00 ไม่รู้ว่าบ้านเมืองของเรายังต้องเจอชะตากรรมอันเลวร้ายแบบนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน นับตั้งแต่ “ระบอบทักษิณ” เข้ามาครอบงำการเมืองไทยเป็นต้นมา เพราะได้สร้างค่านิยมแปลกๆใหม่ๆ ผิดเพี้ยนไปจากวิถีไทยที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาช้านาน ปากบอกว่ายึดมั่นในประประชาธิปไตย แต่ไม่เคยรับฟังความเห็นคนอื่น หรือแม้แต่เสียงข้างน้อย ทำทุกอย่างเพื่อแสวงหาอำนาจ และความมั่งคั่งให้กับตัวเองและพวกพ้อง ทุกเวลานาที
00 ระบบระเบียบกฎหมาย ถ้าไม่เป็นคุณกับตัวเอง ก็แก้ไขหรือรื้อทิ้ง ขณะเดียวกันสร้างภาพลวง เพื่อตบตาสังคม บิดเบือนข้อมูล โฆษณาชวนเชื่อให้คนที่เข้าไม่ถึงข้อมูลต้องคล้อยตามสนับสนุนแบบหน้ามืดตามัว ดังนั้นเมื่อเป้าหมายเพื่ออำนาจ และความร่ำรวยก็ต้อง “ตื๊อ” หรือดันทุรังให้อยู่ในอำนาจวาสนาให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ซึ่งพฤติกรรมในลักษณะนี้เกิดขึ้นไม่เว้นแม้กระทั่ง “ลิ่วล้อ” ทุกระดับ เพราะการสูญเสียอำนาจ นอกจากทำให้สูญเสียโอกาสแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงต่อการติดคุกติดตะรางอีกด้วย
00 ดังนั้น กรณีของ 3 รัฐมนตรีรัฐบาล “หุ่นเชิด” ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ประทับรับฟ้องคดีทุจริต “หวยบนดิน” มูลค่าความเสียหายกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ก็อย่าหวังจะได้สปิริตจากคนพวกนี้ ในทางตรงข้าม จะต้องกอดเก้าอี้เอาไว้แน่น และให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
00 แม้ว่าในทางกฎหมายจะกำหนดเอาไว้ชัดเจนว่า เมื่อศาลฎีกาฯ รับฟ้องคดี รัฐมนตรีจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ขณะที่คนพวกนี้ก็ยังเล่นลิ้น อ้างกฎหมายสารพัด สารเพ บ้างก็อ้างแบบ “ศรีธนญชัย” อย่างหน้ามืดว่า ตนเองได้พ้นจากคณะรัฐมนตรีชุดเก่าไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือบอกว่า แค่ศาลประทับรับฟ้องเท่านั้น ไม่ใช่คำตัดสิน ยิ่งพูดก็ยิ่งเห็น “ธาตุแท้” ออกมาเรื่อย ๆ
00 ไม่คำนึงว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายที่กำหนดให้รัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ วัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีไปยุ่งเหยิงกับพยาน หรือใช้อิทธิพลไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และที่สำคัญในเวลานี้ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุมกองสลากฯอีกด้วย
00 ยังไม่รู้ว่าเจตนาเป็นเพราะอะไรกันแน่ โดยเฉพาะสำหรับ “หมอเลี้ยบ” ที่ยืนยันหนักแน่นแล้วว่า “ไม่สนใจ” จะยื้อจนถึงที่สุด แต่ขณะเดียวกันปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นก็คือ ในวันนี้ (29 ก.ค.) เขามีภารกิจสำคัญคือการเสนอรายชื่อ “บอร์ดแบงก์ชาติ” ชุดใหม่ รวมทั้งยังมีเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในฤดูโยกย้าย อีกล็อตใหญ่ตามมาติดๆ
00 แต่นาทีนี้ ถ้าพิจารณาในแง่มุมสำหรับนักการเมืองที่ “เสียสละ” เข้ามารับใช้ชาติบ้านเมือง เมื่อเกิดข้อสงสัยกันขึ้นมาก็ต้อง “หน้าบาง” ถอยออกมาเพื่อให้กระบวนการตรวจสอบได้ดำเนินการอย่างโปร่งใส อย่างเต็มที่
00 ยกเว้นมีเจตนาเข้ามาแสวงหาประโยชน์ หรือยังทำ “ภารกิจสำคัญ” บางอย่างยังไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะทำเพื่อ “ตัวเอง” หรือ “คนอื่นบางคน” หรือเปล่า ซึ่งกรณีหลังนี่ซิน่าสนใจกว่า ถ้าเป็นอย่างว่าจริง ก็ไม่พักต้องไปถามหาสปิริตกับคนพวกนี้ให้เสียน้ำลาย เพราะเสียเวลาเปล่า !!
