ช่อง 3 ดึง “กิตติ สิงหาปัด” ร่วมผลิตรายการ "ข่าว 3 มิติ" เสียบช่วงไพร์มไทม์ เวลา 22.30-23.00น.ทุกวัน เว้นวันอังคารวันเดียว เผยดึงราคาโฆษณาพุ่งสูงสุดในกลุ่มรายการข่าว สูงถึงนาทีละ 2.6 แสนบาท แซงหน้ารายการ “เรื่องเล่าเช้านี้ และ เรื่องเด่นเย็นนี้” ที่มี “สรยุทธ์ สุทัศนจินดา” เป็นตัวหลัก ที่ค่าโฆษณานาทีละ 1.75 แสนบาท คาดสิ้นปีดันรายได้รวมจากรายการข่าวโตอีก 15%
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เปิดเผยว่า ตามที่ทางช่อง 3 ได้ทีมงานของ นายกิตติ สิงหาปัด เข้ามาร่วมผลิตรายการ “ข่าว 3 มิติ” ให้ ทางช่อง 3 ได้มีการปรับผังรายการช่วงไพร์มไทม์ตั้งแต่เวลา 22.00น. ใหม่ เพื่อให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการเลื่อนรายการประเภทวาไรตี้ออกไปอีกครึ่งชม.ทุกวัน แล้วนำเอารายการ ข่าว 3 มิติ ออกอากาศตั้งแต่เวลา 22.30-23.00 น. แทน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามยกเว้นเพียงวันอังคารเท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม เนื่องจากรายการตีสิบ ที่ออกอากาศทุกคืนวันอังคาร เป็นรายการที่ค่อนข้างยาว ถ้าเลื่อนอีกจะทำให้ผังรายการยาวออกไปมาก อีกส่วนหนึ่งคือเพื่อให้นายกิตติได้พักผ่อนบ้าง
ทั้งนี้จากการปรับเปลี่ยนผังดังกล่าว ล่าสุดพบว่าราคาโฆษณาของรายการ ข่าว 3 มิติ ขณะนี้มีราคาขายเริ่มต้นที่นาทีละ 2.6 แสนบาท ซึ่งถือเป็นราคาโฆษณาที่สูงที่สุดของกลุ่มรายการประเภทข่าวของช่อง3 ขณะที่รายการเรื่องเล่าเช้านี้ และเรื่องเด่นเย็นนี้ ที่มีนายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา เป็นตัวหลักของรายการ ยังมีราคาโฆษณาอยู่ที่นาทีละ 1.75 แสนบาท เท่านั้น
สาเหตุที่ทำให้รายการข่าว 3 มิติ ของนายกิตติ มีราคาโฆษณาสูงนั้น มองว่า ส่วนหนึ่งมาจาก ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงไพร์มไทม์ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่องอื่นๆแล้ว จะเป็นรายการวาไรตี้ จึงทำให้กลายเป็นทางเลือกใหม่ทั้งของผู้ชมและผู้ซื้อสื่อโฆษณาให้ความสนใจ จากปกติราคาโฆษณาช่วงไพร์มไทม์ ในกลุ่มละครของช่อง3นั้น จะอยู่ที่ นาทีละ 4.5 แสนบาท เท่ากับทางช่อง 7
นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าช่อง3จะยังไม่มีการปรับราคาค่าโฆษณาขึ้น เพราะอัตราคาที่วางไว้นี้ถือว่าค่อนข้างจะสูงมากแล้วในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีแบบนี้ แต่ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับราคาค่าโฆษณาขึ้นอีก ซึ่งขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจด้วย อย่างไรก็ตามจะมีการพิจารณาปรับราคาโฆษณาใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอนในช่วงต้นปีหน้า
สำหรับรายการข่าว 3 มิตินี้ ถือเป็นรายการรับจ้างผลิตโดยทีมงานของนายกิตติ สิงหาปัด โดยทางช่อง 3 เป็นเจ้าของเวลา และทางทีมของนายกิตติ เป็นผู้ผลิตให้ ในลักษณะแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ผลิตให้กับช่อง 3 สถานีเดียว โดยมีรูปแบบรายการที่เป็นลักษณะของ การวิเคราะห์ข่าวแบบเจาะลึก ตามความถนัดของนายกิตติ ซึ่งมองว่าจะไม่ทับซ้อนกับรายการจับเข่าคุย ที่มีลักษณะของการหยิบยกประเด็นในรอบสัปดาห์มานั่งคุยกัน โดยมีนายสรยุทธ์ เป็นผู้ดำเนินรายการอยู่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเวลาโฆษณาช่วงของรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่าเช้านี้ ที่ได้มีการปรับเวลาออกอากาศเพิ่มอีก 30 นาที พบว่า ครึ่งปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตของการขายโฆษณาสูงขึ้นกว่า 30-40% โดยเมื่อเทียบช่วงเวลาขายโฆษณาของทั้ง 2 รายการแล้ว ถือว่าเต็ม 100%
