นายจอห์น โฮล์มส ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติด้านกิจการสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ภายใน 22 ปีข้างหน้าทั่วโลกต้องผลิตอาหารให้ได้มากกว่าในปัจจุบัน 50 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าในอีก 20 ปีหลังจากนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น และรูปแบบของพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น หลักใหญ่ใจความที่สำคัญในขณะนี้ก็คือ ทั่วโลกต้องผลิตอาหารให้มากขึ้น พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่เพาะปลูกและน้ำ แต่จะสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต
ทั้งนี้ บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยวิกฤติอาหารโลก ที่กรุงโรม ต่างเห็นชอบกับแถลงการณ์แก้ปัญหาและคลี่คลายวิกฤติอาหารขาดแคลน ด้วยการเร่งลงทุนในภาคการเกษตรให้มากขึ้น พร้อมทั้งประกาศบริจาคเงินช่วยเหลือประเทศยากจนสูงถึง 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับความยากจนและอดอยากหิวโหย
ทั้งนี้ บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยวิกฤติอาหารโลก ที่กรุงโรม ต่างเห็นชอบกับแถลงการณ์แก้ปัญหาและคลี่คลายวิกฤติอาหารขาดแคลน ด้วยการเร่งลงทุนในภาคการเกษตรให้มากขึ้น พร้อมทั้งประกาศบริจาคเงินช่วยเหลือประเทศยากจนสูงถึง 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับความยากจนและอดอยากหิวโหย