ผู้จัดการรายวัน - “สรจักร”ยังไม่ปลื้มการทำงานของทีพีซี ลงมติตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อมาบริหารความเสี่ยง หลังยอดขาย 9 เดือนแรกยังได้แค่ 33 ใบจากเป้าหมาย 400 ใบ ด้าน “รพี “ ดันทุรังประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายเพิ่ม ทั้งที่ บอร์ดททท.เคยท้วงติง อ้างมีความจำเป็น หากต้องการทำตลาดเชิงรุก
นายสรจักร เกษมสุวรรณ ประธานคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการบัตรอีลิท เปิดเผย ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อมาบริหารความเสี่ยงให้แก่ทีพีซี โดยมี นายสุรกิจ ลิ้มสิทธิกูล กรรมการบอร์ด นั่งเป็นประธาน ซึ่งจะทำงานร่วมกับผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบของ ทีพีซี กระบวนการทำงานจะดูแลตรวจสอบขั้นตอนการทำงานว่า มีปัญหาติดขัดในข้อใด เพื่อเสนอแนะให้แก้ไขและปรับปรุง
ทั้งนี้ที่ไม่สามารถตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบได้ เพราะปัจจุบันยังมีกรรมการในบอร์ด ไม่ครบจำนวน แต่มีความเร่งด่วนที่ทีพีซีจะต้องมีกระบวนการตรวจสอบเพื่อบริหารความเสี่ยง ทั้งด้านการให้บริการสมาชิก การดำเนินธุรกิจและการลงทุน จึงถือเป็นวาระเร่งด่วน และสืบเนื่องมาจากความผิดพลาดในการสื่อสารกับสมาชิกจากประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดมาตั้งแต่ปี 2548 จึงไม่ต้องการให้มีปัญหาเกิดขึ้นอีก
อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ ทีพีซีรายงานว่า เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มียอดสมาชิกใหม่เพิ่มอีก 6 ราย รวมเป็นสมาชิกใหม่ตั้งแต่ต้นปีเป็น 33 ราย ซึ่งยังเป็นตัวเลขที่บอร์ดไม่พอใจ จึงให้ ทีพีซีไปเร่งดำเนินแผนงานด้านการจัดจำหน่ายให้ชัดเจน รวมถึงการทำประชาสัมพันธ์องค์กรให้เกิดความเชื่อมั่น เพื่อให้สิ้นปีนี้ได้ยอดจำหน่ายบัตรรวมเป็น 400 ใบ ตามที่ตั้งเป้าไว้
ทางด้านนายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี กล่าวว่า อยู่ระหว่างการประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่าย เพื่อให้ครอบคลุม ประเทศเป้าหมาย เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และ นิวซีแลนด์ รวมถึง อีกหลายประเทศในแถบเอเชีย พร้อมกับเร่งประชุมแผนการตลาดให้แก่ฝ่ายขายและการตลาด เพื่อให้ทุกฝ่ายเดินหน้าการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และมั่นใจว่าถึงสิ้นปีจะได้ยอดขายตามเป้าหมายแน่นอน เพราะที่ผ่านมา สมาชิกใหม่ จะตัดสินใจซื้อในช่วงปลายปีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายรพี กล่าวว่า การเพิ่มตัวแทนจำหน่าย ไม่ได้ฝ่าฝืนมติของบอร์ด ททท. ที่ท้วงติงว่า ควรลดตัวแทนจำหน่าย เพื่อลดต้นทุน แล้วหันมาจัดจำหน่ายเอง เพราะเห็นว่าการตั้งตัวแทนจำหน่ายยังมีความจำเป็น เป็นการขยายฐานผู้ขาย ในตลาดเป้าหมายและยังสั่งการให้ฝ่ายขายลงพื้นที่และทำงานเชิงรุกมากขึ้น ปัจจุบันสมาชิกของทีพีซีมีทั้งหมดรวม 2,528 ราย ส่วนค่าคอมมิชชั่นของตัวแทนจำหน่าย ปัจจุบันปรับลดจาก 25% เหลือ 15% และจะไม่ลดไปกว่านี้แล้วทั้งนี้มีรายงานระบุว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ดูแลการทำงานของ ทีพีซีอย่างใกล้ชิดให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมให้ชี้แจงถึงความจำเป็นในการที่ ททท.ได้ลงทุนในบริษัทนี้ ตลอดจนความคุ้มค่าที่จะดำเนินการต่อไป
