ภูมิภาค - “ม็อบไข่แม้ว” เหิมเกริมหนักขึ้นทุกวัน ที่เชียงรายใสเสื้อดำขึ้นโรงพักร้องกองปราบดำเนินคดี ป.ป.ช.อ้างที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ พร้อมเรียกร้องรัฐบาลงดจ่ายเงินเดือนทั้งคณะ แต่กลับรับเต็มปากเต็มคำเปิดเกมกดดัน ป.ป.ช.หวังช่วย “ทักษิณ” หลังมีอีกหลายคดีจ่อคิวอยู่ ขณะที่คดีม็อบถ่อยเสื้อแดงถล่มบ้านแกนนำพันธมิตรฯเชียงราย แจ้งความแล้วร่วมสัปดาห์ ตำรวจยังดูซีดีไม่เสร็จ ขณะที่ “ทาสระบอบแม้วกาฬสินธุ์” นำชาวบ้านกว่า 300 คนยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯพร้อมทั้งลงชื่อถอดถอน ป.ป.ช.และ กกต.ขู่เคลื่อนพลขับไล่ถึงกรุงเทพฯ “พธม.สระแก้ว” เตรียมจัดกิจกรรมเวทีติดอาวุธทางปัญญาตามยุทธศาสตร์ดาวกระจาย 8 ส.ค.นี้ โดย “หรั่ง ร็อคเคสตร้า” ร่วมสร้างสีสัน
วานนี้ (4 ส.ค.) น.ส.จีระนันท์ จันทะวงศ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาฯ ประชาธิปไตยจังหวัดเชียงราย ต่อต้านเผด็จการทุกชาติไป ที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ที่ก่อนหน้านี้เคยสวมเสื้อแดงออกเคลื่อนไหว พร้อมพวกราว 20 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวการเมืองสนับสนุนรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้สวมเสื้อดำเดินทางไปที่ สภ.เมืองเชียงราย พร้อมนำรถแห่ติดป้ายข้อความว่า “หยุด ป.ป.ช.เถื่อน ทาสรับใช้เผด็จการทรราช จ้องล้มล้างประชาธิปไตย” พร้อมนำภาพนายกล้านรงค์ จันทิก ป.ป.ช.เขียนว่า ป.ป.ช.เถื่อน ทาสรับใช้เผด็จการและนำจานดาวเทียมมาโชว์ เขียนว่า Asshole TV
โดย น.ส.จีระนันท์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.สมชาย มีอนันต์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย ที่มารับเรื่องหน้า สภ.เมืองเชียงราย โดยหนังสือระบุขอให้พนักงานสอบสวน กองปราบปรามสอบสวนดำเนินคดีกับนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.และผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ กรณีการไม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯและขอให้รัฐบาลงดจ่ายเงินเดือน ป.ป.ช.ทั้งคณะเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
น.ส.จีระนันท์ กล่าวยอมรับว่า อยากให้กองปราบปรามเร่งดำเนินคดีกับ ป.ป.ช.และพวก เพราะขณะนี้ยังมีคดีอีกหลายคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวที่กำลังรอการพิจารณา ซึ่งตนอยากให้ได้รับความเป็นธรรม จึงขอให้ ป.ป.ช.พิจารณาคดีด้วยความเป็นธรรม เพราะหากไม่เป็นธรรมจะมีการลุกฮือของประชาชนได้ และขอประณาม ASTV ที่กดดันรัฐบาล ซึ่งกลุ่ม 24 มิถุนาฯจะมีการนัดเคลื่อนไหวที่ จ.เชียงราย อีกครั้งในวันที่ 9 ส.ค.นี้
ด้าน พ.ต.ท.สมชาย มีอนันต์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย ได้รับเรื่องและกล่าวว่า จะมีการหารือผู้บังคับบัญชาและส่วนที่เกี่ยวข้องว่า เรื่องที่ได้รับมาอยู่ในอำนาจของตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ที่จะดำเนินการประการใด ซึ่งขอศึกษาดูก่อน
ทางด้าน พ.ต.อ.ทิวธวัช นครศรี ผกก.สภ.แม่สาย กล่าวถึงกรณีที่ นายผ้าง พลชัย อายุ 63 ปีอยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 2 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แกนนำพันธมิตรกู้ชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไคร้ และอดีตประธาน กกต.เขต 3 เชียงรายได้นำความเข้าแจ้งต่อ พ.ต.ท.องอาจ เฟื่องฟู สารวัตรเวร สภ.แม่สาย เมื่อวันที่ 29 ก.ค.51 เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มม็อบต่อต้านพันธมิตรฯซึ่งได้บุกเข้าปิดล้อมบ้านพักซึ่งเปิดเป็นสถานีวิทยุชุมชน 107.75 MHz โดยกลุ่มม็อบดังกล่าวได้ตัดไฟ
นอกจากนั้นยังใช้ก้อนหินและประทัดยักษ์ขว้างปาเข้าไปในบ้าน พร้อมเปิดปราศรัยกล่าวโจมตีจนได้รับการเสื่อมเสียชื่อเสียงว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังดูวีซีดีและภาพถ่ายที่ได้รับมา ซึ่งภาพไม่ค่อยชัดเจน จึงจะเรียกพยานแวดล้อมมาสอบสวนดูก่อนว่าจะมีการดำเนินคดีกับใครได้บ้าง
