ผู้บริหารอีลิทการ์ด ปฏิเสธรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เข้าตรวจเยี่ยมองค์กร อ้างติดภารกิจตรวจงานที่เกาหลี “วีระศักดิ์” ไม่ท้อ ส่งทีมงานนัดหมายใหม่ หวังรับฟังปัญหาและร่วมแชร์ความคิด เร่งลบภาพเน่าซ้ำซาก จากข่าวกระฉ่อนเมืองขายบัตรไม่ได้แต่เปิดโรงแรมหรูประชุมบอร์ด ด้าน “สรจักร” เหนื่อย ครึ่งปีทีพีซีงานไม่คืบ ชาติสูญงบประมาณ
รายงานข่าวจากวงการท่องเที่ยวฯ แจ้งว่า วานนี้ (9 ก.ค.) ได้มีการยกเลิกวาระงานของ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยม บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการ บัตรไทยแลนด์ อีลิท โดยทาง ทีพีซี ให้เหตุผลว่า คณะผู้บริหารของทีพีซี ได้เดินทางไปประเทศเกาหลี เพื่อหารือกับตัวแทนจำหน่าย โดยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกำหนดการได้ เนื่องจากได้จองตั๋วเครื่องบินและที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว
“วีระศักดิ์” หยิกทีพีซีใช้เงินฟุ่มเฟือย
ผู้สื่อข่าวรายงานได้สอบถามไปยัง นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ความว่า ทางทีมงานได้แจ้งไปยัง ทีพีซี เพื่อขอเข้าพบและหารือกับคณะผู้บริหารของทีพีซีประมาณสองสัปดาห์ก่อน แต่มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ว่า คณะผู้บริหารไม่สะดวกที่จะให้การต้อนรับ เพราะติดภารกิจไปต่างประเทศ ดังนั้นทีมงานจะประสานไปยังทีพีซีอีกครั้ง เพื่อขอนัดพบปะพูดคุยกับทีมผู้บริหารของทีพีซี
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมบริษัท ทีพีซี เพื่อต้องการรับฟังว่า บริษัทมีปัญหาและอุปสรรคในการทำงานอย่างไร และต้องการให้ตนช่วยเหลือแบบใด อาจมีข้อแนะนำการทำงานให้กลับไปพิจารณาว่า สามารถมีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร เพราะทีพีซี เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ ททท.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวเป็นผู้ถือหุ้น 100% ดังนั้น หากทีพีซีมีข้อติดขัดที่จำทำให้การทำงานไม่ราบรื่น ก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ นอกจากนั้น จะถือโอกาสเยี่ยมชมสถานที่ทำงานว่าเป็นอย่างไรแออัดหรือไม่ ถึงกับต้องไปนัดประชุมบอร์ดกันที่โรงแรมเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ซึ่งเท่าที่ดูจากโลเกชั่นที่ตั้งบริษัทนับว่าอยู่ใจกลางย่านธุรกิจดีแล้ว
แนะ 3 แนวทางหารือกู้ชีพองค์กร
โดยเบื้องต้นตรียม 3 แนวทางหลัก ไปหารือกับทีพีซี ได้แก่ 1.การเพิ่มรายได้จากการบริการในรูปแบบต่างๆ ที่มีความเป็นอีลิท สมชื่อของบัตร โดยเฉพาะกับผู้ถือบัตรทีมีศักยภาพด้านการลงทุน รวมถึงความเป็นไปได้แค่ไหน ที่จะให้คนไทย กลุ่มที่เป็นนักธุรกิจนักลงทุน ได้มีโอกาสถือบัตรนี้ด้วย เพื่อสิทธิพิเศษของการได้ร่วมหารือกับนักลงทุนต่างชาติ ที่เป็นสมาชิกบัตรอีลิท
2.การเพิ่มช่องทางจำหน่าย เช่น ลูกค้าสามารถซื้อสมาชิกได้โดยตรงกับทางบริษัท การซื้อผ่านเว็บไซต์ และผ่านสถานทูตไทยในต่างประเทศ และแต่ความสะดวก รูปแบบนี้จะคล้ายธุรกิจขายประกัน ซึ่งผู้ซื้อมีทางเลือกที่จะขอรับบริการจากใคร และ 3.ต้องการให้มีการบริการที่เป็นอิลิทจริงๆ สมชื่อของบัตร เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดสร้างความประทับใจ ซึ่งผลทางอ้อมที่จะได้ คือ จะมีผู้สนใจซื้อบัตรสมาชิกมากขึ้น
