xs
xsm
sm
md
lg

การเคลื่อนไหวด้านการบิน

เผยแพร่:   โดย: ชัยสิริ สมุทวณิช

ผมดูภาพยนตร์เรื่อง Rain Men นานมาแล้ว ผู้แสดงเป็นโรคออทิสติก กล่าวในตอนหนึ่งว่า สายการบินที่มีสถิติดีที่สุด คือไม่เคยตกเลยได้แก่ แควนตัส เป็นสายการบินของประเทศออสเตรเลีย

ตอนที่ผมไปเรียนหนังสือในต่างประเทศ และขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในยุค 60’s ก็ขึ้นเครื่องบินแควนตัสนี่แหละครับ

นอกจากจะไม่เคยตกแล้ว สายการบินที่ว่านี้ยังทำกำไรได้มาก

ปัจจุบันผู้บริหารสูงสุด ชื่อ Geoff Dixon นาย Dixon คนนี้ต้อง “ยกเครื่อง” แควนตัสแล้วละครับ

เพราะว่าแควนตัสก็เหมือนกับสายการบินทั่วโลกที่มีต้นทุนแพงขึ้นทุกวัน สาเหตุก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงนั่นเองทำให้กำไรหด และแนวโน้มในอนาคตไม่ดีเหมือนเดิมแล้ว

สิ่งที่นายดิกสันต้อง “จำยอม” กระทำในเวลานี้ก็คือ

“หยุดเครื่องบินโดยให้จอดไว้เฉยๆ บ้างเป็นบางลำ, ยกเลิกเที่ยวบินในบางเส้นทางที่ได้กำไรน้อย หรือขาดทุน, ยกเลิกปริมาณการบรรทุกออกไปเพื่อจะได้ไม่ต้องเติมน้ำมันเต็มลำ”

และแน่นอนครับ ตัดรายจ่ายโดยเลิกจ้างพนักงาน และไม่ขึ้นเงินเดือนให้กับฝ่ายบริหารหลายตำแหน่ง

สรุปได้ว่า “รัดเข็มขัด ประหยัดทุกทาง” นั่นแหละ

แต่เท่านี้พอเพียงแล้วหรือไม่?

ตัวเขาเห็นว่า มันอาจตอบคำถามกับพนักงานไม่ได้ ดังนั้นเขาเลยส่งอี-เมลไปยังพนักงานของแควนตัสทุกคน โดยยอมรับว่าเหตุผลที่เขาได้ดำเนินมาตรการทุกทางสำหรับการรัดเข็มขัดนี้ก็เพราะราคาน้ำมันได้ทำให้ธุรกิจการบินของแควนตัสต้องได้รับการปรับตัวใหม่

พูดง่ายๆ จะทำการบินด้วยวิธีการแบบเดิมอีกไม่ได้แล้ว

เขายังกล่าวในอี-เมลต่อไปว่า หลังจากเขาได้ประเมินผลดูแล้วก็พบว่า ผลปฏิบัติการนั้นมีค่าใช้จ่ายที่จะต้องตัดทอนลงได้อีก หากแควนตัสจะปฏิบัติการบินต่อไปโดยพอจะมีกำไรนิดหน่อยในอนาคต

เขาระบุว่าในภาวการณ์แบบนี้มันเป็นสิ่งจำเป็น

แต่ในวงตลาดด้านธุรกิจการบินซึ่งรอผลการประเมินจากแควนตัส ได้เค้ามาว่า ทางสายการบินนี้อาจจะต้องลดจำนวนพนักงานลงไปอีก

ตัวนายดิกสันเองนั้น ก็จะลงจากตำแหน่งภายในปีหน้า โดยที่ผ่านมาเขามีผลงานดีทีเดียวในการบริหารแควนตัส