อนึ่ง สำหรับการเคลื่อนไหวต่อต้าน ป.ป.ช.นั้นนายสมัคร เป็นผู้เริ่มเปิดประเด็นในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” วันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.หลังจากที่ ป.ป.ช.รับคำร้องจากพันธมิตรฯในการพิจารณาเอา ครม.ทั้งคณะ กรณีเห็นชอบการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาให้มีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังได้รับช่วงการดำเนินคดีทุจริตคอร์รัปชันของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินการต่อ โดยนายสมัครอ้างว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ทันที หลังจาก คปค.ลงนามแต่งตั้ง โดยไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ถือว่าผิดกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งต่อมาทาง ป.ป.ช.ได้ชี้แจงว่า สำนักเลขาธิการ ครม.ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เคยทำหนังสือขอนำชื่อกรรมการ ป.ป.ช.ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว แต่ราชเลขาธิการได้แจ้งกลับมาว่า ไม่จำเป็นต้องผ่านการโปรดเกล้าฯ เพราะคำสั่งแต่งตั้งของ คปค.ที่มีสถานภาพเป็นรัฏฐาธิปัตย์หลังการยึดอำนาจถือว่ามีผลโดยสมบูรณ์แล้ว
เหิมปลุกชาวกาฬสินธุ์ร่วมต้าน
ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์ เวลา 14.30 น.วานนี้ ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีกลุ่มประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์กว่า 300 คน นำโดยนายสำราญ ศรีหาพล และนายประเสริฐ ชินศรี เดินทางมาชุมนุมถือป้ายขับไล่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมทั้งเข้ายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีนายพัณณ์เดชน์ ศรีจันทร์ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นผู้รับหนังสือและมี พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
ทั้งนี้ การชุมนุมได้มีการลงชื่อและจัดเวทีปราศรัยโจมตี ป.ป.ช.และ กกต.โดยระบุว่า ป.ป.ช.มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ส่วน กกต.นั้นเป็นการแต่งตั้งโดยคณะปฏิวัติเพื่อทำหน้าที่จัดการกับพรรคพลังประชาชน
นายสำราญ กล่าวว่า เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์เดินทางมายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขับไล่และถอดถอน ป.ป.ช.และ กกต.เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2550 บัญญัติไว้ว่าองค์กรอิสระต้องมาจากกรรมการสรรหา และต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงจะสามารถทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ได้ แต่ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันมีที่มาไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมายและที่สำคัญไม่ได้เข้าเฝ้าและไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ส่วน กกต.ชุดปัจจุบันนั้นได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาทำหน้าที่โดยคณะ คปค.เพื่อที่จะจัดการกับพรรคพลังประชาชน ดังนั้น ในนามตัวแทนประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์จึงไม่ยอมรับองค์กรอิสระทั้ง ป.ป.ช.และกกต.และขอเรียกร้องให้ลาออกไปเพื่อเปิดทางให้ผู้อื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนตามที่กฎหมายกำหนดไว้
นายสำราญ กล่าวอีกว่า การชุมนุมครั้งยังได้มีการลงชื่อเพื่อที่จะถอดถอน ป.ป.ช.และ กกต.อีกด้วย และต่อไปจะมีการล่ารายชื่อให้มากที่สุด อย่างไรก็ตามหาก ป.ป.ช.และ กกต.ยังไม่ลาออกประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์จะมีการรวมตัวกันไม่ต่ำกว่า 2,000 คน เดินทางไปชุมนุมขับ ป.ป.ช.และ กกต.ที่กรุงเทพฯอย่างแน่นอน
ผบก.บุรีรัมย์ทำขึงขังสกัดม็อบถ่อย
ด้าน พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุม็อบต่อต้านพันธมิตรฯ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่าแนวกั้นเข้าไปทุบทำลายรื้อเวทีปราศรัยของกลุ่มพิทักษ์บุรีรัมย์ และเครือข่ายพันธมิตรฯบุรีรัมย์ จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 17 นายนั้น ขณะนี้กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ได้ทำการฝึกทบทวนตำรวจชุดควบคุมฝูงชนทั้ง 2 กองร้อย ทางด้านทักษะ และยุทธวิธี ไว้คอยควบคุมสถานการณ์หากมีการชุมนุมประท้วง และเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่
