xs
xsm
sm
md
lg

ท้าพิสูจน์เขมรยัน "ตาเมือนธม" สมบัติของไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน/ภูมิภาค - ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ พระราชทานถุงเสื้อผ้า พร้อมเงินสดให้แก่ทหารไทยที่ตรึงกำลังพิทักษ์รักษาอธิปไตยของชาติบนเขาพระวิหาร ขณะที่ ผบ.ทบ.ส่งข้าวสาร 500 กระสอบให้กำลังพลด้วย ด้านอธิบดีกรมศิลปากรยันอีกครั้งปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ตั้งแต่ 8 มี.ค.2478 เร่งรวบรวมหลักฐานสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นข้อมูลร่วมกัน เปิดหนังสือ 2 นักสำรวจชาวฝรั่งเศสบันทึกชัด "ตาเมือนธม"อยู่ในสุรินทร์ของไทย ขณะที่ "ฮุนเซน"ลูบหลังชวนคนไทยปรองดอง

วานนี้ (6 ส.ค.) นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เป็นของประเทศไทย จากการตรวจสอบหลักฐานที่ผ่านมา มีหลักฐานชัดเจนว่า ได้มีการขึ้นทะเบียนโบราณสถานแล้ว สิ่งที่กรมศิลปากรจะดำเนินการต่อไป คือ การตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน และรวบรวมไว้ทั้งหมด นำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูลร่วมกัน สำหรับหลักฐานครั้งนี้ที่ยืนยันว่าปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย คือประกาศในราชกิจจานุเบกษาที่แสดงว่าได้มีการขึ้นทะเบียนไว้ ทั้งรายชื่อและเขตโบราณสถานและแผนที่ที่ไปดำเนินการสำรวจ รวมทั้งรายละเอียดมีการดำเนินการเกี่ยวกับการบูรณะที่ผ่านมา

ส่วนกรณีปัญหาโบราณสถานบริเวณชายแดนติดต่อไทยกับกัมพูชาที่เกิดต่อเนื่องจะมีการแก้ปัญหาอย่างไรนั้น นายเกรียงไกร กล่าวว่า ปกติมีคณะกรรมการร่วมในการปักปันเขตแดน ซึ่งดำเนินงานมาหลายปีแล้ว ก็คงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการปักปันเขตแดน ที่จะดำเนินการปักปันต่อไป

นายธราพงษ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร นำหนังสือ 2 เล่ม ที่เขียนโดยนักสำรวจชาวฝรั่งเศส เป็นหลักฐานการยืนยันว่า ปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ ราชอาณาจักรสยาม ได้แก่ Le Combodge ของอีเตียน เอมโมนิเย่ (Etienne Aymonier) ในปี ค.ศ.1901 (พ.ศ.2444) และหนังสือของลาจองกิแยร์ (Lajonquiere) ในปี พ.ศ.2451 ซึ่งได้เคยไปสำรวจมาทั้ง 2 คน นอกจากนี้ยังมีเอกสารประกาศกรมศิลปากรที่ได้ประกาศกำหนดให้ประสาทตาเมือนธม เป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ในการประกาศของหลวงวิจิตรวาทการ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478 และพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 ในเล่ม 52 หน้า 3712

ทั้งนี้ นายธราพงษ์ กล่าวว่า หนังสือทั้ง 2 เล่ม เก็บไว้ในห้องสมุดของสำนักโบราณคดี ซึ่งหนังสือ 2 เล่มนี้ มีการตีพิมพ์จำหน่ายในประเทศฝรั่งเศส ยุโรป และทั่วโลก ปัจจุบันยังมีการจำหน่าย ถึงแม้จะเป็นหนังสือที่หมดไปนานแล้ว แต่กรมศิลปากรไปซื้อมาจากตลาดในยุโรป ทั้งนี้ เป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้ เพราะยังมีการอ้างอิงไปถึงหนังสืออื่น ๆ เช่น จอร์จ เซเดส์ ที่เขียนเรื่อง Inscription du Combodge ก็อ้างอิงถึงหนังสือ 2 เล่มนี้ว่าปราสาทตาเมือนธมอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ ราชอาณาจักรสยา

