00 นาทีนี้ ถ้าถามชาวบ้านที่ติดตามการเมืองแบบรู้ทันว่าคาดหวังกับการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หรือไม่ รับรองว่าร้อยทั้งร้อย “ส่ายหน้าเบ้” แทบทั้งนั้น เพราะไม่ว่าจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนอีกนับร้อยรอบ ก็ยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง หรืออย่างมากก็แค่สลับเก้าอี้ เพื่อหวังตบตาสังคม โยกคนนั้นออกไปไปนั่งตรงอื่น แล้วให้คนนี้ได้เข้ามาตอบแทน มารับใช้ “นายใหญ่-นายหญิง” กันบ้าง วนเวียนกันอยู่แค่นี้ แค่นี้จริงๆ
00 พิจารณาจากข่าวล่ามาเร็ว ยังมีชื่อ“ไชยา” ที่เคยตกเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากปัญหาขาดคุณสมบัติเรื่อง เมียถือหุ้นเกินกว่ากฎหมายกำหนด กลับมาติดโผอีกรอบ แต่คราวนี้ย้ายก้นมานั่งเก้าอี้เจ้ากระทรวงพาณิชย์ จากหมอ มาเป็นพ่อค้าเต็มตัว ที่สำคัญก็คือยังเป็นกระทรวง “เกรดเอ” เหมือนเดิม ถ้าเป็นแบบนี้จริง ถือว่าตบหน้าสังคมอีกฉาด ฉาด ฉาด ใหญ่
00 นี่ไม่ต้องพูดถึง 3 รัฐมนตรีที่ถูกศาลรับฟ้องกรณีร่วมกระทำความผิด “หวยบนดิน” ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทยัง “ด้าน” ทู่ซี้นั่งเก้าอี้ต่อไป โดยอ้างกฎหมายแบบศรีธนญชัย แต่ไม่เคยรู้ว่า “สปิริต” สะกดอย่างไร ทั้งที่เจตนารมณ์ของกฎมายเขาต้องการไม่ให้คนระดับรัฐมนตรีเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยาน จึงต้องการให้หยุดทำหน้าที่เอาไว้ก่อน และที่สำคัญ “หมอเลี้ยบ” ที่เป็นรัฐมนตรีคลัง ปัจจุบันยังคุมกองสลากฯอีกด้วย
00 ตามปกติทั่วไปนักการเมืองที่ “เสียสละ” เข้ามารับใช้ประเทศชาติ เมื่อมีปัญหาในข้อกฎหมายแบบนี้ขึ้นมาจะต้องชิงลาออกทันที เพื่อแสดงความรับผิดชอบ พร้อมทั้งขอโทษประชาชนด้วย แต่นี่ตรงกันข้าม นอกจาก “ไม่เห็นหัว” แล้วยังหาช่องกฎหมาย อ้างโน่นอ้างนี่สารพัด เอาสีข้างข้าถู เพื่อให้ตัวเองนั่งเก้าอี้ต่อไป และอีกอย่างที่ไม่ออก เพราะยังทำภารกิจ “เพื่อนาย” ไม่เสร็จต่างหาก
00 แต่ที่น่าเจ็บปวดที่สุดเห็นจะเป็น “เป็ดเหลิม” ของเรานี่เอง ล่าสุดออกมายอมรับตั้งแต่ไก่โห่ว่า “ถูกถีบ” พ้นเก้าอี้ มท.1 แล้ว เชื่อเถอะสาเหตุก็ไม่มีอะไรมาก นั่นคือทำงานได้ไม่สมราคาคุย สำคัญไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง จัดการพันธมิตรฯ ก็ไม่ได้ ตรงข้ามนับวันยิ่งกล้าแข็ง ขณะที่ตัวเหลิมเองนอกจากไม่ช่วยให้รัฐบาล “หุ่นเชิด” ดูดีขึ้นแล้ว ยังเป็นตัวสะสมความเกลียดจากสังคม เป็นตัวถ่วงเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก
00 งานนี้ไม่ต้องบอกก็รู้เป็นรายการ “ใบสั่ง” ค่อนข้างแน่ให้ “หมัก” คัดชื่อออกออกจากบัญชี หลังจากตอบแทนบุญคุณหรือให้โอกาสกันมาแล้วถึง 6 เดือน เมื่อได้จังหวะก็ต้อง “ริบคืน” อย่าไปคิดอะไรมากเลย “เป็ดเหลิม” เอ๋ย เมื่อตัวเองไม่ได้ลงทุนสักบาทได้มาแค่นี้ถือว่ากำไรเกินคุ้มแล้ว
