ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 ก.ค.) นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ พร้อมสมาชิกกว่า 20 คน ได้มาเรียกร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยุติการทำหน้าที่ และลาออกจาตำแหน่ง เนื่องจากมีที่มาที่ไม่ถูกต้อง โดยทางกลุ่มนำโลงศพและหุ่นจำลองมาเผา เพื่อเป็นการประท้วง แต่ระ หว่างที่เทน้ำมันและจุดไฟเพื่อเผาโลงศพ ปรากฏว่าเปลวไฟได้ลุกโชนมาติดเสื้อผ้าของนายเที่ยง ภักดีรัตน์ อายุ 45 ปี ชาว จ.สุโขทัย สมาชิกกลุ่มต่อต้านเผด็จการ ทำให้เกิดแผลไหม้ เป็นวงกว้าง บริเวณแขนขวา ลำตัวและต้นขาด้านขวา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาดูแลความเรียบร้อยได้เร่งเข้าช่วยเหลือและดับไฟให้ หลังจากนั้นทางกลุ่มได้นำนายเที่ยงส่งโรงพยาบาล
ต่อมาเวลา 10.15 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมสมาชิกประมาณ 50 คน ได้เดินทางมาเรียกร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยุดการปฏิบัติหน้าที่และลาออก เพื่อเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความ กล้าหาญด้านจริยธรรม หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังดื้อดึง ยืนกรานที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จะเป็นการนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อการเป็นองค์กรอิสระ ที่ควรได้รับการแต่งตั้งตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
โดยกลุ่มได้ตะโกนขับไล่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ออกไป และ หน้าไม่อาย พร้อมทั้งนำป้ายผ้าสีดำ ที่มีข้อความสีขาวว่า คณะกรรมการปราบปรามคนดี และปอกลอกงบประมาณแห่งชาติ มาปิดทับป้ายสำนักงาน ป.ป.ช. และติดป้ายประกาศว่า ปิดทำการคณะกรรมการ ป.ป.ช. บริเวณทางออกสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้งยังได้จุดประทัด เพื่อเป็นการขับไล่ด้วย
ขณะที่อีกกลุ่มนำโดยนางสุนันทา ธรรมธีระ อ้างตัวเป็นเป็นประธานสตรีเพื่อประชาธิปไตย นำสมาชิก 30 คน สวสเสื้อสีแดง เดินทางไปยังสำนักงาน กกต. เพื่อติดตามทวงถาม ความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 4 ที่มีการกระทำผิด กฎหมายเลือกตั้ง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจาณณา เรื่องร้องคัดค้าน อีกทั้งยังมาให้กำลังใจนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. และมอบดอกไม้ให้ นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ที่สามารถพิจารณาสำนวนได้อย่างตรงไป ตรงมาตามข้อกฎหมาย พร้อมทั้งมาขับไล่ กกต.ที่เหลืออีก 3 คน ประกอบด้วย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายสุเมธ อุปนิสากร และ นายประพันธ์ นัยโกวิท ที่พิจารณาสำนวนอย่างมีอคติ และรับใช้เผด็จการ
นางสุนันทา กล่าวว่า กลุ่มของตนและเครือข่ายต่างๆ จะติดตามความคืบหน้า ในการดำเนินการสอบสวนสำนวนดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะมาสอบถามความ คืบหน้าจาก กกต.อย่างต่อเนื่อง ตนอยากจะดูว่า กกต.อีก 3 คนจะกล้าให้ใบแดง พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ และขอให้ กกต.ทั้ง 3 คน พิจารณาสำนวนดังกล่าวอย่างเที่ยงธรรมและตรงไปตรงมา
ทั้งก่อนหน้านี้กลุ่มสตรีเพื่อประชาธิปไตย พร้อมพวก 50 คน สวมเสื้อสีแดง พร้อมทั้งโบกธงสีแดง ที่เขียนข้อความว่า เอารัฐธรรมนูญ 50 คืนไป เอารัฐธรรมนูญ 40 คืนมามาชุมนุมหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือ ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้ปลดนายสมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ชาธิปัตย์ โดยมีนายณัฐพล ทีปสุวรรณ ผุ้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ มารับหนังสือแทน
เนื้อหาในหนังสื่อระบุว่า ขณะนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับนายสมเกียรติ์ ข้อกล่าวหาที่มีการกระทำเข้าข่ามหมิ่นพระบรมราชนุภาพ ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงเจตจำนงค์มาโดยตลอดว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ดังนั้น จึงต้องปลดนายสมเกียรต์ เพื่อยืนยันว่าพรรคมีความจงรักภักดีต่อสถาบันจริง พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายสมเกียรติ์ พิจารณาตนเอง ด้วยการลาออกจากการเป็นส.ส.สัดส่วนหากยังดื้อรั้น ขัดขื่น แสดงว่านายสมเกียรติ์ไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันอย่างแท้จริง
ผู้สื่อรายงานว่า กลุ่มสตรีเพื่อประชาธิปไตยได้ตะฏกนด่าทอพรรคประชาธิปัตย์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมทั้งชูป้าย หากประชาธิปัตย์จงรักภักดีจริงต้องไล่ สมเกียรติ์ ออก และหากพรรคประชาธิปัตย์รักประชาชนจริงต้องเอาข้าว เอาน้ำมาเลี้ยงประชาชนที่มาชุมนุมด้วย
วันเดียวกัน นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน (พปช.) และสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวิน ได้ยื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณี ป.ป.ช. กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เนื่องจากไม่ตรวจสอบและเอาผิดกับ ส.ส.และส.ว.ที่มีหุ้นอยู่ในบริษัทที่ได้สัมปทานผูกขาดของรัฐ โดยอ้างว่าได้ยื่นเรื่องให้สอบ ส.ส.และ ส.ว.ที่ถือหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ ซึ่งต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่ ป.ป.ช.ไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ถ้าพบว่าเป็นความจริงขอให้นายสุทิน ในฐานะส.ส. ดำเนินการ เข้าชื่อ ยื่นเรื่องต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อดำเนินคดีกับกรรมการป.ป.ช.ทั้ง 9 คน
นายสุทิน คลังแสง กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับป.ป.ช.รวมแล้ว 3 เรื่องนอกจากเรื่องของนายศุภชัย แล้ว ยังมีการให้ตรวจสอบเพื่อถอดถอนป.ป.ช. เนื่องจากมีที่มาโดยไม่ชอบ ไม่ผ่านการโปรดเกล้าฯ ทำผิดด้วยการขึ้นเงินเดือน เลขานุการ และที่ปรึกษาทั้งที่ไม่มีอำนาจ และให้ตรวจสอบกรณีการรับเงินเดือนของ ป.ป.ช. เป็นไปโดยมิชอบ เพราะในท้ายประกาศของคปค.ไม่ได้บอกให้ป.ป.ช.รับเงินเดือนจากบัญชีไหนอย่างไร
ดังนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคมนี้ ตนจะเชิญเลขาธิการป.ป.ช. อธิบดีกรมบัญชีกลาง ตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักกฎหมายของ สภาผู้แทนราษฎรและผู้ร้องทั้งหมดเข้าชี้แจง และจะทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการ ครม. เพื่อขอหนังสือกรณีที่ระบุว่าสำนักราชเลขาธิการแจ้งว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ไม่ต้องผ่านการ โปรดเกล้าฯ ซึ่งจะถือว่าเป็นกุญแจที่จะคลี่คลายเหตุการณ์ได้ทั้งหมด โดยหากพบว่า ป.ป.ช.มีความผิดจริงตนสามารถใช้เอกสิทธิ์ของส.ส.เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน5 ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ทันที
ต่อมาเวลา 10.15 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมสมาชิกประมาณ 50 คน ได้เดินทางมาเรียกร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยุดการปฏิบัติหน้าที่และลาออก เพื่อเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความ กล้าหาญด้านจริยธรรม หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังดื้อดึง ยืนกรานที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จะเป็นการนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อการเป็นองค์กรอิสระ ที่ควรได้รับการแต่งตั้งตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
โดยกลุ่มได้ตะโกนขับไล่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ออกไป และ หน้าไม่อาย พร้อมทั้งนำป้ายผ้าสีดำ ที่มีข้อความสีขาวว่า คณะกรรมการปราบปรามคนดี และปอกลอกงบประมาณแห่งชาติ มาปิดทับป้ายสำนักงาน ป.ป.ช. และติดป้ายประกาศว่า ปิดทำการคณะกรรมการ ป.ป.ช. บริเวณทางออกสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้งยังได้จุดประทัด เพื่อเป็นการขับไล่ด้วย
ขณะที่อีกกลุ่มนำโดยนางสุนันทา ธรรมธีระ อ้างตัวเป็นเป็นประธานสตรีเพื่อประชาธิปไตย นำสมาชิก 30 คน สวสเสื้อสีแดง เดินทางไปยังสำนักงาน กกต. เพื่อติดตามทวงถาม ความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 4 ที่มีการกระทำผิด กฎหมายเลือกตั้ง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจาณณา เรื่องร้องคัดค้าน อีกทั้งยังมาให้กำลังใจนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. และมอบดอกไม้ให้ นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ที่สามารถพิจารณาสำนวนได้อย่างตรงไป ตรงมาตามข้อกฎหมาย พร้อมทั้งมาขับไล่ กกต.ที่เหลืออีก 3 คน ประกอบด้วย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายสุเมธ อุปนิสากร และ นายประพันธ์ นัยโกวิท ที่พิจารณาสำนวนอย่างมีอคติ และรับใช้เผด็จการ
นางสุนันทา กล่าวว่า กลุ่มของตนและเครือข่ายต่างๆ จะติดตามความคืบหน้า ในการดำเนินการสอบสวนสำนวนดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะมาสอบถามความ คืบหน้าจาก กกต.อย่างต่อเนื่อง ตนอยากจะดูว่า กกต.อีก 3 คนจะกล้าให้ใบแดง พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ และขอให้ กกต.ทั้ง 3 คน พิจารณาสำนวนดังกล่าวอย่างเที่ยงธรรมและตรงไปตรงมา
ทั้งก่อนหน้านี้กลุ่มสตรีเพื่อประชาธิปไตย พร้อมพวก 50 คน สวมเสื้อสีแดง พร้อมทั้งโบกธงสีแดง ที่เขียนข้อความว่า เอารัฐธรรมนูญ 50 คืนไป เอารัฐธรรมนูญ 40 คืนมามาชุมนุมหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือ ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้ปลดนายสมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ชาธิปัตย์ โดยมีนายณัฐพล ทีปสุวรรณ ผุ้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ มารับหนังสือแทน
เนื้อหาในหนังสื่อระบุว่า ขณะนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับนายสมเกียรติ์ ข้อกล่าวหาที่มีการกระทำเข้าข่ามหมิ่นพระบรมราชนุภาพ ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงเจตจำนงค์มาโดยตลอดว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ดังนั้น จึงต้องปลดนายสมเกียรต์ เพื่อยืนยันว่าพรรคมีความจงรักภักดีต่อสถาบันจริง พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายสมเกียรติ์ พิจารณาตนเอง ด้วยการลาออกจากการเป็นส.ส.สัดส่วนหากยังดื้อรั้น ขัดขื่น แสดงว่านายสมเกียรติ์ไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันอย่างแท้จริง
ผู้สื่อรายงานว่า กลุ่มสตรีเพื่อประชาธิปไตยได้ตะฏกนด่าทอพรรคประชาธิปัตย์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมทั้งชูป้าย หากประชาธิปัตย์จงรักภักดีจริงต้องไล่ สมเกียรติ์ ออก และหากพรรคประชาธิปัตย์รักประชาชนจริงต้องเอาข้าว เอาน้ำมาเลี้ยงประชาชนที่มาชุมนุมด้วย
วันเดียวกัน นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน (พปช.) และสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวิน ได้ยื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณี ป.ป.ช. กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เนื่องจากไม่ตรวจสอบและเอาผิดกับ ส.ส.และส.ว.ที่มีหุ้นอยู่ในบริษัทที่ได้สัมปทานผูกขาดของรัฐ โดยอ้างว่าได้ยื่นเรื่องให้สอบ ส.ส.และ ส.ว.ที่ถือหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ ซึ่งต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่ ป.ป.ช.ไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ถ้าพบว่าเป็นความจริงขอให้นายสุทิน ในฐานะส.ส. ดำเนินการ เข้าชื่อ ยื่นเรื่องต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อดำเนินคดีกับกรรมการป.ป.ช.ทั้ง 9 คน
นายสุทิน คลังแสง กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับป.ป.ช.รวมแล้ว 3 เรื่องนอกจากเรื่องของนายศุภชัย แล้ว ยังมีการให้ตรวจสอบเพื่อถอดถอนป.ป.ช. เนื่องจากมีที่มาโดยไม่ชอบ ไม่ผ่านการโปรดเกล้าฯ ทำผิดด้วยการขึ้นเงินเดือน เลขานุการ และที่ปรึกษาทั้งที่ไม่มีอำนาจ และให้ตรวจสอบกรณีการรับเงินเดือนของ ป.ป.ช. เป็นไปโดยมิชอบ เพราะในท้ายประกาศของคปค.ไม่ได้บอกให้ป.ป.ช.รับเงินเดือนจากบัญชีไหนอย่างไร
ดังนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคมนี้ ตนจะเชิญเลขาธิการป.ป.ช. อธิบดีกรมบัญชีกลาง ตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักกฎหมายของ สภาผู้แทนราษฎรและผู้ร้องทั้งหมดเข้าชี้แจง และจะทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการ ครม. เพื่อขอหนังสือกรณีที่ระบุว่าสำนักราชเลขาธิการแจ้งว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ไม่ต้องผ่านการ โปรดเกล้าฯ ซึ่งจะถือว่าเป็นกุญแจที่จะคลี่คลายเหตุการณ์ได้ทั้งหมด โดยหากพบว่า ป.ป.ช.มีความผิดจริงตนสามารถใช้เอกสิทธิ์ของส.ส.เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน5 ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ทันที