แอคทีฟติงทีพีซีคิดให้มากก่อนโหมบุกตลาดจีน ระบุเศรษฐีจีนมองไทยเป็นเดสติเนชั่นโลว์คอสต์ ถ้ารวยจริงต้องไปยุโรป ยอมรับปีนี้ทำตลาดเหนื่อย หดยอดจำหน่ายเหลือ 150 ใบ
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ผู้ให้บริการบัตร ไทยแลนด์อีลิท เปิดเผยว่า วันนี้ได้เตรียมนำเสนอแผนการทำตลาดแบบเร่งด่วนต่อที่ประชุมบอร์ด ททท. เพื่อกระตุ้นยอดขายในปีนี้ ให้ได้ตามเป้าหมายใหม่ที่วางไว้ที่ 400 ใบ โดยใช้กลยุทธ์เชิงรุกเจาะกลุ่มตลาดระยะใกล้ย่านเอเชียและตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเศรษบกิจเติบโตสูง มีเศรฐีใหม่และนักธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นมากกระจายอยู่เกือบทุกมณฑล ดังนั้น สำหรับประเทศนี้ จะต้องเพิ่มตัวแทนจำหน่าย เช่น ตัวแทนจำหน่าย 1 ราย อาจดูครอบคลุม 1-2 เมือง เพราะในแต่ละเมืองแต่ละภาค วัฒนธรรมก็แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องเจาะเป็นรายมณฑลที่น่าสนใจ นอกจากนั้น ในแต่ละประเทศที่อีลิทจะบุกตลาดก็จะมีแคมเปญแตกต่างกันออกไปด้วย
ทางด้านนางสุนทรี ดิษาภิรมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอคทีฟ(อีลิท) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายบัตรไทยแลนด์อีลิท ดูแลตลาดจีน กล่าวว่า ต้องการให้ ทีพีซี ศึกษาตลาดให้แน่ชัดว่านี้ ก่อนที่จะตัดสินใจโหมบุกตลาดอย่างหนักในประเทศจีน เพราะชาวจีนยังมองประเทศไทยว่าเป็นเดสติเนชั่นระยะใกล้ สำหรับการท่องเที่ยวแบบประหยัด แต่นักธุรกิจ และเศรษฐีของชาวจีน นิยมเดินทางไปเที่ยวยุโรป เพื่อความโก้หรูในสังคม ดังนั้นการทำตลาดในประเทศจีนจึงค่อนข้างมีปัญหา เพราะคนรวยที่ยึดติดกับภาพลักษณ์
สำหรับการทำงานของบริษัท ยอมรับว่าปีนี้เหน็ดเหนื่อยกับการจำหน่ายบัตรสมาชิกอีลิทการ์ดมาก เพราะนอกจากราคาที่ปรับขึ้นแล้ว ยังมีปัญหาทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้นักลงทุนที่สนใจ ขอดูให้เหตุการณ์นิ่งก่อนจึงตัดสินใจซื้อ ทำให้ปีนี้บริษัทต้องปรับลดยอดจำหน่ายจาก 300 ใบ เหลือเพียง 150 ใบ จากปีก่อนที่จำหน่ายได้มากถึง 400 ใบ เพราะธุรกิจนี้ ต้องอาศัยความเชื่อมั่นสูงสุด
อย่างไรก็ตาม การออกแคมเปญ บัตรครอบครัวใบละ 1 ล้านบาท และ บัตรคู่รัก นั้น ถือเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระยะสั้น ที่ต้องการให้ ทีพีซี มีรายได้เข้ามาจุนเจือองค์กรให้อยู่รอด เพราะการขึ้นราคาบัตรเป็น 1.5 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งนี้ ส่งผลให้ราคาขายบัตรในต่างประเทศ เมื่อคิดเป็นเงินดอลล่าห์จะปรับขึ้นเท่าตัว คือจากราคา 2.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ เพิ่มเป็น 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ สิทธิประโยชน์ก็ปรับลด ทำให้เกิดภาวะสูญญากาศได้ เห็นได้จากลูกค้าของแอคทีฟ 70% มาจากการบอกต่อของสมาชิกรายเก่า จึงเกิดการเปรียบเทียบ