9 ปี ที่เขาบริหารแควนตัสก็ทำกำไรให้สายการบินนี้มาตลอด แต่ปลายปีนี้ก่อนเขาถึงวาระต้องอำลาจากตำแหน่ง ก็ถือว่าโชคร้ายที่แควนตัสมีปัญหารุมเร้าในเรื่องราคาเชื้อเพลิงการบิน รวมทั้งเรื่องกับสหภาพแรงงาน อีกทั้งนักลงทุนไม่พอใจที่เขาไปเชื่อมโยงกับกลุ่มการเงิน ซึ่งจะหาเงิน (แม้จะไม่สำเร็จ) กว่า 1หมื่น1พันล้านเหรียญออสเตรเลีย เพื่อใช้ในการลงทุนกับแควนตัสเมื่อปี 2006

ขณะที่เหตุการณ์ 9/11 ในอเมริกา สายการบินทั่วโลกเกิดภาวะถดถอย แต่แควนตัสกลับลอยลำมีผลประกอบการดีกว่าคู่แข่งอื่นๆ แม้ในยุคที่ไข้ซาร์สระบาดก็ไม่กระทบแควนตัส

ทั้งหมดนี้ต้องยกเครดิตให้กับดิกสัน

นี่คือเรื่องราวล่าสุดที่ผมเขียนถึงแควนตัส

แต่บ้านเราก็มีเรื่องเศร้าเกี่ยวกับวัน-ทู-โก ซึ่งในฐานะเคยเป็นลูกค้าสายการบินนี้ที่ต้องหยุดบิน เพราะเขาไม่ได้มาตรฐาน

ผมนั้นเอาใจช่วยวัน-ทู-โก และสายการบินที่ Low-Cost ทุกสายการบินในฐานะเป็นสายการบินทางเลือกนะครับ

ในยามเศรษฐกิจย่ำแย่ เงินออมน้อยอย่างนี้ และผมยังเลือกที่จะบิน Low Cost ที่แพงกว่านอนบนรถไฟนิดหน่อย และเสี่ยงน้อยกว่านั่งบนที่นั่งแคบๆ บนรถบัสที่วิ่งบนถนนหลวงในระยะ 600-700 กิโลเมตร

สายการบิน Low-Cost เป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ

มาดูว่าสายการบินอื่นๆ ทำอะไรกันบ้าง มีลดมีแถมอะไรกันหรือไม่?

แควนตัส
อีกครั้ง เขาจะเริ่มเปิดบริการโดยใช้แอร์บัส A380 บินจากนครเมลเบิร์นไป LA สหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ปีนี้เป็นต้นไป โดยบินสัปดาห์ละเที่ยวเดียวก่อน

หลังจากนั้นก็จะเริ่มบินจากซิดนีย์, ออสเตรเลียไป LA เที่ยวเดียวเช่นกัน และถึงเดือนกันยายนปีนี้ก็จะเปิดบิน 2 เที่ยว ระหว่างเมลเบิร์น-LA และ 3 เที่ยว ซิดนีย์-LA เท่าที่ดูแล้วน่าจะบินตรงไม่มีแวะนะครับ

เวอร์จิน แอตแลนติก จะเพิ่มเที่ยวบินจากลอนดอน-ฮ่องกงเป็น 2 เที่ยว และเป็น 3 เที่ยว ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม หลังจากนั้นก็จะบินทุกวันๆ ละเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้

แอร์เอเชีย Low cost จะเปิดเที่ยวบินตรงทุกวัน ระหว่างกัวลาลัมเปอร์กับมากัสการ์ในอินโดนีเซียแล้วครับ

เอมิเรตส์ จะเริ่มบินทุกวันจากดูไบไปเดอบันในแอฟริกาใต้ โดยเริ่มวันที่ 1 ธันวาคม ศกนี้ และก็จะบินไปยังโยฮันเนสเบิร์กและเคปทาว์นด้วย

เที่ยวบินไปกาฐมาณฑุ สายการบินไชน่าเซาเทิร์น แอร์ไลน์ จะทำการบินตรงจากกวางเจาไปกาฐมาณฑุ โดยบินทุกวันจันทร์และศุกร์ หลังจากเปิดเที่ยวบินไปจีนสำเร็จ Air China ก็จะเปิดเที่ยวบินประจำจากปักกิ่งไปไทเปแล้วครับ

ครับนี่เป็นการเคลื่อนไหวที่นานๆ ทีผมจะรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การบินสักครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น