นายสรจักร เกษมสุวรรณ ประธานคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการบัตรอีลิท เปิดเผย ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อมาบริหารความเสี่ยงให้แก่ทีพีซี โดยมี นายสุรกิจ ลิ้มสิทธิกูล กรรมการบอร์ด นั่งเป็นประธาน ซึ่งจะทำงานร่วมกับผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบของ ทีพีซี กระบวนการทำงานจะดูแลตรวจสอบขั้นตอนการทำงานว่า มีปัญหาติดขัดในข้อใด เพื่อเสนอแนะให้แก้ไขและปรับปรุง
ทั้งนี้ที่ไม่สามารถตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบได้ เพราะปัจจุบันยังมีกรรมการในบอร์ด ไม่ครบจำนวน แต่มีความเร่งด่วนที่ทีพีซีจะต้องมีกระบวนการตรวจสอบเพื่อบริหารความเสี่ยง ทั้งด้านการให้บริการสมาชิก การดำเนินธุรกิจและการลงทุน จึงถือเป็นวาระเร่งด่วน และสืบเนื่องมาจากความผิดพลาดในการสื่อสารกับสมาชิกจากประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดมาตั้งแต่ปี 2548 จึงไม่ต้องการให้มีปัญหาเกิดขึ้นอีก
อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ ทีพีซีรายงานว่า เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มียอดสมาชิกใหม่เพิ่มอีก 6 ราย รวมเป็นสมาชิกใหม่ตั้งแต่ต้นปีเป็น 33 ราย ซึ่งยังเป็นตัวเลขที่บอร์ดไม่พอใจ จึงให้ ทีพีซีไปเร่งดำเนินแผนงานด้านการจัดจำหน่ายให้ชัดเจน รวมถึงการทำประชาสัมพันธ์องค์กรให้เกิดความเชื่อมั่น เพื่อให้สิ้นปีนี้ได้ยอดจำหน่ายบัตรรวมเป็น 400 ใบ ตามที่ตั้งเป้าไว้
ทางด้านนายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี กล่าวว่า อยู่ระหว่างการประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่าย เพื่อให้ครอบคลุม ประเทศเป้าหมาย เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และ นิวซีแลนด์ รวมถึง อีกหลายประเทศในแถบเอเชีย พร้อมกับเร่งประชุมแผนการตลาดให้แก่ฝ่ายขายและการตลาด เพื่อให้ทุกฝ่ายเดินหน้าการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และมั่นใจว่าถึงสิ้นปีจะได้ยอดขายตามเป้าหมายแน่นอน เพราะที่ผ่านมา สมาชิกใหม่ จะตัดสินใจซื้อในช่วงปลายปีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายรพี กล่าวว่า การเพิ่มตัวแทนจำหน่าย ไม่ได้ฝ่าฝืนมติของบอร์ด ททท. ที่ท้วงติงว่า ควรลดตัวแทนจำหน่าย เพื่อลดต้นทุน แล้วหันมาจัดจำหน่ายเอง เพราะเห็นว่าการตั้งตัวแทนจำหน่ายยังมีความจำเป็น เป็นการขยายฐานผู้ขาย ในตลาดเป้าหมายและยังสั่งการให้ฝ่ายขายลงพื้นที่และทำงานเชิงรุกมากขึ้น ปัจจุบันสมาชิกของทีพีซีมีทั้งหมดรวม 2,528 ราย ส่วนค่าคอมมิชชั่นของตัวแทนจำหน่าย ปัจจุบันปรับลดจาก 25% เหลือ 15% และจะไม่ลดไปกว่านี้แล้วทั้งนี้มีรายงานระบุว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ดูแลการทำงานของ ทีพีซีอย่างใกล้ชิดให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมให้ชี้แจงถึงความจำเป็นในการที่ ททท.ได้ลงทุนในบริษัทนี้ ตลอดจนความคุ้มค่าที่จะดำเนินการต่อไป