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ผู้ให้บริการบัตร ไทยแลนด์อีลิท เปิดเผยว่า วันนี้ได้เตรียมนำเสนอแผนการทำตลาดแบบเร่งด่วนต่อที่ประชุมบอร์ด ททท. เพื่อกระตุ้นยอดขายในปีนี้ ให้ได้ตามเป้าหมายใหม่ที่วางไว้ที่ 400 ใบ โดยใช้กลยุทธ์เชิงรุกเจาะกลุ่มตลาดระยะใกล้ย่านเอเชียและตะวันออกกลาง โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเศรษบกิจเติบโตสูง มีเศรฐีใหม่และนักธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นมากกระจายอยู่เกือบทุกมณฑล ดังนั้น สำหรับประเทศนี้ จะต้องเพิ่มตัวแทนจำหน่าย เช่น ตัวแทนจำหน่าย 1 ราย อาจดูครอบคลุม 1-2 เมือง เพราะในแต่ละเมืองแต่ละภาค วัฒนธรรมก็แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องเจาะเป็นรายมณฑลที่น่าสนใจ นอกจากนั้น ในแต่ละประเทศที่อีลิทจะบุกตลาดก็จะมีแคมเปญแตกต่างกันออกไปด้วย
ทางด้านนางสุนทรี ดิษาภิรมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอคทีฟ(อีลิท) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายบัตรไทยแลนด์อีลิท ดูแลตลาดจีน กล่าวว่า ต้องการให้ ทีพีซี ศึกษาตลาดให้แน่ชัดว่านี้ ก่อนที่จะตัดสินใจโหมบุกตลาดอย่างหนักในประเทศจีน เพราะชาวจีนยังมองประเทศไทยว่าเป็นเดสติเนชั่นระยะใกล้ สำหรับการท่องเที่ยวแบบประหยัด แต่นักธุรกิจ และเศรษฐีของชาวจีน นิยมเดินทางไปเที่ยวยุโรป เพื่อความโก้หรูในสังคม ดังนั้นการทำตลาดในประเทศจีนจึงค่อนข้างมีปัญหา เพราะคนรวยที่ยึดติดกับภาพลักษณ์
สำหรับการทำงานของบริษัท ยอมรับว่าปีนี้เหน็ดเหนื่อยกับการจำหน่ายบัตรสมาชิกอีลิทการ์ดมาก เพราะนอกจากราคาที่ปรับขึ้นแล้ว ยังมีปัญหาทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้นักลงทุนที่สนใจ ขอดูให้เหตุการณ์นิ่งก่อนจึงตัดสินใจซื้อ ทำให้ปีนี้บริษัทต้องปรับลดยอดจำหน่ายจาก 300 ใบ เหลือเพียง 150 ใบ จากปีก่อนที่จำหน่ายได้มากถึง 400 ใบ เพราะธุรกิจนี้ ต้องอาศัยความเชื่อมั่นสูงสุด
อย่างไรก็ตาม การออกแคมเปญ บัตรครอบครัวใบละ 1 ล้านบาท และ บัตรคู่รัก นั้น ถือเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระยะสั้น ที่ต้องการให้ ทีพีซี มีรายได้เข้ามาจุนเจือองค์กรให้อยู่รอด เพราะการขึ้นราคาบัตรเป็น 1.5 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งนี้ ส่งผลให้ราคาขายบัตรในต่างประเทศ เมื่อคิดเป็นเงินดอลล่าห์จะปรับขึ้นเท่าตัว คือจากราคา 2.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ เพิ่มเป็น 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ สิทธิประโยชน์ก็ปรับลด ทำให้เกิดภาวะสูญญากาศได้ เห็นได้จากลูกค้าของแอคทีฟ 70% มาจากการบอกต่อของสมาชิกรายเก่า จึงเกิดการเปรียบเทียบ
