xs
xsm
sm
md
lg

โค้งสุดท้าย ; โค่นรัฐบาลขายชาติ หนุนตุลาการภิวัฒน์ มุ่งสู่การเมืองใหม่ประชาธิปไตยประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ธงไท เทอดอุดม

คารวะจิตใจมวลมหาประชาชนผู้วีระอาจหาญ...

นับได้ ๕๗ วันแล้วสำหรับการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนเพื่อต่อต้านความฉ้อฉลของระบอบทักษิณที่เสมือนมะเร็งร้ายเกาะกินถึงแก่นกระดูกของสังคมไทย ด้วยยาพิษเคลือบน้ำตาลในนามของการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นยาชุดประชานิยมสำหรับกลุ่มเป้าหมายตลาดล่าง รากหญ้า ...ตามด้วยการส่งทุนอุปถัมภ์สำหรับเกื้อหนุนธุรกิจ ผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นชนชั้นกลาง ในนาม SME's แปลงสินทรัพย์เป็นทุน ฯลฯ ...และอาหารหลักเม็กกะโปรเจ็ก และ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจชั้นดี ที่เสิร์ฟเฉพาะกลุ่มทุนธุรกิจการเมืองพวกพ้อง...ยังไม่นับอาหารสมองที่หลอกใช้กลุ่มซ้ายใหม่หน้าโง่-ซ้ายเก่าไร้เดียงสา ในนามปฏิญญาฟินแลนด์ และวาทกรรมว่าด้วย อมาตยาธิปไตย...เป็นต้น.....

เมื่อขบวนการทางปัญญาที่ต่อเนื่องมาจากการต่อสู้ในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยุคที่ ๑ (Episode 1 ) ที่จุดเทียนแห่งธรรมขึ้นในเวทีสวนลุมฯ แล้วส่งต่อเจตนารมณ์ในการต่อสู้ของขบวนการ "พลเมืองผู้ตื่นรู้" (Active Citizens) ลามลุกโชนขยายวง ขยายขอบเขตไปทั่วประเทศ ก่อรูปการเคลื่อนไหวใหญ่ของมวลชนประชาธิปไตยในปี ๒๕๔๘ ต่อ ๒๕๔๙ จนกองทัพออกมาทำรัฐประหารคั่นกลางไว้.....และตั้งรัฐบาลขิงแก่ขึ้นมาสานต่อภารกิจ ๔ ข้อ ที่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่อาจสัมฤทธิ์ผลแม้สักกะผีกริ้น....ส่งผลให้ระบอบทักษิณที่ก่อหวอดฟักตัวฟื้นคืนชีพ กรีฑาทัพนักเลือกตั้งเขายึดครองอำนาจรัฐอย่างเบ็ดเสร็จและพยายามสถาปนารัฐตำรวจขึ้นอีกครั้งหนึ่ง...จนมั่นใจในอำนาจเบ็ดเสร็จพยายามรุกไล่รื้อแก้รัฐธรรมนูญเพื่อปลดมนต์สะกดผีการเมือง ๑๑๑ ตัวและปลดปล่อยพญามารออกจากบ่วงกระบวนการยุติธรรม....

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงชักธงรบประกาศต้านการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเต็มกำลังเมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม หรือเมื่อ ๕๗ วันที่ผ่านมา...ด้วยความเร่งรีบและเป็นไปในสถานการณ์รุกรบ การตัดสินใจเคลื่อนพลพันธมิตรฯ ยุคที่ ๒ หรือ มหากาพย์การต่อสู้ของประชาชน Episode 2 จึงทำให้เกิดความลักหลั่น กลุ่ม ขบวน เครือข่าย เพื่อน พ้อง น้อง พี่ ....ที่ยังตามไม่ทันข่าวสารข้อมูล ตลอดจนบางส่วนที่มีปัญหาวิธีคิด ปัญหาเนื้อหา แนวทางการต่อสู้ ปัญหาการหวาดระแวงในแกนนำและการนำ ...ตั้งคำถามมากมาย และเงอะงะ งุ่มง่าม ละล้าละลัง อยู่ที่ชานชะลา...ขณะที่ขบวนรถไฟแห่งการต่อสู้ของประชาชนเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาสถานี.....

