ผู้จัดการรายวัน –“สนธิ” เดือดรัฐตำรวจรับใช้ระบอบทักษิณจัดการ “สมเกียรติ” ฉะที “ดาตอร์ปิโต” หมิ่นสถาบันไม่สนใจ พันธมิตรฯ ประกาศตั้ง “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” รวมพลัง ขรก.-ทหาร-ตร.ปกป้องชาติและราชบัลลังก์ “พล.อ.ปรีชา” นั่งประธานยันเชิญทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันช่วยชาติ 5 แกนนำพันธมิตรฯเตรียมส่งจดหมายด่วนถึงผู้ว่าฯ พร้อมผู้บังคับการตำรวจ 76 จังหวัด แจงจุดยืนไม่มีนโยบายยึดศาลากลางตามที่ "หมัก"โมเม ออกอากาศผ่านเอ็นบีที พร้อมเรียกร้องตำรวจทำหน้าที่ให้เข้มข้น หลังพันธมิตรฯ ตจว.โดนม็อบถ่อยตามรังควานไม่เลิก
วานนี้(20 ก.ค.)นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ กล่าวถึงความชั่วร้ายเลวทรามในการจาบจ้วงสถาบันของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” หนึ่งในกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปก.) ซึ่งได้ขึ้นพูดบนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 18 ก.ค. โดยปราศรัยหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ทั้งนี้ การที่ตนเองออกมากล่าวถึงเรื่องนี้เพราะต้องการปกป้องสถาบันสูงสุดของชาติ และมีหลักฐานเกี่ยวกับคำปราศรัยดังกล่าวเอาไว้หมดแล้ว โดยสัปดาห์หน้าตนเองจะเดินทางไปแจ้งความ น.ส.ดารณี ที่ สน.ชนะสงคราม
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวไม่มีนายตำรวจเข้าไปดูแลและรีบเร่งจัดการ ทั้งพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ขณะที่รีบเร่งดำเนินคดีกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
รวมพลัง ขรก.ตั้ง คกก.พลังแผ่นดิน
วานนี้(20 ก.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกประกาศฉบับที่5/2551 เรื่อ การจัดตั้ง “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” ความว่า ตามที่พันธมิตรประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทั่วประเทศ ได้ลุกขึ้นสู้เพื่อเอาประเทศไทยของเราคืนมา พิทักษ์ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โค่นระบอบทักษิณ และขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดนั้น ประชาชนวงการต่างๆ ได้เข้าร่วมการต่อสู้อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ
บัดนี้ ได้มี ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ และพนักงานของรัฐได้ก่อตัวขึ้นสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทุกส่วนราชการ ดังนั้น เพื่อให้การปรับขบวนการต่อสู้ให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นความจำเป็นที่จะต้องจัดให้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดังนี้
1. “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้มีองค์ประกอบของข้าราชการทั้งในและนอกราชการ ตลอดจนพนักงานของรัฐ ซึ่งประกอบไปด้วย ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานของรัฐ และอาสาสมัคร
2. “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” มีอุดมการณ์สืบสานเจตนารมณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในส่วนของการปกป้องราชบัลลังก์ รักษาพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ปกป้องเอกราชและอาณาเขต และรักษาผลประโยชน์ของชาติ
3. “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีภารกิจดังต่อไปนี้
3.1 ขยายพันธมิตรเครือข่ายในส่วนของข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และพนักงานของรัฐทั้งในประจำการและนอกประจำการ ตลอดจนอาสาสมัครให้มากที่สุด
3.2 เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร แก่ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และพนักงานของรัฐทั้งในประจำการและนอกประจำการให้กว้างขวางมากที่สุด
3.3 ช่วยปกป้องดูแลประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ให้มีความปลอดภัยในร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน ตลอดจนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกรูปแบบ
3.4 แจ้งข้อมูลข่าวสาร การขายชาติ การทุจริต และการเคลื่อนไหวของพวกขายชาติ และพวกฉ้อโกงชาติ แก่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้งแจ้งกำหนดการเคลื่อนไหวให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ทราบทุกระยะ
3.5 กระทำการอารยะขัดขืนในหน่วยงานราชการ และองค์กรของรัฐต่อฝ่ายการเมืองที่ฉ้อฉล และเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3.6 ค้นคว้าและเสนอแนะการพัฒนา แก้ไขหน่วยงานในสังกัด จัดเตรียมรายชื่อบุคลากรที่เป็นคนดีมีฝีมือ ในหน่วยงานเพื่อส่งเสริมให้มีอำนาจในบ้านเมืองในอนาคต
3.7 สนับสนุนการเมืองใหม่ที่ให้ความสุข ความยุติธรรม กับประชาชนชาวไทย ให้เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตลอดไป
4.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีมติเรียนเชิญ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เป็น “ประธานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน” พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อดำเนินการตามอุดมการณ์และภารกิจข้างต้น และมอบหมายให้เชิญบุคลากรที่เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถเข้าร่วมกับ “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” ต่อไป
ยันมีชื่อ คกก.ในใจแล้ว
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดตั้งคณะกรรมการพลังแผ่นดินว่า เนื่องจากพันธมิตรฯ มีจุดอ่อนการประสานกับข้าราชการ จึงเชิญ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ มาช่วยทำหน้าที่ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำพันธมิตรฯในต่างจังหวัดด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ปรีชา เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ มีเกียรติประวัติดีงามมาตลอด
ด้าน พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ในฐานะประธาฯกล่าวว่า จะเชิญข้าราชการทุกคนและทุกภาคส่วนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันรักษาพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์มาทำงานร่วมกัน ซึ่งขณะนี้มีบุคคลอยู่ในใจแล้ว แต่ยังบอกไม่ได เพราะจะเสียมารยาท เนื่องจากยังรับราชการอยู่
ซัด 6 มาตรการซื้อเสียงล่วงหน้า
วันเดียวกัน หลังจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ออกรายงานสนทนาประสมัคร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ได้ขึ้นเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์เพื่อตอบโต้ทันที
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวถึงมาตรการ 6 เดือนของรัฐบาลว่า รัฐบาลหุ่นเชิดอ้างโพล 66%ว่าเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ทั้งที่จริงเป็นวิธีการหาเสียงซื้อเสียงล่วงหน้าไม่เคยคิดถึงประชาชน เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดอยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ ขายประเทศ การออกมาตรการ 6 เดือนของรัฐบาล ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เพราะราคาสินค้าได้ขึ้นไปหมดแล้ว