“ผมไม่อยู่ในฐานะจะไปสั่งการอีลิทได้ แต่อยากเข้าไปฟังปัญหาและเสนอแนะความคิดบ้าง เพราะไม่ต้องการให้ทีพีซีมุ่งแต่หารายได้จากการขายบัตร แต่ต้องการให้มีบริการที่ประทับใจระดับอิลิทจริงๆ เพราะเชื่อว่าสมาชิกอีลิทการ์ดหลายร้อยคน จากยอดสมาชิกกว่าสองพันคนขณะนี้ เป็นผู้มีศักยภาพด้านการลงทุน นอกจากนั้นการรับฟังปัญหาก็เพื่อหาทางช่วยเหลือเพราะเข้าใจดีว่า จุดประสงค์แรกเริ่มของอีลิทการ์ด คือ ขายบัตร เพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ แต่ก็ต้องกลับมาดูมติ ครม.กันอีกว่า ขอบข่ายการทำงานของบัตรอีลิทนี้ จะครอบคลุมอะไรบ้างแค่ไหน เพื่อปรับปรุงการทำงานให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้”
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า การตรวจเยี่ยมทีพีซีจะไปกันเป็นทีม ได้แก่ ประธานบอร์ดททท.และ ประธานคณะติดตามประเมินผล (คตป.) ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อดูว่าทีพีซีได้นำข้อแนะนำที่บอร์ด ททท.และ คตป.เสนอไปสู่การปฎิบัติได้มากน้อยเพียงใด
อัดทีพีซีอืดผู้บริหารทำงานไม่เข้าตา
นายสรจักร เกษมสุวรรณ ประธานคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งได้ 3 เดือนเศษ ในความเห็นส่วนตัวมองว่า คณะผู้บริหารของทีพีซีทำงานล่าช้ามาก ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ไตรมาสที่สามของปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถลงมือทำงานได้ตามแผนงานที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งหน้าที่ของบอร์ด คงจะต้องเข้าไปตรวจสอบใกล้ชิดว่าติดปัญหาอะไร และเป็นการประเมินผลการทำงานของทีมผู้บริหารด้วย
“ทีพีซีเป็นรัฐวิสาหกิจที่ทำงานแบบเอกชน ดังนั้น จะล่าช้าเหมือนระบบข้าราชการไม่ได้ เพราะจะเสียโอกาสทางการแข่งขัน เท่าที่ผลรู้จัก คุณรพี ซึ่งเป็นผู้จัดการใหญ่ของทีพีซีนั้น เขาเป็นคนตั้งใจทำงาน แต่ก็ไม่เข้าใจว่า ตั้งแต่ผมสั่งงานไปหลายเรื่องแต่ทำไมงานไม่เดินเสียที หากเป็นเช่นนี้ ประเทศชาติจะสูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์”
รายงานข่าวจากวงการท่องเที่ยวฯ แจ้งว่า วานนี้ (9 ก.ค.) ได้มีการยกเลิกวาระงานของ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยม บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการ บัตรไทยแลนด์ อีลิท โดยทาง ทีพีซี ให้เหตุผลว่า คณะผู้บริหารของทีพีซี ได้เดินทางไปประเทศเกาหลี เพื่อหารือกับตัวแทนจำหน่าย โดยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกำหนดการได้ เนื่องจากได้จองตั๋วเครื่องบินและที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว
“วีระศักดิ์” หยิกทีพีซีใช้เงินฟุ่มเฟือย
ผู้สื่อข่าวรายงานได้สอบถามไปยัง นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ความว่า ทางทีมงานได้แจ้งไปยัง ทีพีซี เพื่อขอเข้าพบและหารือกับคณะผู้บริหารของทีพีซีประมาณสองสัปดาห์ก่อน แต่มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ว่า คณะผู้บริหารไม่สะดวกที่จะให้การต้อนรับ เพราะติดภารกิจไปต่างประเทศ ดังนั้นทีมงานจะประสานไปยังทีพีซีอีกครั้ง เพื่อขอนัดพบปะพูดคุยกับทีมผู้บริหารของทีพีซี
