื่องที่ชอบธรรมที่เราจะไล่รัฐบาลออกไป
"วีระ"แฉกลโกง"ออหมัก"ผลาญงบ
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) กล่าวต่อว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กับคุณหญิงพจมานส่งสัญญาณว่าจะไม่กลับประเทศไทยแล้วทำให้มีผู้ออกมากังวลว่าจะเกิดการปฏิวัติ ซึ่งเราขอยืนยัน ณ ที่นี้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯก็พร้อมจะเจอกับทหารที่รักทักษิณ เหล่านั้น แต่ส่วนตัว ณ วันนี้คิดว่าคงไม่มีทหารรายไหนออกมาทำ เพราะถ้าทำก็โง่สิ้นดี เนื่องจากมีพี่น้องพันธมิตรฯอยู่นี่หลายหมื่นคนที่พร้อมจะต่อต้านในเรื่องดังกล่าว
ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีก็มีประวัติไม่เบา โดยสมัยที่เป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลของ พล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์) ก็โดนให้ออก เพราะไปมีส่วนพัวพันกับข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องการทำถนนในชนบทที่เป็นเงินกู้จากธนาคารโลกและนำเงินไปซื้อยางคุณภาพต่ำมาทำถนน อีกทั้งล่าสุดก็มีคดีรถเมล์ 6,000 คัน มูลค่ารวม 1 แสนกว่าล้านบาท ทั้งที่รถเมล์จากจีน ราคาขายแค่ 3 ล้านกว่าบาท ถ้าซื้อ 6,000 พันคันก็แค่ 20,000 กว่าล้านบาท แล้วไม่ทราบว่าจะไปเซ็นเช่าทำไม 6,000 คัน มูลค่าแสนกว่าล้านบาท
นอกจากนี้ นายวีระ ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนได้รับทราบว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นขอประมาณปี 2552 ด้วยวงเงิน 6.9 หมื่นล้านบาท โดยมีการขอซื้อเสื้อเกราะ 6 พันตัว วงเงิน 2,366 ล้านบาท ซึ่งเฉลี่ยแล้วตกเป็นตัวละ 394,333 บาท ทั้งที่เสื้อเกราะจริงๆ คุณภาพเกรดเอ จากสหรัฐอเมริกา มีราคาขายแค่ 38,000 บาทต่อตัวเท่านั้น
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายนายวีระ ได้ถามถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ว่าที่ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายขอซื้อปืนเอสเค ที่จริงมีราคาประมาณ 3-5 หมื่นบาท เหตุใดเวลาซื้อราคาจึงกลับกลายเป็นกระบอกละ 1 แสนบาทได้ เช่นเดียวกับในส่วนของหุ่นเก็บกู้ระเบิดที่เสนอมามูลค่า 16 ล้านบาทนั้นแต่ราคาจริงแค่ 6 ล้านบาท ซึ่งกรณีนี้ยังคล้ายกับของกองทัพเรือที่เคยถามไปก่อนหน้านี้ในเรื่องการซื้อเรือจากบริษัทในเครือเทมาเส็ก
"จำลอง"ปฏิเสธแผนรัฐบาล"บิ๊กจิ๋ว"
เวลา 21.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯขึ้นกล่าวบนเวทีกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่า ตอนนี้เราชุมนุมมาได้ 78 วันแล้วถ้ารวมครั้งก่อน 33 วันจะเป็น 111 วัน ดังนั้น ต้องขอให้พี่น้องปรบมือเป็นเกียรติให้กับตนเองด้วย
นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวถึงการจัดงาน (วันแม่แห่งชาติ) ของรัฐบาลด้วยว่า จากการที่ตนได้เข้าไปเดินดูที่จัดงานของรัฐบาล แต่ก็พบว่าของเขาเราสวยกว่าเขามาก อย่างไรก็ตาม ได้มีโทรศัพท์ด่วนจากพันธมิตรฯโทร.มาบอกตนว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งการทางวิทยุขอให้ตำรวจแต่งนอกเครื่องออกไปเที่ยวงานเดี๋ยวจะแพ้พันธมิตรฯ
พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต ได้ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งโดยส่วนตัวตนนั้นไม่เคยมีอคติต่อตัว พล.อ.ชวลิต เพราะเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องและเคยเป็นผู้บังคับบัญชากันมาก่อน แต่สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต เสนอโดยออกแถลงการณ์รัฐบาลเฉพาะการณ์กับหลักนโยบายแก้ปัญหาชาติจากความรุนแรงบ้านเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งอยากเสนอให้พวกเราทุกคนรวมทั้งนักการเมืองมาร่วมมือการจัดตั้งนั้น เรื่องนี้ไม่จริง เพราะเราแค่อยากให้บ้านเมืองสงบ โดยให้อำนาจกระบวนการทางศาล ไม่มีใครไปยุ่ง
"ที่ท่านเสนอว่า ให้เปลี่ยนรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเฉพาะกาล ซึ่งประกอบไปด้วยรัฐบาลปัจจุบัน ฝ่ายค้าน เอกชนอื่นๆ เพื่อให้ทำงานเป็นรูปธรรม โดยในเวลานี้ให้ดำเนินการอย่างปรองดองของคนในชาติ เสร็จแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งแบบเก่า ซึ่งเราพูดกันแล้วว่า ถ้าเป็นแบบเก่าใครมีเงินมากก็ซื้อ ส.ส.มาอยู่ด้วยและสามารถทำอะไรก็ได้ ดังนั้น ถ้ามีการเปลี่ยนและเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบเก่า เราจะไม่สนับสนุน แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน เราก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต เสนอมานั้น นอกจากจะเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลแล้วยังอยู่ในวงเวียนอุบาทว์แบบเก่า ซึ่งอาจทำให้ทหารปฏิวัติอีก เราต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไร"
สุดท้าย พล.ต.จำลอง ได้กล่าวชักชวนประชาชนให้ชักชวนญาติพี่น้องที่บ้านมาร่วมงานเฉลิมพระชนม์พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวันที่ 12 สิงหาคมนี้กันให้มากๆ โดยหวังว่าวันนั้นประชาชนจะมาร่วมกันมากกว่านี้
วานนี้(10 ส.ค.)รายงานข่ายจากการบินไทยแจ้งว่า หลังจากเที่ยวบิน ทีจี 615 ปักกิ่ง-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ได้จองที่นั่งไว้สำหรับเดินทางกลับประเทศไทยได้ปิดการเช็กอินเพื่อออกเดินทางจากรุงปักกิ่งในเวลา 17.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะถึงกรุงเทพฯในเวลา 21.45 น.นั้น ปรากฏว่าในรายชื่อผู้โดยสารที่เช็กอินขึ้นเครื่องทั้งหมดนั้น ไม่มีชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร แต่อย่างใด ส่วนเที่ยวบินจากปักกิ่งถึงกรุงเทพฯ เที่ยวถัดไป คือ ทีจี 675 ที่จะออกจากปักกิ่งในเวลา 08.30 น. ถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 12.40 น. ของวันที่ 11 ส.ค. ก็ไม่มีรายชื่อของคนในครอบครัวชินวัตรเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินตรงระหว่างกรุงปักกิ่งและกรุงเทพฯ ที่ออกเดินทางวานนี้(10 ส.ค.) นอกจากเที่ยวบินของบริษัทการบินไทยแล้วก็ยังมีเที่ยวบินของจีนคือ แอร์ไชน่า (Air China) เที่ยวบินที่ CA979 ซึ่งจะออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งเวลา 20:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 00:20 น. ของวันที่ 11 ส.ค.
ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้เลื่อนกำหนดการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยออกไปโดยไม่มีกำหนดแล้ว แม้ว่าจะมีกำหนดการต้องมารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ ในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดา ในตอนเช้าวันที่ 11 ส.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะหลบหนีคดีทุจริตที่ส่งถึงศาลแล้วอย่างน้อย 4 คดี
เผยแถลงจากอังกฤษหรือฮ่องกง
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พร้อมด้วยกลุ่มคนรักทักษิณ ประมาณ 100 คน ได้ไปรอรับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ห้องวีไอพี สนามบินสุวรรณภูมิ จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.45 น. เที่ยวบิน ทีจี 615 ปักกิ่ง-กรุงเทพฯ เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เดินทางมาแต่อย่างใด
นายประชา กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่เดินทางกลับมาในวันนี้ แต่จะกลับมาเมื่อไร ไม่ทราบได้ แต่ถ้าเป็นตนก็จะไม่กลับมาเช่นกัน เนื่องจากมีปัญหาทั้งเรื่องคดี และยังมีกลุ่มพันธมิตรฯ คอยโจมตีอีก
อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวจะแถลงตรงจากประเทศอังกฤษ หรือที่ฮ่องกง ในวันนี้ (11ส.ค.) เวลา 09.00 น. ก็ขอให้คอยติดตามว่าท่านจะว่าอย่างไร
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากการบินไทย เปิดเผยว่า นายพานทองแท้ น.ส.พิณทองทา และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสามคนได้เดินทางไปประเทศอังกฤษแล้วตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดเผยว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่มารายงานตัวตามนัดในวันนี้ ต้องดูว่ามีเหตุผลอะไร แต่ถ้ายังมีพฤติกรรมที่หลบหนีไปประเทศอื่นอีก ก็สามารถพิจารณาออกหมายจับได้เลย และถ้าผู้ต้องหาหนีไปประเทศอังกฤษ ก็จะดำเนินการขอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ โดยอาจจะทำหนังสือถึงรัฐบาลอังกฤษโดยตรง ซึ่งหากผู้ต้องหาอ้างว่าจะขอลี้ภัยทางการเมือง ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะสถานการณ์ภายในประเทศไทยไม่ได้มีความรุนแรงถึงขั้นต้องขอลี้ภัยทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณต่างปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว โดย น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ โฆษกส่วนตัว ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่คิดจะลี้ภัยอย่างแน่นอน ส่วนนายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ทนายความในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ยืนยันว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างแน่นอน หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นขออนุญาตออกนอกประเทศ เพื่อเดินทางไปประเทศอังกฤษด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ และในวันนี้ ในส่วนของทีมทนายความจะเดินทางไปถึงศาล เวลาประมาณ 08.00 น.อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเดินทางมาศาลเวลาเท่าใด
สำหรับคดีนี้ อัยการสูงสุดยื่นฟ้องคุณหญิงพจมาน และพ.ต.ท.ทักษิณ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 100 และ 122
น้องเขยแม้วอ้างไม่มารายงานตัวก็ได้