รวมทั้งหากประเมินสถานการณ์แล้วว่ากำลังไม่เพียงพอ ก็จะขอสนับสนุนชุดควบคุมฝูงชนจากจังหวัดทหารบกสุรินทร์ที่มีอยู่ 1 กองร้อย และขอสนับสนุนกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ที่มีความชำนาญ และมีประสบการณ์สูง ที่เคยผ่านงานควบคุมม็อบที่ก่อเหตุการณ์รุนแรงมาแล้วจำนวนมาก มาร่วมในการควบคุมและสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มม็อบเกิดการประจันหน้า หรือปะทะกันรุนแรงจนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บซ้ำรอยอีก หรือถึงขั้นเสียชีวิต
“นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ทุก สภ.คอยติดตามความเคลื่อนไหว ทั้งกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ และกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯที่อาจจะเข้ามาชุมนุมประท้วง รายงานสถานการณ์ให้ทราบ เพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ในการสนธิกำลัง ป้องกันเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องรัดกุม” พล.ต.ต.ประสิทธิ์ กล่าว
พล.ต.ต.ประสิทธิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มม็อบต่อต้านพันธมิตรฯที่ใช้กำลังและอาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่าแนวกั้นบุกเข้าไปรื้อทำลายเวทีปราศรัยของกลุ่มพิทักษ์เมืองบุรีรัมย์ และเครือข่ายพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ล่าสุดตนได้เรียก 6 ผู้ต้องหากลุ่มม็อบต่อต้านพันธมิตรฯจากที่ถูกจับกุมได้ 14 คนมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพื่อประกอบสำนวนการสืบสวนสอบสวน สรุปส่งให้อัยการจังหวัดพิจารณาสั่งฟ้องศาล ส่วนที่เหลืออีก 8 คน พนักงานสอบสวนก็จะทยอยเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมด 14 คนได้ให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวนและขอให้การในชั้นศาล แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานจนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ชุมนุมตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และทำให้เสียทรัพย์”
“คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ดังนั้น จึงต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานมัดตัวผู้กระทำผิด ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนก็ได้เร่งตรวจสอบภาพถ่าย ทั้งภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ เพื่อออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุครั้งนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย คาดว่า จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จในเร็วๆ นี้” พล.ต.ต.ประสิทธิ์ กล่าว
พธม.สระแก้วเปิดเวที8ส.ค.นี้
ทางด้าน นายอัมรินทร์ ยี่เฮง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสระแก้ว เผยว่า หลังจากที่เคยจัดกิจกรรมเปิดเวทีอารยะขัดขืน “ไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ” ไปเมื่อไม่นานมานี้มีกระแสประชาชนเรียกร้องให้จัดกิจกรรมดังกล่าวอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะประชาชนในพื้นที่เขตจังหวัดสระแก้วและใกล้เคียงมีความสนใจในเรื่องการเมืองภาคประชาชนเพิ่มมากขึ้น
ทางองค์กรประชาธิปไตยภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายพันธมิตรฯ จึงมีแนวคิดจัดกิจกรรมเปิดเวทีติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชนตามยุทธศาสตร์ดาวกระจายของพันธมิตรฯส่วนกลาง โดยในครั้งนี้กำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 8 ส.ค.51 ที่บริเวณตลาดเมืองแก้ว ภายในเขต อ.เมืองสระแก้ว
ทั้งนี้ ในกิจกรรมที่จะมีขึ้น ได้เชิญวิทยากรมาร่วมปราศรัยให้ความรู้แก่ประชาชนที่เข้าร่วม ประกอบด้วย นายไทกร พลสุวรรณ นายวัชระ เพชรทอง นายอธิวัตร บุญชาติ และศิลปินร็อกกู้ชาติ “หรั่ง ร็อคเคสตร้า” มาร่วมกิจกรรม ซึ่งคาดว่าคงได้รับความสนใจเฉกเช่นการจัดเวทีอารยะขัดขืนที่เคยจัดเมื่อประมาณกลางเดือนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน