ผู้จัดการรายวัน - ผู้ช่วยผู้ว่าฯ เผย ธปท.ไม่รู้สึกกดดันในการทำงานหลัง ดร.โกร่งรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษารัฐบาล เพราะดำเนินนโยบายการเงินถูกทางแล้ว พร้อมใช้ดอกเบี้ยดูแลอัตราเงินเฟ้อต่อไป ส่วนนโยบายที่มองต่างมุมกันเป็นเรื่องดีช่วยเสริมซึ่งกันและกัน ยอมรับแต่งตั้งบอร์ด กนง.ชุดใหม่ต้องรอบอร์ด ธปท. มาแปลกใส่ชื่อ ดร.โกร่งเป็นวิทยากรร่วมงานสัมมนาวิชาการประจำปีเดือน ก.ย.นี้
จากกรณีที่นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ถูกคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ นางสาวดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การทำงานของ ธปท.ในขณะนี้ไม่รู้สึกกดดัน เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจจะมีมุมมองหลากหลาย แต่เรื่องใดที่มีความเห็นต่างกัน ธปท.ก็พร้อมจะรับฟังและชั่งน้ำหนักดูว่าจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง เพราะในปัจจุบันมีปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศหลายปัจจัยมารุมเร้าเศรษฐกิจ รวมทั้งความผันผวนต่างๆ ซึ่งอาจมีผลต่อการดำเนินนโยบายต่างๆ ในอนาคตได้
“การปรับขึ้นดอกเบี้ยเชื่อว่าเดินมาถูกทาง ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็มีการชั่งน้ำหนักปัจจัยทุกอย่างและมีการตัดสินใจอย่างรอบคอบมากที่สุด แต่เราก็ยังพยายามทำหน้าที่ดูแลอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวไม่ให้สูงมากกว่าสิ่งที่ควรจะเป็น และไม่ให้เสถียรภาพด้านราคาเสียไปด้วย ขณะที่นโยบายรัฐบาลต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและต้องการกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตดี แต่เชื่อว่าเป้าหมายสุดท้ายของทั้งรัฐบาลและเราก็คือต้องการให้เศรษฐกิจมีการเติบโตแบบยั่งยืน ถือว่าเป็นการดูแลที่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันได้” น.ส.ดวงมณีชี้แจง
***ตั้งบอร์ดใหม่ กนง.รอบอร์ด ธปท.
สำหรับความคืบหน้าในการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ดูแลการเงินและระบบการเงินทั้ง 4 ชุด ประกอบด้วยคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (กกธ.) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) และคณะกรรมการระบบชำระเงิน (กรช.) ซึ่งในชุดเก่าของคณะกรรมการทั้ง 4 ชุดจะหมดวาระในวันที่ 31 ส.ค.นี้ โดยในส่วนของ กกธ.กำลังอยู่ระหว่างรอโปรดเกล้าแต่งตั้งประธาน กกธ. ทำให้ในขณะนี้ยังไม่สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยที่เหลือ 3 ชุดนั้นได้และในการประชุม กนง.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.นี้ยังคงเป็น กนง.ชุดเดิม
“ แม้ว่ากรรมการที่นั่งในบอร์ด กนง.ชุดใหม่บางคนจะมาจากบุคคลภายนอก ซึ่งอาจจะเน้นเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจกิจ แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว กนง.ก็ยังคงดูแลเรื่องเสถียรภาพด้านราคาเป็นเป้าหมายหลักเหมือนเดิม เนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้น จึงไม่ต้องวิตกว่า กนง.ชุดใหม่จะมุ่งดูแลการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าเสถียรภาพ”
***เชิญโกร่งร่วมวงเสวนาวิชาการ
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท.เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลัง ธปท.จะมีการจัดงานสัมมนา 3 งานใหญ่ โดยงานแรกเป็นงานสัมมนาวิชาการธปท.ประจำปี 2551 ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีและในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 แล้ว โดยงานจะมีขึ้นในวันที่ 3-4 ก.ย.นี้ ส่วนงานที่สอง คือ International Symposium ซึ่งเป็นงานสัมมนาระดับสากลที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ของผู้บริหารธนาคารกลางและผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศในการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 พ.ย.นี้ นับเป็นครั้งที่ 3 และงานสุดท้าย คือ SEANZA Governor’s Symposium and Meeting ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในประเด็นที่น่าสนใจของระหว่างธนาคารกลางจำนวน 20 ประเทศ รวมทั้งเป็นการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพก้าวสู่ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกลาง โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้
เป็นที่น่าสังเกตว่า เฉพาะวันที่ 3-4 ก.ย.นี้ภายใต้หัวข้อ “นโยบายการเงินในโลกที่ผันผวน : ความท้าทาย และกลยุทธ์ตั้งรับ” (Monetary Policy in a Volatile World: Challenges and Strategies Going Forward)” มีการเสวนาระดมความคิดจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วยนายวีรพงษ์ รามางกูร นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายศุภวุฒิ สายเชื้อและนายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. โดยมีนางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมานายวีรพงษ์ไม่เห็นด้วยที่ ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยแก้ปัญหาเงินเฟ้อพยุงเศรษฐกิจ ไม่เพียงแต่เห็นตรงข้าม นายวีรพงษ์ยังต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงผู้ว่าฯ ธปท. โดยล่าสุดระบุว่าปัญหาเศรษฐกิจไทยช่วงที่ผ่านมาเกิดจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของ ธปท. เนื่องจากทำงานภายใต้นโยบายของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งไม่ถูกต้องในสถานการณ์ปัจจุบัน.
จากกรณีที่นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ถูกคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ นางสาวดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การทำงานของ ธปท.ในขณะนี้ไม่รู้สึกกดดัน เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจจะมีมุมมองหลากหลาย แต่เรื่องใดที่มีความเห็นต่างกัน ธปท.ก็พร้อมจะรับฟังและชั่งน้ำหนักดูว่าจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง เพราะในปัจจุบันมีปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศหลายปัจจัยมารุมเร้าเศรษฐกิจ รวมทั้งความผันผวนต่างๆ ซึ่งอาจมีผลต่อการดำเนินนโยบายต่างๆ ในอนาคตได้
“การปรับขึ้นดอกเบี้ยเชื่อว่าเดินมาถูกทาง ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็มีการชั่งน้ำหนักปัจจัยทุกอย่างและมีการตัดสินใจอย่างรอบคอบมากที่สุด แต่เราก็ยังพยายามทำหน้าที่ดูแลอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวไม่ให้สูงมากกว่าสิ่งที่ควรจะเป็น และไม่ให้เสถียรภาพด้านราคาเสียไปด้วย ขณะที่นโยบายรัฐบาลต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและต้องการกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตดี แต่เชื่อว่าเป้าหมายสุดท้ายของทั้งรัฐบาลและเราก็คือต้องการให้เศรษฐกิจมีการเติบโตแบบยั่งยืน ถือว่าเป็นการดูแลที่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันได้” น.ส.ดวงมณีชี้แจง
***ตั้งบอร์ดใหม่ กนง.รอบอร์ด ธปท.
สำหรับความคืบหน้าในการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ดูแลการเงินและระบบการเงินทั้ง 4 ชุด ประกอบด้วยคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (กกธ.) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) และคณะกรรมการระบบชำระเงิน (กรช.) ซึ่งในชุดเก่าของคณะกรรมการทั้ง 4 ชุดจะหมดวาระในวันที่ 31 ส.ค.นี้ โดยในส่วนของ กกธ.กำลังอยู่ระหว่างรอโปรดเกล้าแต่งตั้งประธาน กกธ. ทำให้ในขณะนี้ยังไม่สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยที่เหลือ 3 ชุดนั้นได้และในการประชุม กนง.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.นี้ยังคงเป็น กนง.ชุดเดิม
“ แม้ว่ากรรมการที่นั่งในบอร์ด กนง.ชุดใหม่บางคนจะมาจากบุคคลภายนอก ซึ่งอาจจะเน้นเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจกิจ แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว กนง.ก็ยังคงดูแลเรื่องเสถียรภาพด้านราคาเป็นเป้าหมายหลักเหมือนเดิม เนื่องจากเป็นอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้น จึงไม่ต้องวิตกว่า กนง.ชุดใหม่จะมุ่งดูแลการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าเสถียรภาพ”
***เชิญโกร่งร่วมวงเสวนาวิชาการ
ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท.เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลัง ธปท.จะมีการจัดงานสัมมนา 3 งานใหญ่ โดยงานแรกเป็นงานสัมมนาวิชาการธปท.ประจำปี 2551 ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีและในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 แล้ว โดยงานจะมีขึ้นในวันที่ 3-4 ก.ย.นี้ ส่วนงานที่สอง คือ International Symposium ซึ่งเป็นงานสัมมนาระดับสากลที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ของผู้บริหารธนาคารกลางและผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศในการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 พ.ย.นี้ นับเป็นครั้งที่ 3 และงานสุดท้าย คือ SEANZA Governor’s Symposium and Meeting ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในประเด็นที่น่าสนใจของระหว่างธนาคารกลางจำนวน 20 ประเทศ รวมทั้งเป็นการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพก้าวสู่ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกลาง โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้
เป็นที่น่าสังเกตว่า เฉพาะวันที่ 3-4 ก.ย.นี้ภายใต้หัวข้อ “นโยบายการเงินในโลกที่ผันผวน : ความท้าทาย และกลยุทธ์ตั้งรับ” (Monetary Policy in a Volatile World: Challenges and Strategies Going Forward)” มีการเสวนาระดมความคิดจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วยนายวีรพงษ์ รามางกูร นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายศุภวุฒิ สายเชื้อและนายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. โดยมีนางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมานายวีรพงษ์ไม่เห็นด้วยที่ ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยแก้ปัญหาเงินเฟ้อพยุงเศรษฐกิจ ไม่เพียงแต่เห็นตรงข้าม นายวีรพงษ์ยังต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงผู้ว่าฯ ธปท. โดยล่าสุดระบุว่าปัญหาเศรษฐกิจไทยช่วงที่ผ่านมาเกิดจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของ ธปท. เนื่องจากทำงานภายใต้นโยบายของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งไม่ถูกต้องในสถานการณ์ปัจจุบัน.