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะไม่เดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 10 ส.ค. หลังจากมีข่าวว่าได้คืนตั๋วเครื่องบินไปแล้วนั้นคิดว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือ เนื่องจากตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่จะไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องบอกใคร
"เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาสู้ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าไม่กลับมาต้องมีเหตุผลที่เพียงพอ สามารถไม่มารายงานตัวก็ได้ และศาลจะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจเอง"
ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาหรือไม่ นายสมชาย กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมือง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปจากการเมืองแล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยพูดถึงการลี้ภัย ขณะเดียวกันบรรยากาศภายในพรรคพลังประชาชน ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มีความเข้าใจกันมากขึ้น แม้จะมีความเห็นที่แตกต่าง ก็ถือเป็นปกติ เหมือนผัวกับเมียอยู่ด้วยกัน ต้องมีทะเลาะกันบ้าง
คลื่นสีฟ้าแน่นมัฆวานฯ
บรรยากาศที่บริเวณเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (10 ส.ค.) คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯจำนวนมากที่มาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลขายชาติ ซึ่งก้าวเข้าสู่เดือนที่ 3 แล้ว ได้พร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้าเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี และเพื่อร่วมแสดงความกตัญญูต่อแผ่นดิน
ขณะเดียวกันบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแนวร่วมพันธมิตรฯหลายสิบร้าน ได้นำสินค้าที่ระลึกเนื่องในวันแม่แห่งชาติ เช่น เสื้อสีฟ้า ดอกมะลิ เข็มกลัดวันแม่ ผ้าพันคอสีฟ้ามาจำหน่ายให้ผู้ชุมนุมซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งอาสาสมัครพันธมิตรฯ และนักรบศรีวิชัยได้เพิ่มความเข้มงวดการรักษาความปลอดภัยทุกจุดทางเข้าออก โดยเฉพาะบริเวณกองทัพภาคที่ 1 มีการนำลวดหนามมากั้นเพิ่มเติมเนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นจุดล่อแหลมและมีคนผ่านไปมาจำนวนมาก อาจมีผู้ไม่หวังดีทำอันตรายผู้ชุมนุมได้
ทั้งนี้ คาดว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.) และพรุ่งนี้ (12 ส.ค.) จะมีประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ เดินทางมาร่วมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หลายหมื่นคนแน่นอน ขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกภาคก็จะมีการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติในพื้นที่ของตนเองด้วยเช่นกัน
จวก “หมัก” พูดไร้สาระกลบ “แก๊งออฟโฟร์”
วันเดียวกันนายสมศักดิ์ โกศัยสุข พร้อมด้วย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ในรายการเวทีคู่ขนานตอบโต้รายการสนทนาประสาสมัคร โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า นายสมัครพยายามพูดหลีกเลี่ยงหลบหลีกปัญหา ทำเป็นไม่รู้เรื่อง พูดจาไร้สาระให้มาก เพื่อให้เวลาหมดไปทั้งที่พวกตัวเองสร้างปัญหาขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องถนัดของนายสมัครอยู่แล้ว ที่ไม่เลิกพฤติกรรมพูดเลอะเทอะวนเวียนไปเรื่อย
