ผู้จัดการรายวัน – น้ำประปาไทย ลุ้นเข้าSET50 เชื่อดูดนักลงทุนไทย-ต่างชาติสนใจลงทุนมากขึ้น เตรียมเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศครึ่งปีหลัง 2 ครั้ง ส.ค. -ก.ย. ติดใจโรดโชว์ครั้งแรก ต่างชาติเก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพียบ ส่งผลสัดส่วนรายย่อยหด "สมโพธิ" ชี้ ฝรั่งซื้อสุทธิหุ้นบริษัท แม้จะขายหุ้นไทยต่อเนื่อง พร้อมเชื่อ เชื่อBECLยังไม่ปล่อยหุ้นบริษัท
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในการนำหุ้นของบริษัทไปคำนวนดัชนี ซึ่งบริษัทต้องการที่จะถูกนำไปคำนวณดัชนีSET 50 ซึ่งหากพิจารณาในด้านของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป)ของบริษัทซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับ 21,000 ล้านบาท ถือว่าเข้าเกณฑ์ที่จะนำไปคำนวณSET50
ทั้งนี้ จะต้องพิจารณาในเรื่องของปริมาณการซื้อขาย ซึ่งหากหุ้นของบริษัทได้ถูกนำไปคำนวณดัชนีSET 50 ย่อมส่งผลดี ทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้น เพราะ มีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศและในประเทศบางแห่งมีข้อจำกัดในการลงทุนที่ไม่ให้ลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้อยู่ในSET50
โดยบริษัทเตรียมที่จะไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่างประเทศในปีนี้อีก 2 ครั้ง ประมาณกลางเดือนสิงหาคมหลังจากที่งบการเงินของบริษัทไตรมาส2/51 เสร็จโดยจะเดินทางไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุนและกองทุนที่ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง และในช่วงเดือนกันยายนบริษัทจะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศแถบยุโรป และมีแผนที่จะไปหลายประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะไปประเทศใดบ้าง โดยเป็นการไปกับบริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นที่เสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ)
สำหรับในอนาคตบริษัทได้มีวางแผนที่จะมีการไปโรดโชว์ต่างประเทศปีละ 2 ครั้ง ในช่วงผลประกอบการงวดสิ้นปีเสร็จ ก็จะโรดโชว์ประมาณปลายกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม และอีกครั้งในช่วงงบครึ่งปีออกมาก็จะเดินทางไปช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี เพื่อเป็นการให้นักลงทุนต่างประเทศได้ทราบถึงการเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัทและทำให้นักลงทุนรู้จักบริษัทมากขึ้น และเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้นเช่นกัน
สำหรับจากการที่บริษัทได้มีการไปโรดโชว์ครั้งแรกของบริษัทหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เดือนมิถุนายนที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจเข้าลงทุนหุ้นของบริษัทจำนวนมาก ซึ่งทำให้สัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศของบริษัทเพิ่มขึ้น มากกว่าช่วงที่เสนอขายไอพีโอที่ถือ 20%โดยทำให้สัดส่วนนักลงทุนรายย่อยของบริษัทลดลงจากจากช่วงขายไอพีโออยู่ที่ 40%
นายสมโพธิ กล่าวต่อว่าการที่นักลงทุนต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทหลังจากการไปโรดโชว์ เพราะ ในช่วงที่บริษัทขายหุ้นไอพีโอนั้นไม่ได้เสนอขายแต่นักลงทุนในต่างประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศไม่ทราบข้อมูลของบริษัท แต่พอบริษัทไปโรดโชว์ทำให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถสอบถามข้อมูลแก่ผู้บริหารของบริษัทได้โดยตรงทำให้มีความมั่นใจ ซึ่งการไปโรดโชว์ครั้งนี้ไป 3 ประเทศ สิงคโปร์ ลอนดอน และสหรัฐอเมริกา พบผู้บริหารกองทุน 40 แห่ง รวมถึงหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานเติบโต และมีการจ่ายเงินปันผลที่มีดี
นายสมโพธิ กล่าวว่า จากการที่นักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทพบว่านักลงทุนต่างชาติมีการซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายของบริษัทก็ยังอยู่ในระดับที่สูงคือประมาณ 100 ล้านบาทต่อวัน โดยถือว่าเป็นของบริษัทเป็นที่สนใจของนักลงทุนเข้ามาซื้อขาย ซึ่งปกติหุ้นขนาดใหญ่ที่เข้าจดทะเบียนแล้วนักลงทุนรายย่อยจะไม่ค่อยเข้ามาซื้อขาย ทำให้ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 10 ล้านบาทต่อวัน
นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่าบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BECL ที่ถือหุ้นของบริษัทอยู่นั้น จะยังไม่มีการขายหุ้นของบริษัทออกมาในช่วงนี้ จากก่อนหน้านี้ที่มีแผนที่จะขายหุ้นออกมาจากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีและมีการจ่ายเงินปันผลที่ดี ซึ่งบริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในงวดปี 2550ในช่วงไตรมาส4/51 หลังจากที่บริษัทมีการชำระหนี้ระยะสั้น 3,000 ล้านบาท แก่สถาบันการเงินแล้ว