จากการปรับผังช่วงรายการข่าวที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะรายการ ข่าว 3 มิติ ที่เพิ่มเข้ามา คาดว่าทั้งปีนี้กลุ่มรายการข่าวจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างน้อย 15% จากปกติ รายได้ของทางช่อง3 จะมาจาก บันเทิงที่เป็นละคร 50% รายการครอบครัวข่าว 25% ซีรี่ย์เกาหลี 15% และอื่นๆอีก 10%
นายสุรินทร์ กล่าวต่อถึง ภาพรวมตลาดโฆษณาว่า ครึ่งปีที่ผ่านมาพบว่า มีอัตราการเติบโตลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3-4% ซึ่งระยะเวลาที่เหลืออีก 6 เดือนนับจากนี้ หากไม่มีอะไรเลวร้ายลง ทั้งปีภาพรวมตลาดน่าจะทำได้ดีที่สุด คือ มีอัตราการเติบโตเท่าปีก่อน หรือโตลดลงเล็กน้อย โดยเมื่อแบ่งรายได้โฆษณาในสื่อโทรทัศน์ออกมาแล้ว ช่อง7 อยู่ในอันดับหนึ่ง มีส่วนแบ่งกว่า 30-31% รองลงมาคือ ช่อง3 มีส่วนแบ่งประมาณ 27-28% ส่วนอันดับสามจะขึ้นลงสลับกันระหว่าง ช่อง5 และช่อง9 ขณะที่ช่องเอ็นบีทีเริ่มเห็นเม็ดเงินโฆษณาเข้ามา แต่ยังไม่มาก
**เกาะติดโอลิมปิก หวังเพิ่มเรตติ้งรายการข่าว**
ล่าสุดช่อง3ได้เปิดตัวโครงการ “เกาะติดโอลิมปิก 2008 กับครอบครัวข่าวกีฬา3” ขึ้น ในวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยสามารถเกาะติดผลการแข่งขันผ่านรายการข่าว ดังต่อไปนี้ รายการทันโลกกีฬา วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.20-05.50น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.30-07.55 น., รายการเรื่องเล่าเช้านี้ เวลา 06.15-08.45 น., รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เวลา 11.35-13.00 น., รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เวลา 16.30-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00-18.00 น. และรายการข่าววันใหม่ เวลา 00.30-01.45 น. ทั้งนี้มองว่าในแง่ของการขายโฆษณาอาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันถือว่าสามารถขายโฆษณาได้เต็มเวลาอยู่แล้ว แต่ถือเป็นการคืนกำไรให้กับผู้ชม ให้ร่วมติดตามการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างใกล้ชิด
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เปิดเผยว่า ตามที่ทางช่อง 3 ได้ทีมงานของ นายกิตติ สิงหาปัด เข้ามาร่วมผลิตรายการ “ข่าว 3 มิติ” ให้ ทางช่อง 3 ได้มีการปรับผังรายการช่วงไพร์มไทม์ตั้งแต่เวลา 22.00น. ใหม่ เพื่อให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการเลื่อนรายการประเภทวาไรตี้ออกไปอีกครึ่งชม.ทุกวัน แล้วนำเอารายการ ข่าว 3 มิติ ออกอากาศตั้งแต่เวลา 22.30-23.00 น. แทน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามยกเว้นเพียงวันอังคารเท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม เนื่องจากรายการตีสิบ ที่ออกอากาศทุกคืนวันอังคาร เป็นรายการที่ค่อนข้างยาว ถ้าเลื่อนอีกจะทำให้ผังรายการยาวออกไปมาก อีกส่วนหนึ่งคือเพื่อให้นายกิตติได้พักผ่อนบ้าง
ทั้งนี้จากการปรับเปลี่ยนผังดังกล่าว ล่าสุดพบว่าราคาโฆษณาของรายการ ข่าว 3 มิติ ขณะนี้มีราคาขายเริ่มต้นที่นาทีละ 2.6 แสนบาท ซึ่งถือเป็นราคาโฆษณาที่สูงที่สุดของกลุ่มรายการประเภทข่าวของช่อง3 ขณะที่รายการเรื่องเล่าเช้านี้ และเรื่องเด่นเย็นนี้ ที่มีนายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา เป็นตัวหลักของรายการ ยังมีราคาโฆษณาอยู่ที่นาทีละ 1.75 แสนบาท เท่านั้น
สาเหตุที่ทำให้รายการข่าว 3 มิติ ของนายกิตติ มีราคาโฆษณาสูงนั้น มองว่า ส่วนหนึ่งมาจาก ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงไพร์มไทม์ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่องอื่นๆแล้ว จะเป็นรายการวาไรตี้ จึงทำให้กลายเป็นทางเลือกใหม่ทั้งของผู้ชมและผู้ซื้อสื่อโฆษณาให้ความสนใจ จากปกติราคาโฆษณาช่วงไพร์มไทม์ ในกลุ่มละครของช่อง3นั้น จะอยู่ที่ นาทีละ 4.5 แสนบาท เท่ากับทางช่อง 7
นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าช่อง3จะยังไม่มีการปรับราคาค่าโฆษณาขึ้น เพราะอัตราคาที่วางไว้นี้ถือว่าค่อนข้างจะสูงมากแล้วในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีแบบนี้ แต่ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับราคาค่าโฆษณาขึ้นอีก ซึ่งขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจด้วย อย่างไรก็ตามจะมีการพิจารณาปรับราคาโฆษณาใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอนในช่วงต้นปีหน้า
สำหรับรายการข่าว 3 มิตินี้ ถือเป็นรายการรับจ้างผลิตโดยทีมงานของนายกิตติ สิงหาปัด โดยทางช่อง 3 เป็นเจ้าของเวลา และทางทีมของนายกิตติ เป็นผู้ผลิตให้ ในลักษณะแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ผลิตให้กับช่อง 3 สถานีเดียว โดยมีรูปแบบรายการที่เป็นลักษณะของ การวิเคราะห์ข่าวแบบเจาะลึก ตามความถนัดของนายกิตติ ซึ่งมองว่าจะไม่ทับซ้อนกับรายการจับเข่าคุย ที่มีลักษณะของการหยิบยกประเด็นในรอบสัปดาห์มานั่งคุยกัน โดยมีนายสรยุทธ์ เป็นผู้ดำเนินรายการอยู่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเวลาโฆษณาช่วงของรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่าเช้านี้ ที่ได้มีการปรับเวลาออกอากาศเพิ่มอีก 30 นาที พบว่า ครึ่งปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตของการขายโฆษณาสูงขึ้นกว่า 30-40% โดยเมื่อเทียบช่วงเวลาขายโฆษณาของทั้ง 2 รายการแล้ว ถือว่าเต็ม 100%
จากการปรับผังช่วงรายการข่าวที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะรายการ ข่าว 3 มิติ ที่เพิ่มเข้ามา คาดว่าทั้งปีนี้กลุ่มรายการข่าวจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างน้อย 15% จากปกติ รายได้ของทางช่อง3 จะมาจาก บันเทิงที่เป็นละคร 50% รายการครอบครัวข่าว 25% ซีรี่ย์เกาหลี 15% และอื่นๆอีก 10%
นายสุรินทร์ กล่าวต่อถึง ภาพรวมตลาดโฆษณาว่า ครึ่งปีที่ผ่านมาพบว่า มีอัตราการเติบโตลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3-4% ซึ่งระยะเวลาที่เหลืออีก 6 เดือนนับจากนี้ หากไม่มีอะไรเลวร้ายลง ทั้งปีภาพรวมตลาดน่าจะทำได้ดีที่สุด คือ มีอัตราการเติบโตเท่าปีก่อน หรือโตลดลงเล็กน้อย โดยเมื่อแบ่งรายได้โฆษณาในสื่อโทรทัศน์ออกมาแล้ว ช่อง7 อยู่ในอันดับหนึ่ง มีส่วนแบ่งกว่า 30-31% รองลงมาคือ ช่อง3 มีส่วนแบ่งประมาณ 27-28% ส่วนอันดับสามจะขึ้นลงสลับกันระหว่าง ช่อง5 และช่อง9 ขณะที่ช่องเอ็นบีทีเริ่มเห็นเม็ดเงินโฆษณาเข้ามา แต่ยังไม่มาก
**เกาะติดโอลิมปิก หวังเพิ่มเรตติ้งรายการข่าว**
ล่าสุดช่อง3ได้เปิดตัวโครงการ “เกาะติดโอลิมปิก 2008 กับครอบครัวข่าวกีฬา3” ขึ้น ในวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยสามารถเกาะติดผลการแข่งขันผ่านรายการข่าว ดังต่อไปนี้ รายการทันโลกกีฬา วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.20-05.50น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.30-07.55 น., รายการเรื่องเล่าเช้านี้ เวลา 06.15-08.45 น., รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เวลา 11.35-13.00 น., รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เวลา 16.30-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00-18.00 น. และรายการข่าววันใหม่ เวลา 00.30-01.45 น. ทั้งนี้มองว่าในแง่ของการขายโฆษณาอาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันถือว่าสามารถขายโฆษณาได้เต็มเวลาอยู่แล้ว แต่ถือเป็นการคืนกำไรให้กับผู้ชม ให้ร่วมติดตามการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างใกล้ชิด