00 ระบบระเบียบกฎหมาย ถ้าไม่เป็นคุณกับตัวเอง ก็แก้ไขหรือรื้อทิ้ง ขณะเดียวกันสร้างภาพลวง เพื่อตบตาสังคม บิดเบือนข้อมูล โฆษณาชวนเชื่อให้คนที่เข้าไม่ถึงข้อมูลต้องคล้อยตามสนับสนุนแบบหน้ามืดตามัว ดังนั้นเมื่อเป้าหมายเพื่ออำนาจ และความร่ำรวยก็ต้อง “ตื๊อ” หรือดันทุรังให้อยู่ในอำนาจวาสนาให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ซึ่งพฤติกรรมในลักษณะนี้เกิดขึ้นไม่เว้นแม้กระทั่ง “ลิ่วล้อ” ทุกระดับ เพราะการสูญเสียอำนาจ นอกจากทำให้สูญเสียโอกาสแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงต่อการติดคุกติดตะรางอีกด้วย
00 ดังนั้น กรณีของ 3 รัฐมนตรีรัฐบาล “หุ่นเชิด” ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ประทับรับฟ้องคดีทุจริต “หวยบนดิน” มูลค่าความเสียหายกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ก็อย่าหวังจะได้สปิริตจากคนพวกนี้ ในทางตรงข้าม จะต้องกอดเก้าอี้เอาไว้แน่น และให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
00 แม้ว่าในทางกฎหมายจะกำหนดเอาไว้ชัดเจนว่า เมื่อศาลฎีกาฯ รับฟ้องคดี รัฐมนตรีจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ขณะที่คนพวกนี้ก็ยังเล่นลิ้น อ้างกฎหมายสารพัด สารเพ บ้างก็อ้างแบบ “ศรีธนญชัย” อย่างหน้ามืดว่า ตนเองได้พ้นจากคณะรัฐมนตรีชุดเก่าไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือบอกว่า แค่ศาลประทับรับฟ้องเท่านั้น ไม่ใช่คำตัดสิน ยิ่งพูดก็ยิ่งเห็น “ธาตุแท้” ออกมาเรื่อย ๆ
00 ไม่คำนึงว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายที่กำหนดให้รัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ วัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีไปยุ่งเหยิงกับพยาน หรือใช้อิทธิพลไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และที่สำคัญในเวลานี้ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุมกองสลากฯอีกด้วย
00 ยังไม่รู้ว่าเจตนาเป็นเพราะอะไรกันแน่ โดยเฉพาะสำหรับ “หมอเลี้ยบ” ที่ยืนยันหนักแน่นแล้วว่า “ไม่สนใจ” จะยื้อจนถึงที่สุด แต่ขณะเดียวกันปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นก็คือ ในวันนี้ (29 ก.ค.) เขามีภารกิจสำคัญคือการเสนอรายชื่อ “บอร์ดแบงก์ชาติ” ชุดใหม่ รวมทั้งยังมีเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในฤดูโยกย้าย อีกล็อตใหญ่ตามมาติดๆ
00 แต่นาทีนี้ ถ้าพิจารณาในแง่มุมสำหรับนักการเมืองที่ “เสียสละ” เข้ามารับใช้ชาติบ้านเมือง เมื่อเกิดข้อสงสัยกันขึ้นมาก็ต้อง “หน้าบาง” ถอยออกมาเพื่อให้กระบวนการตรวจสอบได้ดำเนินการอย่างโปร่งใส อย่างเต็มที่
00 ยกเว้นมีเจตนาเข้ามาแสวงหาประโยชน์ หรือยังทำ “ภารกิจสำคัญ” บางอย่างยังไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะทำเพื่อ “ตัวเอง” หรือ “คนอื่นบางคน” หรือเปล่า ซึ่งกรณีหลังนี่ซิน่าสนใจกว่า ถ้าเป็นอย่างว่าจริง ก็ไม่พักต้องไปถามหาสปิริตกับคนพวกนี้ให้เสียน้ำลาย เพราะเสียเวลาเปล่า !!