พระราชทานถุงเสื้อผ้า-เงินทหาร

วานนี้ (6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานกรรมการมูลนิธิคุณพุ่ม เจนเซ่น ได้ทรงพระกรุณามอบให้ พล.อ.เสริมศักดิ์ วิเศษไชยศรี รององค์ประธานกรรมการมูลนิธิฯ นำเอาถุงพระราชทานเสื้อผ้า พร้อมด้วยเงินสด 50,000 บาท มามอบให้แก่ทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ โดยมี พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 นำกำลังทหารเข้ารับมอบสิ่งของพระราชทาน

พล.อ.เสริมศักดิ์ วิเศษไชยศรี รององค์ประธานกรรมการมูลนิธิคุณพุ่ม เจนเซ่น ในพระองค์ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี กล่าวว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงมีความห่วงใยทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหารเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทหารทุกนายปฏิบัติหน้าที่เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตยของชาติไทย

ดังนั้น จึงทรงพระราชทานถุงพระราชทาน จำนวน 176 ถุง พร้อมด้วยเงินสดจำนวน 50,000 บาท เพื่อพระราชทานเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารทุกนายที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหารในขณะนี้ ซึ่งขอฝากถึงทหารไทยทุกนายว่าในการปฏิบัติหน้าที่ขอให้มีสติและตั้งอยู่บนความไม่ประมาทเพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถในการรักษาอธิปไตยของชาติต่อไป

พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในฐานะทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหารรู้สึกทราบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เป็นอย่างยิ่งที่ทรงมีความห่วงใยทหารทุกนาย นับว่าเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับทหารเป็นอย่างมาก ซึ่งจะได้นำเอาถุงพระราชทานมอบให้กับทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ตรึงกำลังบนเขาพระวิหารต่อไป
 
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ส่งข้าวสารจำนวน 500 กระสอบ ๆ ละ 50 กิโลกรัม มาให้กับกำลังพลที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหาร ด้วย

ทหารลาดตระเวนร่วม"ช่องกร่าง"

ส่วนบรรยากาศทางชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากำลังทหารพรานจากกองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 2606 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 ตั้งอยู่บริเวณช่องกร่าง ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ 20 นายนำโดย พ.ต.พิทักษ์ อาศรัยป่า ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 2606 ได้ปฏิบัติการลาดตระเวนร่วมกับกำลังทหาร กองร้อยลาดตระเวนที่ 1 หน่วยป้องกันชายแดน กัมพูชา นำโดย ร.ท.ม็อก สุเพ็ญ รองผู้บังคับการลาดตระเวนกองร้อยลาดตระเวนที่ 1 หน่วยป้องกันชายแดน กัมพูชาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านช่องกร่าง ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้ปักปันเขตแดนชัดเจนแล้ว คือ หลักเขตที่ 22

ทั้งนี้ การลาดตระเวนร่วมดังกล่าวได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 ทำการลาดตระเวนร่วมกันจากหลักเขตที่ 22 ไปยังปราสาทตาวาย บ้านไทยนิยม ต.บักได เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร ส่วนที่ 2 ลาดตระเวนร่วมกันจากหลักเขตที่ 22 ไปทางทิศตะวันตก ระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยจะปฏิบัติการร่วมกันไปอย่างต่อเนื่อง เป็นห่วงๆ ไป

การปฏิบัติการลาดตระเวนร่วมทหารไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายในครั้งนี้ เป็นผลจากการเจรจาร่วมระดับท้องถิ่นระหว่าง กองกำลังสุรนารี กับ ทหารภูมิภาคที่ 4 ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อลดความตึงเครียดทางทหารกรณีพิพาทพื้นที่ชายแดนบริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งหลังจากการเจรจาได้ข้อสรุปดังกล่าวส่งผลให้ความตรึงทางทหารเริ่มลดลง และแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทย กับ กัมพูชา ที่ปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าวยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากช่องกร่าง ต.บักได ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 5-6 กม. กำลังทหารไทยยังคงตรึงพื้นที่รักษาความเรียบร้อย เป็นไปตามปกติ โดยกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายจะไม่เข้าเผชิญหน้าในพื้นที่พิพาทแต่ให้รักษาการณ์อยู่ที่ตั้งของแต่ละฝ่ายตามเดิม ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงจากการเจรจาของฝ่ายทหารทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่าง กองกำลังสุรนารี กับทหารภูมิภาคที่ 4 เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา

"ฮุนเซน"ลูบหลังชวนไทยปรองดอง

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาสมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าวว่าไทยกับกัมพูชาจะต้องลืมความหลังเลิกเป็นปรปักษ์ต่อกันในกรณีปราสาทพระวิหาร โดยระบุว่าสองประเทศเพื่อนบ้านไม่ควรเข้าสู่สงครามเพียงเพราะเรื่องชายแดนเล็กๆ แค่นี้ ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวว่าการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเปลี่ยนน้ำเสียงไปจากตอนหาเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว

"เราจะต้องไม่นำประเทศของเราเข้าสู่สงครามเพียงเพราะความขัดแย้งที่ชายแดน" สมเด็จฯ ฮุนเซนกล่าวในการปราศรัยทางโทรทัศน์เมื่อวันพุธ (6 ส.ค.) และกล่าวด้วยว่าไทยและกัมพูชาจะต้องอยู่ด้วยกันยาวนานอีกนับหมื่นปีข้างหน้า ควรจะหาทางลดความขัดแย้งและเพิ่มความร่วมมือสองฝ่ายให้มากที่สุด รวมทั้งด้านการค้าด้วย

“เราจะต้องอยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีตลอดนับหมื่นปีข้างหน้า เราจะต้องจำกัดความขัดแย้งระหว่างเราให้ลดลงและขยายความร่วมมือทวิภาคีให้สูงที่สุด..” นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่อยู่ในตำแหน่งมานาน 23 ปี กล่าว

ระหว่างหาเสียงเลือกเดือนที่แล้วสมเด็จฯ ฮุนเซนกับพรรคประชาชนกัมพูชาได้ชูความชาตินิยมอย่างเต็มเปี่ยม และกวาดคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งวันที่ 27 ก.ค. โดยไทยและกัมพูชาได้เสริมกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าสู่ดินแดนพิพาทพื้นที่ราว 4.6 ตารางกิโลเมตรที่ชายแดนรอบๆ ปราสาทพระวิหาร แต่สองฝ่ายได้จัดให้มีการพบเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศขึ้นในวันที่ 28 ก.ค. หลังการหย่อนบัตรเลือกตั้งผ่านไปเพียง 1 วัน
รัฐบาลดึง"วีรชัย"กลับบัวแก้ว
ผู้จัดการรายวัน- รัฐบาลลูกกรอกออกมติ ครม.บีบกองทัพปรับกำลังทหารในพื้นที่วัดแก้วสิขาฯ-ปราสาทพระวิหาร ตามบัวแก้ว ร้องขอ เชื่อต้องปรับพร้อมกันเพื่อลดการเผชิญหน้าก่อนประชุมระดับ รมว.กต. ครั้งที่ 2 ขณะเดียวกันอนุมัติโยกเก้าอี้อธิบดีบัวแก้ว วีรชัย กลับมานั่งอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ กฤต กลับกรมเศรษฐกิจ ธนาธิป นั่งทูตกระทรวง หลังเสร็จภารกิจให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ด้านสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังอึมครึม ผบ.กกล.สุรนารี ระบุกัมพูชารุกไม่หยุดล่าสุดไหวตัวนำชาวเขมรกลับเข้ามาปักหลักอยู่ที่บริเวณชุมชนตลาดเชิงเขาพระวิหาร รุกล้ำเขตแดนไทยเช่นเดิมแล้ว เตีย บัญ ยันปราสาทตาเมือนธมเป็นของเขมร
กำลังโหลดความคิดเห็น