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมบริษัท ทีพีซี เพื่อต้องการรับฟังว่า บริษัทมีปัญหาและอุปสรรคในการทำงานอย่างไร และต้องการให้ตนช่วยเหลือแบบใด อาจมีข้อแนะนำการทำงานให้กลับไปพิจารณาว่า สามารถมีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร เพราะทีพีซี เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ ททท.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวเป็นผู้ถือหุ้น 100% ดังนั้น หากทีพีซีมีข้อติดขัดที่จำทำให้การทำงานไม่ราบรื่น ก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ นอกจากนั้น จะถือโอกาสเยี่ยมชมสถานที่ทำงานว่าเป็นอย่างไรแออัดหรือไม่ ถึงกับต้องไปนัดประชุมบอร์ดกันที่โรงแรมเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ซึ่งเท่าที่ดูจากโลเกชั่นที่ตั้งบริษัทนับว่าอยู่ใจกลางย่านธุรกิจดีแล้ว
แนะ 3 แนวทางหารือกู้ชีพองค์กร
โดยเบื้องต้นตรียม 3 แนวทางหลัก ไปหารือกับทีพีซี ได้แก่ 1.การเพิ่มรายได้จากการบริการในรูปแบบต่างๆ ที่มีความเป็นอีลิท สมชื่อของบัตร โดยเฉพาะกับผู้ถือบัตรทีมีศักยภาพด้านการลงทุน รวมถึงความเป็นไปได้แค่ไหน ที่จะให้คนไทย กลุ่มที่เป็นนักธุรกิจนักลงทุน ได้มีโอกาสถือบัตรนี้ด้วย เพื่อสิทธิพิเศษของการได้ร่วมหารือกับนักลงทุนต่างชาติ ที่เป็นสมาชิกบัตรอีลิท
2.การเพิ่มช่องทางจำหน่าย เช่น ลูกค้าสามารถซื้อสมาชิกได้โดยตรงกับทางบริษัท การซื้อผ่านเว็บไซต์ และผ่านสถานทูตไทยในต่างประเทศ และแต่ความสะดวก รูปแบบนี้จะคล้ายธุรกิจขายประกัน ซึ่งผู้ซื้อมีทางเลือกที่จะขอรับบริการจากใคร และ 3.ต้องการให้มีการบริการที่เป็นอิลิทจริงๆ สมชื่อของบัตร เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดสร้างความประทับใจ ซึ่งผลทางอ้อมที่จะได้ คือ จะมีผู้สนใจซื้อบัตรสมาชิกมากขึ้น
“ผมไม่อยู่ในฐานะจะไปสั่งการอีลิทได้ แต่อยากเข้าไปฟังปัญหาและเสนอแนะความคิดบ้าง เพราะไม่ต้องการให้ทีพีซีมุ่งแต่หารายได้จากการขายบัตร แต่ต้องการให้มีบริการที่ประทับใจระดับอิลิทจริงๆ เพราะเชื่อว่าสมาชิกอีลิทการ์ดหลายร้อยคน จากยอดสมาชิกกว่าสองพันคนขณะนี้ เป็นผู้มีศักยภาพด้านการลงทุน นอกจากนั้นการรับฟังปัญหาก็เพื่อหาทางช่วยเหลือเพราะเข้าใจดีว่า จุดประสงค์แรกเริ่มของอีลิทการ์ด คือ ขายบัตร เพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ แต่ก็ต้องกลับมาดูมติ ครม.กันอีกว่า ขอบข่ายการทำงานของบัตรอีลิทนี้ จะครอบคลุมอะไรบ้างแค่ไหน เพื่อปรับปรุงการทำงานให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้”
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า การตรวจเยี่ยมทีพีซีจะไปกันเป็นทีม ได้แก่ ประธานบอร์ดททท.และ ประธานคณะติดตามประเมินผล (คตป.) ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อดูว่าทีพีซีได้นำข้อแนะนำที่บอร์ด ททท.และ คตป.เสนอไปสู่การปฎิบัติได้มากน้อยเพียงใด
อัดทีพีซีอืดผู้บริหารทำงานไม่เข้าตา
นายสรจักร เกษมสุวรรณ ประธานคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งได้ 3 เดือนเศษ ในความเห็นส่วนตัวมองว่า คณะผู้บริหารของทีพีซีทำงานล่าช้ามาก ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ไตรมาสที่สามของปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถลงมือทำงานได้ตามแผนงานที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งหน้าที่ของบอร์ด คงจะต้องเข้าไปตรวจสอบใกล้ชิดว่าติดปัญหาอะไร และเป็นการประเมินผลการทำงานของทีมผู้บริหารด้วย
“ทีพีซีเป็นรัฐวิสาหกิจที่ทำงานแบบเอกชน ดังนั้น จะล่าช้าเหมือนระบบข้าราชการไม่ได้ เพราะจะเสียโอกาสทางการแข่งขัน เท่าที่ผลรู้จัก คุณรพี ซึ่งเป็นผู้จัดการใหญ่ของทีพีซีนั้น เขาเป็นคนตั้งใจทำงาน แต่ก็ไม่เข้าใจว่า ตั้งแต่ผมสั่งงานไปหลายเรื่องแต่ทำไมงานไม่เดินเสียที หากเป็นเช่นนี้ ประเทศชาติจะสูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์”
