xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนอาบูดานีประกาศจะถือหุ้น“จีอี”พร้อมกับจับมือตั้งบ.เงินทุนบุกตอ.กลาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไฟแนนเชียลไทมส์/รอยเตอร์ – มูบาลาดาลา กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐอาบูดาบี ที่นับวันจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ออกมาแถลงเมื่อวันอังคาร (22) ถึงแผนการที่จะขึ้นเป็นหนึ่งในสิบของนักลงทุนสถาบันที่ถือหุ้นใหญ่เจเนอรัล อีเล็คทริก (จีอี) พร้อมๆ กับที่ประกาศการทำข้อตกลงธุรกิจจำนวนหนึ่งกับบริษัทยักษ์ใหญ่อเมริกันรายนี้ ซึ่งก็รวมทั้งการร่วมทุนมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อตั้งบริษัทการเงินมุ่งบุกภูมิภาคตะวันออกกลาง
ความเคลื่อนไหวคราวนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นรวมทั้งความตั้งใจที่เพิ่มขึ้น ของบรรดาหน่วยงานลงทุนของอาบีดาบี ที่เป็นรัฐๆ หนึ่งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) ซึ่งกำลังตั้งใจอย่างแน่แน่วที่จะกระจายเม็ดเงินมหาศาลที่ได้มาจากน้ำมัน เพื่อยกระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และรวมทั้งขยายพอร์ตการลงทุนของตนอีกด้วย
ในทางกลับกัน ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็เป็นการเน้นถึงความพยายามของบริษัทตะวันตกที่จะเข้าไปเจาะตลาดประเทศรอบอ่าวเปอร์เชีย ที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟูอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น เฉพาะ จีอี ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกิจการในเครืออยู่หลากหลาย (conglomerate) อีกทั้งมีขนาดใหญ่โตมหึมามาก โดยมีฐานะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดหุ้นสูงเป็นอันดับสองของสหรัฐฯ ก็กำลังพยายามที่จะสานสัมพันธ์อันแนบแน่นกับตะวันออกกลางมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากบริษัทกำลังประสบปัญหาที่สืบเนื่องมาจากวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐฯ จนส่งผลให้หุ้นของจีดีดิ่งลงเกือบ 25%ในปีนี้
สำหรับข้อตกลงต่างๆ ที่กองทุนมูบาลาดาลาทำกับจีอีคราวนี้ เรื่องที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นแผนการที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมการตั้งบริษัทการเงิน ที่จะมีสำนักงานอยู่ในกรุงอาบูดาบี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐอาบูดาบี และของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจีอีและมูบาดาลาจะต้องลงเม็ดเงินกันฝ่ายละ 4,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาสามปี
มูบาดาลาได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2002 เพื่อกระตุ้นให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆในอาบูดาบี นับตั้งแต่นั้นมามูบาดาลาก็เริ่มขยายตัวกิจการออกไป การลงทุนครั้งสำคัญๆ ของกองทุนนี้ก็เช่น เข้าถือหุ้น 5% ของเฟอร์รารี ผู้ผลิตรถยนต์ไฮเอนด์ของโลก รวมทั้งเข้าถือหุ้น 7.5% ของคาร์ไลล์ กรุ๊ป กิจการเพื่อการลงทุนภาคเอกชน (ไพรเวต อิควิตี้ ฟันด์) ที่มุ่งซื้อสินทรัพย์เพื่อเข้าบริหารและลงทุน และเมื่อเร็ว ๆนี้ มูบาดาลายังประกาศร่วมทุนกับอีเอดีเอส บริษัทแม่ของแอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งยุโรป รวมทั้งบริษัทรถยนต์โรลสรอยส์ด้วย