มีเพียงการนำ(หัวขบวน) กับโบกี้เดิมที่เคยอัดแน่นด้วยมวลชนก้าวหน้า หรือมวลชนจัดตั้งที่เคยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมรบมาด้วยกันเมื่อครั้งพันธมิตรยุค ๑ แต่ผู้คนที่ก้าวขึ้นเต็มโบกี้เดิมนี้ ล้วนเป็นคนหน้าใหม่ที่ดูสดใส สดชื่น คือพลเมืองผู้ตื่นรู้ (Active Citizens) ด้วยความมั่นใจยิ่งนัก เติมเต็มด้วยโบกี้ที่อัดแน่นด้วยกองทัพธรรม และตลอดขบวนสอดแซมด้วยคนเดือนตุลา และ หลากหลายสำนักนักสู้ผู้มุ่งมั่น ดำรงจุดมุ่งหมายในการต่อสู้กับความอยุติธรรม ที่แจ่มชัดในเป้าหมายของการเดินทางครั้งใหม่ร่วมขบวนมาด้วย...

การต่อสู้ที่ประดิยุทธ์กันอย่างเข้มข้น ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ในช่วงระยะ ๕๗ วันที่ผ่านมา ได้รังสรรค์คุณภาพใหม่ในการต่อสู้ของประชาชนอย่างน่าอัศจรรย์...มีการประเมินขุมพลังหลักของการต่อสู้ในขบวนใหม่ ด้วยมุมมองใหม่ ที่มองเห็นชนชั้นกลางจนถึงกลางสูงที่เป็นแก่นแกนหลักในการหนุนเนื่องการต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ต่อฟ้า ฝน พายุโหม แดดร้อนปานหัวแตก กิน นอน กลางถนนอย่างต่อเนื่องยาวนาน.....

เพียงเพราะพวกเขา เข้าถึงข่าวสารข้อมูล กับขีดความสามารถในการคิดใคร่ครวญ และเกิดความตระหนักรู้ นำสู่การตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้หนุนเนื่องกันเข้าสู่สมรภูมิอย่างทรงพลัง ไม่ขาดสาย....ทั้งยังเก็บรับ นวัตกรรมการต่อสู้แนวใหม่มากมาย ไม่ว่า...ม็อบออนไลน์ เชื่อมโยงเวทีกลางกับผู้คนมากมายนับแสนนับล้านแบบเรียลไทม์ ทั้งจากต่างประเทศ ต่างจังหวัด และต่างพื้นที่ในเขต กทม.....ยุทธการดาวกระจาย นัดหมาย ไปมา ไร้ร่องรอย....มหาวิทยาลัยราชดำเนิน ที่เปิดพรหมแดนแห่งการเรียนรู้การเมืองภาคพลเมือง ในท่ามกลางการต่อสู้...

หรือแม้การจัดการด้านความปลอดภัยแนวใหม่ สันติ อหิงสา แต่มีเขี้ยวเล็บแหลมคมในการปกป้องตนเอง...และการใช้ศิลปะ การแสดงที่มิเพียงรับใช้การต่อสู้ทางการเมืองเหมือนแต่เก่าก่อน แต่ยกระดับเป็นวัฒนธรรมใหม่ในการต่อสู้ของประชาชน ที่ร่าเริง เบิกบาน สดใส และ อิ่มบุญ....เป็นต้น.....

อย่างไรก็ตามแม้การเคลื่อนไหวมวลชนพลเมืองผู้เอาการเอางานขบวนนี้ จะสั่งสมชัยชนะในกรณีต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระยะแรก กรณีจักรภพ กรณีเขาพระวิหารและนพดล และประเด็นความสำเร็จปลีกย่อยอีกหลายสิบประเด็น นำสู่การยกระดับข้อเรียกร้องในการต่อสู้จากการต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ มาสู่การโค่นล้มรัฐบาลนอมินีสมัคร และหลังยุทธการ ๙ ทัพคราวยึดทำเนียบในกระแสสูงสุดของการต่อสู้ ที่ผ่านมา ด้วยการรวมพลของแกนนำ มีมวลชนตอบสนองนับแสนคนทำให้เงื่อนไขในการต่อสู้ทางการเมืองเพิ่มระดับข้อเรียกร้องทางการเมืองขึ้นสูงสู่ข้อเสนอว่าด้วยเป้าหมายและทิศทางการต่อสู้มุ่งสู่การสถาปนาการเมืองใหม่ในแนวทางประชาธิปไตยประชาชน.....

แต่จนแล้วจนรอด...เราก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามผ่าน "สมัคร" ซึ่งบอบช้ำทางการเมือง หมดความชอบธรรมทางการเมือง ในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งสิ้นไร้เกียรติยศ ศักดิ์ศรี อย่างถึงที่สุด อย่างไม่เคยปรากฏ พาน พบ มาก่อนในแวดวงการเมืองไทยทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา...ด้วยการยืนยันอย่างหน้าด้าน ตาใส ไร้ยางอาย ในการเกาะติดยึดเก้าอี้ ไม่ออก ไม่ปรับ ไม่ยุบ และกลับท้าทายขบวนพันธมิตรว่า"ใครจะอึดกว่ากัน?"...

แม้จะใช้กลยุทธ์ทางการเมือง การต่อสู้เกือบทุกรูปแบบเข้ากระหน่ำโจมตีทางการเมืองต่อ รัฐบาลนอมินีสมัคร อย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องนานเกือบ ๒ เดือนแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนขบวนพันธมิตรมิอาจพิชิตศึกสมัครได้โดยตรง...จนเมื่อถึงคราววาระที่ "ตุลาการภิวัฒน์" สำแดงพลานุภาพ ภายในช่วงเวลาไม่นาน สายฟ้ากระหน่ำฟาดลงกลางรัฐบาลสมัคร ในคดีศาลปกครองจัดการกับมติ ครม.อัปยศ ตามด้วยศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด รมต.ไชยา พ้นสมาชิกภาพ กรณีใบแดงยงยุทธ และยังตั้งแท่นขึ้นลำเต็มแม็กอีกชุดใหญ่ๆ ไม่ว่าที่ศาลยุติธรรม (คดีหมิ่นประมาท) ศาลรัฐธรรมนูญ (กรณียุบพรรค ฯลฯ) ปปช.(กรณีมติ ครม.เรื่องเขาพระวิหารไม่ผ่านสภาฯ) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง....อีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องทุจริตรถดับเพลิง ขยะ ชิมไปบ่นไปของสมัคร และคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินของทักษิณ-พจมาน และอีกหลายคดี ที่ คตส.ชงเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม....

จึงเห็นเป็นจุดตายของรัฐบาลนอมินีสมัคร และพญามารแห่งระบอบทักษิณ ที่กระบวนการตุลาการภิวัฒน์...ที่ขบวนพันธมิตรและมวลชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย ทั้งหลายทั้งปวงต้องลุกขึ้นร่วมสร้างกระแสใหญ่หนุนเนื่องแสดงพลังทั้งให้กำลังใจ และกดดันต่อการดำเนินการตุลาการภิวัฒน์ ให้บรรลุเป้าหมายในการทลายระบอบทักษิณให้สิ้นซากในที่สุด....

ทั้งขบวนการภาคประชาชนต้องพร้อมเตรียมการสำหรับการก้าวข้ามผ่านช่วงสุญญากาศทางการเมืองมุ่งมั่นสร้างสรรค์และสถาปนาการเมืองใหม่ประชาธิปไตยประชาชน สร้างหลักประกันชัยชนะของประชาชนอย่างยั่งยืน....

รวมพลัง รวมศูนย์พลังขับเคลื่อนอย่างเป็นเอกภาพ ร่วมกัน ชูคำขวัญ " โค่นรัฐบาลขายชาติ หนุนตุลาการภิวัฒน์ มุ่งสู่การเมืองใหม่ประชาธิปไตยประชาชน...”

เพื่อก้าวมั่นสู่ชัยชนะสำคัญของประชาชน !

………………………………….

ธงไท เทอดอุดม
๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑
กำลังโหลดความคิดเห็น