“คุยเรื่องการเปิดกีฬาโอลิมปิก บอกว่าได้นั่งคุยกันถูกคอกับนายพลเต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีพม่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะประเทศพม่าเป็นเผด็จการละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชนมากที่สุดในโลก เผด็จการเหมือนกันก็ต้องคุยกันอย่างถูกคอ และยังมาพูดถึงแก๊งออฟไฟว์ ซึ่งคงหมายถึงพันธมิตรฯ พยายามกลบเกลื่อนที่จะพูดถึงแก๊งออฟโฟร์ แค่บอกว่าเดี๋ยวจะปรับตัวของมันเอง แสดงว่าสมัครเริ่มรู้ชะตากรรมแล้วว่าสุดท้ายต้องออกจากตำแหน่ง แต่พยายามดื้อให้อยู่นานที่สุด เพราะต้องการอนุมัติโครงการเมกะโปรเจกต์”
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า นายสมัครเป็นตัวปัญหาสร้างความแตกแยก สามารถสั่งพวกนรกอันธพาลการเมืองได้ ไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 175 ที่ได้ถวายสัตย์ฯ ว่าจะซื่อสัตย์สุจริต ทำผิดรัฐธรรมนูญซ้ำซาก การปรับ ครม.ก็เอาพรรคพวกที่เคยทำมาหากินด้วยกันมาเป็นรัฐมนตรี เป็นกรรมการในบริษัทเอกชน ทั้งนายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช รมช.คลัง นายวีรพงษ์ รามางกูร นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลหุ่นเชิด แถมยังมีเรื่องเกี่ยวกับแก๊งออฟโฟร์อีก ซึ่งตนเห็นว่าพวกนี้ไม่มีสัจจะในหมู่โจร มีเป้าหมายโกงให้มากที่สุด มีการชิงไหวชิงพริบกันตลอด
ด้าน นายสมเกียรติกล่าวว่า นายกฯพูด 1 ชั่วโมงมีแต่เรื่องไร้สาระ ยังคุยว่าตัวเองไปร่วมพิธีเปิดโอลิมปิก นั่งกับนายกฯ พม่า และประธานาธิบดีบุช ซึ่งเป็นพวกหุ่นเชิดและพวกขายชาติเหมือนกัน แถมวันนี้ยังมาทำหน้าที่โฆษกให้หูจิ่นเทา นายกรัฐมนตรีจีน เรื่องการจัดกีฬาโอลิมปิก และยังมาพูดเรื่องนักกีฬาไทยที่เข้าแข่งขัน ทั้งๆ ที่รัฐบาลหุ่นเชิด ไม่เคยสนับสนุบงบประมาณด้านกีฬา หรือเชิญนักกีฬาโอลิมปิกเข้าไปพบที่ทำเนียบเลย
แกนนำพันธมิตร กล่าวด้วยว่า รัฐบาลหุ่นเชิดมีการอนุมัติโครงการเมกะโปรเจกต์กว่า 3 ล้านล้านบาท โดยตั้งคณะกรรมการมา 5 ชุด เอาไอ้เบื๊อกที่เป็นคนสนิท มานั่งเป็นประธานแก๊งออฟโฟร์ นอกจากนี้ นายสมัครยังล้วงลูกกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องข้าว เป็นจอมล้วงลูกมากกว่านายบรรหารเสียอีก จึงเป็นเรื่องที่ชอบธรรมที่เราจะไล่รัฐบาลออกไป
"วีระ"แฉกลโกง"ออหมัก"ผลาญงบ
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) กล่าวต่อว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กับคุณหญิงพจมานส่งสัญญาณว่าจะไม่กลับประเทศไทยแล้วทำให้มีผู้ออกมากังวลว่าจะเกิดการปฏิวัติ ซึ่งเราขอยืนยัน ณ ที่นี้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯก็พร้อมจะเจอกับทหารที่รักทักษิณ เหล่านั้น แต่ส่วนตัว ณ วันนี้คิดว่าคงไม่มีทหารรายไหนออกมาทำ เพราะถ้าทำก็โง่สิ้นดี เนื่องจากมีพี่น้องพันธมิตรฯอยู่นี่หลายหมื่นคนที่พร้อมจะต่อต้านในเรื่องดังกล่าว
ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีก็มีประวัติไม่เบา โดยสมัยที่เป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลของ พล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์) ก็โดนให้ออก เพราะไปมีส่วนพัวพันกับข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องการทำถนนในชนบทที่เป็นเงินกู้จากธนาคารโลกและนำเงินไปซื้อยางคุณภาพต่ำมาทำถนน อีกทั้งล่าสุดก็มีคดีรถเมล์ 6,000 คัน มูลค่ารวม 1 แสนกว่าล้านบาท ทั้งที่รถเมล์จากจีน ราคาขายแค่ 3 ล้านกว่าบาท ถ้าซื้อ 6,000 พันคันก็แค่ 20,000 กว่าล้านบาท แล้วไม่ทราบว่าจะไปเซ็นเช่าทำไม 6,000 คัน มูลค่าแสนกว่าล้านบาท
นอกจากนี้ นายวีระ ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนได้รับทราบว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นขอประมาณปี 2552 ด้วยวงเงิน 6.9 หมื่นล้านบาท โดยมีการขอซื้อเสื้อเกราะ 6 พันตัว วงเงิน 2,366 ล้านบาท ซึ่งเฉลี่ยแล้วตกเป็นตัวละ 394,333 บาท ทั้งที่เสื้อเกราะจริงๆ คุณภาพเกรดเอ จากสหรัฐอเมริกา มีราคาขายแค่ 38,000 บาทต่อตัวเท่านั้น
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายนายวีระ ได้ถามถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ว่าที่ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายขอซื้อปืนเอสเค ที่จริงมีราคาประมาณ 3-5 หมื่นบาท เหตุใดเวลาซื้อราคาจึงกลับกลายเป็นกระบอกละ 1 แสนบาทได้ เช่นเดียวกับในส่วนของหุ่นเก็บกู้ระเบิดที่เสนอมามูลค่า 16 ล้านบาทนั้นแต่ราคาจริงแค่ 6 ล้านบาท ซึ่งกรณีนี้ยังคล้ายกับของกองทัพเรือที่เคยถามไปก่อนหน้านี้ในเรื่องการซื้อเรือจากบริษัทในเครือเทมาเส็ก
"จำลอง"ปฏิเสธแผนรัฐบาล"บิ๊กจิ๋ว"
เวลา 21.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯขึ้นกล่าวบนเวทีกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่า ตอนนี้เราชุมนุมมาได้ 78 วันแล้วถ้ารวมครั้งก่อน 33 วันจะเป็น 111 วัน ดังนั้น ต้องขอให้พี่น้องปรบมือเป็นเกียรติให้กับตนเองด้วย
นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวถึงการจัดงาน (วันแม่แห่งชาติ) ของรัฐบาลด้วยว่า จากการที่ตนได้เข้าไปเดินดูที่จัดงานของรัฐบาล แต่ก็พบว่าของเขาเราสวยกว่าเขามาก อย่างไรก็ตาม ได้มีโทรศัพท์ด่วนจากพันธมิตรฯโทร.มาบอกตนว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งการทางวิทยุขอให้ตำรวจแต่งนอกเครื่องออกไปเที่ยวงานเดี๋ยวจะแพ้พันธมิตรฯ
พล.ต.จำลอง ยังได้กล่าวถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต ได้ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งโดยส่วนตัวตนนั้นไม่เคยมีอคติต่อตัว พล.อ.ชวลิต เพราะเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องและเคยเป็นผู้บังคับบัญชากันมาก่อน แต่สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต เสนอโดยออกแถลงการณ์รัฐบาลเฉพาะการณ์กับหลักนโยบายแก้ปัญหาชาติจากความรุนแรงบ้านเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งอยากเสนอให้พวกเราทุกคนรวมทั้งนักการเมืองมาร่วมมือการจัดตั้งนั้น เรื่องนี้ไม่จริง เพราะเราแค่อยากให้บ้านเมืองสงบ โดยให้อำนาจกระบวนการทางศาล ไม่มีใครไปยุ่ง
"ที่ท่านเสนอว่า ให้เปลี่ยนรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเฉพาะกาล ซึ่งประกอบไปด้วยรัฐบาลปัจจุบัน ฝ่ายค้าน เอกชนอื่นๆ เพื่อให้ทำงานเป็นรูปธรรม โดยในเวลานี้ให้ดำเนินการอย่างปรองดองของคนในชาติ เสร็จแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งแบบเก่า ซึ่งเราพูดกันแล้วว่า ถ้าเป็นแบบเก่าใครมีเงินมากก็ซื้อ ส.ส.มาอยู่ด้วยและสามารถทำอะไรก็ได้ ดังนั้น ถ้ามีการเปลี่ยนและเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบเก่า เราจะไม่สนับสนุน แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน เราก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต เสนอมานั้น นอกจากจะเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลแล้วยังอยู่ในวงเวียนอุบาทว์แบบเก่า ซึ่งอาจทำให้ทหารปฏิวัติอีก เราต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไร"
สุดท้าย พล.ต.จำลอง ได้กล่าวชักชวนประชาชนให้ชักชวนญาติพี่น้องที่บ้านมาร่วมงานเฉลิมพระชนม์พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวันที่ 12 สิงหาคมนี้กันให้มากๆ โดยหวังว่าวันนั้นประชาชนจะมาร่วมกันมากกว่านี้