คาลดูน อัล มูบารัก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูบาดาลาบอกว่า ปัจจุบันกองทุนเพื่อการลงทุนภาครัฐแห่งนี้ ยังมิได้ถือหุ้นในจีอีเลย และจะเริ่มซื้อหุ้นเข้ามาไว้ในช่วงสองสามเดือนข้างหน้าจากตลาดเปิด
เขากล่าวอีกว่าการประกาศที่ว่า กองทุนของเขาต้องการเป็นหนึ่งในสิบผู้ถือหุ้นใหญ่ของจีอีเป็นความตั้งใจที่จะแสดงถึงความโปร่งใสและหลีกเลี่ยง “ประเด็นทางการเมือง” หากคิดตามราคาหุ้นจีอี ณ. ปัจจุบัน มูบาดาลาจะต้องจ่ายเงิน 3,400 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้น 1.2%ของจีอี จึงจะถือได้ว่าได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สิบอันดับแรก
ขณะเดียวกัน การให้มูบาดาลาเข้าถือหุ้นของจีอี ก็จะทำให้ยักษ์ใหญ่ที่มีกิจการในเครือหลากหลายแห่งนี้ได้ประโยชน์อย่างมาก หนทางนี้ก็เหมือนกับผู้ประกอบการรายใหญ่ของสหรัฐฯอีกไม่น้อย ที่พยายามชดเชยรายได้ที่ลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจในบ้านตัวเอง ด้วยการหันไปบุกดินแดนที่มีความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจอื่น ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งตะวันออกกลาง แต่จีอีไม่เหมือนซิติ กรุ๊ป, เมอริล ลินช์ หรือธนาคารที่กำลังมีปัญหาอื่น ๆที่บ่ายหน้าไปยังตะวันออกกลาง ด้วยการมุ่งดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมาพยุงกิจการของพวกตน เพราะสิ่งที่จีอีต้องการก็คือ ตลาดสำหรับการขยายธุรกิจด้วย ไม่ใช่เม็ดเงินเพียงอย่างเดียว
ข้อตกลงร่วมทุนมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์นั้นจะทำให้เกิดบริษัทการเงินที่จะมีสาขาอยู่ทั่วทั้งตะวันออกกลาง ตลอดจนมีแผนเข้าไปในตลาดที่กำลังพัฒนาอื่น ๆด้วย ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นจากการวางแผนของ เจฟฟรีย์ อิมเมลท์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีอีคนปัจจุบัน ซึ่งต้องการกระจายความเสี่ยงออกไป เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจการเงินของกลุ่มส่วนใหญ่อยู่ในตลาดสหรัฐฯ ที่กำลังอยู่ในภาวะปั่นป่วนอยู่ในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ มีเสียงเรียกร้องบ่อยครั้งทั้งจากนักวิเคราะห์และนักลงทุนให้จีอีแตกบริษัท โดแยกระหว่างกิจการด้านที่เป็นอุตสาหกรรม และกิจการด้านที่เป็นเรื่องการเงิน แต่อิมเมลท์เชื่อว่าการได้มาซึ่งเม็ดเงินลงทุนต้นทุนต่ำและอำนาจการเงินอันแข็งแกร่งที่เกิดจากจีอีแคปปิตอล หน่วยงานด้านการเงินของกลุ่มเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ทั้งกลุ่มประสบความสำเร็จ ทำให้เขาไม่เห็นด้วยกับแยกธุรกิจออกจากกัน แต่สถานการณ์ทของตลาดสหรัฐฯซึ่งน่าจะยังคงไม่ฟื้นตัวจากภาวะสินเชื่อฝืดเคืองในอีกหลายเดือนข้างหน้า ก็ทำให้อิมเมลท์ต้องหาทางขยายธุรกิจการเงินของกลุ่มออกไปให้กว้างไกลกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ จีอีได้ประกาศขายธุรกิจบัตรเครดิตของตนเอออกไป รวมทั้งได้ลดมูลค่าการถือครองสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยลงไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการประกาศออกมาเมื่อวันอังคารก็จะทำให้ทางกลุ่มสามารถเน้นการทำธุรกิจในตะวันออกกลางได้มากขึ้น การที่จีอีหวังพึ่งตะวันออกกลาง ก็เพราะว่าภูมิภาคนี้เป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของจีอีเมื่อปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น