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในการนำหุ้นของบริษัทไปคำนวนดัชนี ซึ่งบริษัทต้องการที่จะถูกนำไปคำนวณดัชนีSET 50 ซึ่งหากพิจารณาในด้านของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป)ของบริษัทซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับ 21,000 ล้านบาท ถือว่าเข้าเกณฑ์ที่จะนำไปคำนวณSET50
ทั้งนี้ จะต้องพิจารณาในเรื่องของปริมาณการซื้อขาย ซึ่งหากหุ้นของบริษัทได้ถูกนำไปคำนวณดัชนีSET 50 ย่อมส่งผลดี ทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้น เพราะ มีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศและในประเทศบางแห่งมีข้อจำกัดในการลงทุนที่ไม่ให้ลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้อยู่ในSET50
โดยบริษัทเตรียมที่จะไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่างประเทศในปีนี้อีก 2 ครั้ง ประมาณกลางเดือนสิงหาคมหลังจากที่งบการเงินของบริษัทไตรมาส2/51 เสร็จโดยจะเดินทางไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุนและกองทุนที่ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง และในช่วงเดือนกันยายนบริษัทจะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศแถบยุโรป และมีแผนที่จะไปหลายประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะไปประเทศใดบ้าง โดยเป็นการไปกับบริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นที่เสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ)
สำหรับในอนาคตบริษัทได้มีวางแผนที่จะมีการไปโรดโชว์ต่างประเทศปีละ 2 ครั้ง ในช่วงผลประกอบการงวดสิ้นปีเสร็จ ก็จะโรดโชว์ประมาณปลายกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม และอีกครั้งในช่วงงบครึ่งปีออกมาก็จะเดินทางไปช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี เพื่อเป็นการให้นักลงทุนต่างประเทศได้ทราบถึงการเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัทและทำให้นักลงทุนรู้จักบริษัทมากขึ้น และเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้นเช่นกัน
สำหรับจากการที่บริษัทได้มีการไปโรดโชว์ครั้งแรกของบริษัทหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เดือนมิถุนายนที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจเข้าลงทุนหุ้นของบริษัทจำนวนมาก ซึ่งทำให้สัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศของบริษัทเพิ่มขึ้น มากกว่าช่วงที่เสนอขายไอพีโอที่ถือ 20%โดยทำให้สัดส่วนนักลงทุนรายย่อยของบริษัทลดลงจากจากช่วงขายไอพีโออยู่ที่ 40%
นายสมโพธิ กล่าวต่อว่าการที่นักลงทุนต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทหลังจากการไปโรดโชว์ เพราะ ในช่วงที่บริษัทขายหุ้นไอพีโอนั้นไม่ได้เสนอขายแต่นักลงทุนในต่างประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศไม่ทราบข้อมูลของบริษัท แต่พอบริษัทไปโรดโชว์ทำให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถสอบถามข้อมูลแก่ผู้บริหารของบริษัทได้โดยตรงทำให้มีความมั่นใจ ซึ่งการไปโรดโชว์ครั้งนี้ไป 3 ประเทศ สิงคโปร์ ลอนดอน และสหรัฐอเมริกา พบผู้บริหารกองทุน 40 แห่ง รวมถึงหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานเติบโต และมีการจ่ายเงินปันผลที่มีดี
นายสมโพธิ กล่าวว่า จากการที่นักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทพบว่านักลงทุนต่างชาติมีการซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายของบริษัทก็ยังอยู่ในระดับที่สูงคือประมาณ 100 ล้านบาทต่อวัน โดยถือว่าเป็นของบริษัทเป็นที่สนใจของนักลงทุนเข้ามาซื้อขาย ซึ่งปกติหุ้นขนาดใหญ่ที่เข้าจดทะเบียนแล้วนักลงทุนรายย่อยจะไม่ค่อยเข้ามาซื้อขาย ทำให้ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 10 ล้านบาทต่อวัน
นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่าบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BECL ที่ถือหุ้นของบริษัทอยู่นั้น จะยังไม่มีการขายหุ้นของบริษัทออกมาในช่วงนี้ จากก่อนหน้านี้ที่มีแผนที่จะขายหุ้นออกมาจากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีและมีการจ่ายเงินปันผลที่ดี ซึ่งบริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในงวดปี 2550ในช่วงไตรมาส4/51 หลังจากที่บริษัทมีการชำระหนี้ระยะสั้น 3,000 ล้านบาท แก่สถาบันการเงินแล้ว