00 นี่ก็ถือว่า “สุดยอดเขี้ยว” อีกรายสำหรับ “สุวิทย์ คุณกิตติ” ที่รีบชิงแถลงลาออกพ้นรัฐบาลก่อน ก่อนที่จะถูกอัปเปหิให้พ้นไป รายนี้ก็ทำนองเดียวกัน เมื่อได้ “อะไรๆ หวานๆ” ไปเยอะแล้ว ก็สมควรแก่เวลา ไอ้ประเภทยึดอุดมการณ์รักชาติ-รักรัฐธรรมนูญอะไรนั่น ไม่อยากจะพูดให้เสียน้ำใจกัน แต่ทั้งสองเรื่องดังกล่าวมันเกิดขึ้นมานานนับเดือนแล้ว ทำไมถึงเพิ่งตื่น
00 นับถอยหลัง นับนิ้วแล้วก็จะพบว่า นับวัน มีแต่คดีที่ “แม้วกับเมีย” ถูกฟ้องในศาลเพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งศาลอาญา ไปจนกระทั่งศาลฎีกานักการเมือง ล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) ศาลฎีกาฯ ก็ได้รับฟ้องคดีปล่อยกู้ให้พม่า 4 พันล้านแล้ว และวันนี้ (31 ก.ค.) ก็เริ่มนับถอยหลังวันพิพากษาชี้ขาดคดีที่ “พจมาน” โกงภาษีหุ้นชินวัตรคอมพิวเตอร์กว่า 540 ล้านบาท ซึ่งไม่รู้ว่า เมื่อถึงเวลาจะมีบรรดารากหญ้าประเภทหาเช้ากินค่ำ อดมื้อกินมื้อเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางไปให้กำลังใจ “เศรษฐีแสนล้าน” ที่ศาลกันกี่คน แต่ดูจากบรรยากาศการรับมือเหตุวุ่นวายของศาลแล้วไม่อยากจะพูดล่วงหน้าว่า น่าจะ “ออกลบ” มากกว่าบวก ค่อนข้างแน่ !!
00 ปรากฎการณ์ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวล้วนเป็นการเมืองเก่าๆ ที่น่าขยะแขยง สมควรจะถูกฝังกลบไว้ใต้ฝ่าเท้าของพี่น้องประชาชนได้แล้ว พอกันทีกับวัฏจักรการเมืองน้ำเน่า เห็นแก่ตัว ไร้สาระ และถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่แล้วหรือยัง จะทนแบบนี้ต่อไปทำไม
00 พิจารณาจากข่าวล่ามาเร็ว ยังมีชื่อ“ไชยา” ที่เคยตกเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากปัญหาขาดคุณสมบัติเรื่อง เมียถือหุ้นเกินกว่ากฎหมายกำหนด กลับมาติดโผอีกรอบ แต่คราวนี้ย้ายก้นมานั่งเก้าอี้เจ้ากระทรวงพาณิชย์ จากหมอ มาเป็นพ่อค้าเต็มตัว ที่สำคัญก็คือยังเป็นกระทรวง “เกรดเอ” เหมือนเดิม ถ้าเป็นแบบนี้จริง ถือว่าตบหน้าสังคมอีกฉาด ฉาด ฉาด ใหญ่
00 นี่ไม่ต้องพูดถึง 3 รัฐมนตรีที่ถูกศาลรับฟ้องกรณีร่วมกระทำความผิด “หวยบนดิน” ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทยัง “ด้าน” ทู่ซี้นั่งเก้าอี้ต่อไป โดยอ้างกฎหมายแบบศรีธนญชัย แต่ไม่เคยรู้ว่า “สปิริต” สะกดอย่างไร ทั้งที่เจตนารมณ์ของกฎมายเขาต้องการไม่ให้คนระดับรัฐมนตรีเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยาน จึงต้องการให้หยุดทำหน้าที่เอาไว้ก่อน และที่สำคัญ “หมอเลี้ยบ” ที่เป็นรัฐมนตรีคลัง ปัจจุบันยังคุมกองสลากฯอีกด้วย
