ผู้จัดการรายวัน – ตราเกษตร ทุ่มกว่า 100 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพิ่มกำลังผลิตข้าว-สินค้าเกษตรแปรรูป ดอดเจรจาขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ ส่วนไตรมาส 4 ส่งสินค้าแปรรูปรับเทรนด์ความสะดวกสบาย ทะลวงคนรุ่นใหม่ โชว์สิ้นปีกวาดรายได้ 2,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าว ธัญพืช ตราเกษตร เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเพิ่มทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตข้าวให้เพิ่มมากขึ้น ล่าสุดได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตข้าวให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มการผลิตในกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป โดยเฉพาะกลุ่มโจ๊กสำเร็จรูป ซึ่งหลังจากเปิดตัวมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีส่วนแบ่งในช่องทางโมเดิร์นเทรด 7-8% ใกล้เคียงกับมาม่า ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของตลาด ขณะที่ผู้นำตลาดอย่างคนอร์ มีส่วนแบ่ง 70%
สำหรับแผนการตลาดช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวสินค้าเกษตรแปรรูปกึ่งสำเร็จรูปใหม่ลงสู่ตลาด เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้บริโภค อีกทั้งยังเพิ่มรสชาติใหม่ทั้งโจ๊กสำเร็จรูปและวุ้นกึ่งสำเร็จรูปในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ 20% ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 40-50%
“สถานการณ์ตลาดอาหารครึ่งปีแรกยังคงมีอัตราการเติบโต เพราะอาหารเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตแม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีแต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มว่าสินค้ากลุ่มอาหารจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นได้”
สำหรับผลประกอบการในสิ้นปีนี้ราว 2,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้ามีรายได้เป็น 1,800 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,600 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตสูงกว่าเป้าหมาย มาจากการส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติอาหารขาดแคลน ส่งผลให้ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาข้าวมีอัตราการเติบโต 100% ซึ่งปัจจุบันข้าวเป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้หลัก 80%
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าว ธัญพืช ตราเกษตร เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเพิ่มทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตข้าวให้เพิ่มมากขึ้น ล่าสุดได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตข้าวให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มการผลิตในกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป โดยเฉพาะกลุ่มโจ๊กสำเร็จรูป ซึ่งหลังจากเปิดตัวมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีส่วนแบ่งในช่องทางโมเดิร์นเทรด 7-8% ใกล้เคียงกับมาม่า ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของตลาด ขณะที่ผู้นำตลาดอย่างคนอร์ มีส่วนแบ่ง 70%
สำหรับแผนการตลาดช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวสินค้าเกษตรแปรรูปกึ่งสำเร็จรูปใหม่ลงสู่ตลาด เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้บริโภค อีกทั้งยังเพิ่มรสชาติใหม่ทั้งโจ๊กสำเร็จรูปและวุ้นกึ่งสำเร็จรูปในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ 20% ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 40-50%
“สถานการณ์ตลาดอาหารครึ่งปีแรกยังคงมีอัตราการเติบโต เพราะอาหารเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตแม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีแต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มว่าสินค้ากลุ่มอาหารจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่สามารถแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นได้”
สำหรับผลประกอบการในสิ้นปีนี้ราว 2,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้ามีรายได้เป็น 1,800 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,600 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตสูงกว่าเป้าหมาย มาจากการส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติอาหารขาดแคลน ส่งผลให้ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาข้าวมีอัตราการเติบโต 100% ซึ่งปัจจุบันข้าวเป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้หลัก 80%