00 ตามปกติทั่วไปนักการเมืองที่ “เสียสละ” เข้ามารับใช้ประเทศชาติ เมื่อมีปัญหาในข้อกฎหมายแบบนี้ขึ้นมาจะต้องชิงลาออกทันที เพื่อแสดงความรับผิดชอบ พร้อมทั้งขอโทษประชาชนด้วย แต่นี่ตรงกันข้าม นอกจาก “ไม่เห็นหัว” แล้วยังหาช่องกฎหมาย อ้างโน่นอ้างนี่สารพัด เอาสีข้างข้าถู เพื่อให้ตัวเองนั่งเก้าอี้ต่อไป และอีกอย่างที่ไม่ออก เพราะยังทำภารกิจ “เพื่อนาย” ไม่เสร็จต่างหาก
00 แต่ที่น่าเจ็บปวดที่สุดเห็นจะเป็น “เป็ดเหลิม” ของเรานี่เอง ล่าสุดออกมายอมรับตั้งแต่ไก่โห่ว่า “ถูกถีบ” พ้นเก้าอี้ มท.1 แล้ว เชื่อเถอะสาเหตุก็ไม่มีอะไรมาก นั่นคือทำงานได้ไม่สมราคาคุย สำคัญไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง จัดการพันธมิตรฯ ก็ไม่ได้ ตรงข้ามนับวันยิ่งกล้าแข็ง ขณะที่ตัวเหลิมเองนอกจากไม่ช่วยให้รัฐบาล “หุ่นเชิด” ดูดีขึ้นแล้ว ยังเป็นตัวสะสมความเกลียดจากสังคม เป็นตัวถ่วงเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก
00 งานนี้ไม่ต้องบอกก็รู้เป็นรายการ “ใบสั่ง” ค่อนข้างแน่ให้ “หมัก” คัดชื่อออกออกจากบัญชี หลังจากตอบแทนบุญคุณหรือให้โอกาสกันมาแล้วถึง 6 เดือน เมื่อได้จังหวะก็ต้อง “ริบคืน” อย่าไปคิดอะไรมากเลย “เป็ดเหลิม” เอ๋ย เมื่อตัวเองไม่ได้ลงทุนสักบาทได้มาแค่นี้ถือว่ากำไรเกินคุ้มแล้ว
00 นี่ก็ถือว่า “สุดยอดเขี้ยว” อีกรายสำหรับ “สุวิทย์ คุณกิตติ” ที่รีบชิงแถลงลาออกพ้นรัฐบาลก่อน ก่อนที่จะถูกอัปเปหิให้พ้นไป รายนี้ก็ทำนองเดียวกัน เมื่อได้ “อะไรๆ หวานๆ” ไปเยอะแล้ว ก็สมควรแก่เวลา ไอ้ประเภทยึดอุดมการณ์รักชาติ-รักรัฐธรรมนูญอะไรนั่น ไม่อยากจะพูดให้เสียน้ำใจกัน แต่ทั้งสองเรื่องดังกล่าวมันเกิดขึ้นมานานนับเดือนแล้ว ทำไมถึงเพิ่งตื่น
00 นับถอยหลัง นับนิ้วแล้วก็จะพบว่า นับวัน มีแต่คดีที่ “แม้วกับเมีย” ถูกฟ้องในศาลเพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งศาลอาญา ไปจนกระทั่งศาลฎีกานักการเมือง ล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) ศาลฎีกาฯ ก็ได้รับฟ้องคดีปล่อยกู้ให้พม่า 4 พันล้านแล้ว และวันนี้ (31 ก.ค.) ก็เริ่มนับถอยหลังวันพิพากษาชี้ขาดคดีที่ “พจมาน” โกงภาษีหุ้นชินวัตรคอมพิวเตอร์กว่า 540 ล้านบาท ซึ่งไม่รู้ว่า เมื่อถึงเวลาจะมีบรรดารากหญ้าประเภทหาเช้ากินค่ำ อดมื้อกินมื้อเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางไปให้กำลังใจ “เศรษฐีแสนล้าน” ที่ศาลกันกี่คน แต่ดูจากบรรยากาศการรับมือเหตุวุ่นวายของศาลแล้วไม่อยากจะพูดล่วงหน้าว่า น่าจะ “ออกลบ” มากกว่าบวก ค่อนข้างแน่ !!
00 ปรากฎการณ์ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวล้วนเป็นการเมืองเก่าๆ ที่น่าขยะแขยง สมควรจะถูกฝังกลบไว้ใต้ฝ่าเท้าของพี่น้องประชาชนได้แล้ว พอกันทีกับวัฏจักรการเมืองน้ำเน่า เห็นแก่ตัว ไร้สาระ และถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่แล้วหรือยัง จะทนแบบนี้ต่อไปทำไม