“เป็นวิชามารมาจากระบอบทักษิณ เรื่องนี้เป็นการคอร์รัปชันซื้อเสียงล่วงหน้า ไม่ใช่นโยบายประชานิยม เป็นทุนนิยมสามานย์ โกงกินให้พรรคพวก เอาประชาชนเป็นเหยื่อให้ติดเบ็ด นักวิชาการบางคนก็หลงประเด็นว่าเป็นนโยบายประชานิยม แต่ไม่ใช่ เพราะเอาภาษีประชาชนไปใช้ทั้งนั้น วันนี้ไม่มีแล้วมีแต่พวกอันธพาลครองเมือง รัฐบาลหุ่นเชิดใกล้จะตายแล้ว”
ฟาดหัวฟาดหางเล่นงาน ศาล-ป.ป.ช
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาปราสาทพระวิหารว่า รัฐบาลชุดนี้โกงกินข้ามชาติ เอาปราสาทพระวิหารไปแลกกับเกาะกง นายสมัครดีแต่พูดว่าไทยเสียปราสาทพระวิหารไปตั้งแต่ 46 ปีแล้ว วันนี้คนไทยที่จงรักภักดีลุกขึ้นมาทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 71 เขาไปประท้วง เพราะรัฐบาลไม่รักษาผลประโยชน์ประเทศ แต่ยังมีหน้ายังมาบอกคนไทยทะเลาะกันเอง เขมรนั่งหัวเราะ นายสมัครก็คนเขมรไม่ใช่หรือ ถึงไปยกปราสาทพระวิหารให้เขมร
ส่วนที่บอกว่าจะเอาอะไรกันนักกันหนา ก็แค่นายสมัคร ต้องถูกจำคุกตลอดและชีวิตประหารชีวิต ซึ่งตอนนี้นายสมัครยอมรับทำผิดแล้วแต่จะไม่ยอมเข้าคุกที่ไปยกอธิปไตยไปให้กัมพูชาเพราะเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบทำให้ชาติเสียอธิปไตย ต้องได้รับโทษ โดยพันธมิตรได้ไปยื่นเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช.หาก ป.ช.ป.ชี้ว่ามีมูล นายสมัครและ ครม.จะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันที รัฐบาลหุ่นเชิดจึงพยายามจะหาทางถอด ป.ป.ช.ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยอ้างว่าไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ
ที่สำคัญคือ กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 299 และ 309 ได้รับรององค์กรอิสระไว้ แต่รัฐบาลยังไปกล่าวหา ป.ป.ช.ไม่ได้รับการโปรดเกล้า ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่จำเป็นต้องถวายสัตย์ฯ แต่ครม.ที่ถวายสัตย์ฯแล้วไม่ทำตาม ถือเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น การทำสัญญาข้อตกลงใดๆ กับต่างชาติต้องโมฆะไปด้วย รัฐบาลหุ่นเชิดตกเป็นเหยื่อฮุนเซน เมื่อผู้ปกครองกลายเป็นผู้ถูกปกครองเราต้องมาไล่รัฐบาลออกไปให้เร็วที่สุด เพราะไม่มีคุณสมบัติทุกอย่างเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้นแล้ว
ฉะพลิกลิ้นปราสาทพระวิหาร
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์กล่าวถึงกรณีปราสาทพระวิหารว่า ที่ผ่านมาพันธมิตรฯยื่นเรื่องคัดค้านมาโดยตลอด แต่รัฐบาลนี้ไม่เคยคัดค้านเลย มีแต่พูดหนุนส่ง วันนี้มาพูดได้ยังไงว่าคัดค้าน นายสมัครด่าแม้กระทั่งพระภิกษุด่าว่าไอ้บ้า 3 คน แต่ทีมีการเอาโจรกระจอกหมดอายุมาออกช่อง5 กลับ ไม่กล้าด่าว่าไอ้บ้า พล.อ.เตีย บัญ มาเจรจากับไทย เพราะเห็นว่ากองทัพไทยจะบดขยี้แล้ว นายกฯยังมีหน้ามาด่าว่าคนไทยล่อฟัดกันเอง
“ตอนนี้นายสมัครไม่กล้าสบตาคนไทยแล้ว เคยยืนยันว่าเราไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว แต่ทำไมทำหนังสือทักท้วงไปเขมรว่ารุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ตอนนี้นายสมัครออกอาการสติแตกไปแล้ว กล่าวหาพันธมิตรฯ จะยึดศาลากลางให้ทหารมาปฏิวัติ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะพันธมิตรฯดาวกระจายอยู่ในกทม.ไม่มีไม่เคยมีนโยบายจะไปดาวกระจายต่างจังหวัด มีแต่บอกให้มาชุมนุมที่นี่
ส่งจม.ถึงผู้ว่าฯ ยันไม่ยึดศาลากลาง
นายพิภพ ธงไชย กล่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนจะร่วมลงชื่อเพื่อส่งจดหมายไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าสถานีตำรวจทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และสิทธิของประชาชนในการชุมนุมโดยสงบและเป็นไปอย่างสันติออกแจกจ่าย โดยขอยืนยันว่าปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของตำรวจและฝ่ายปกครองที่จะต้องเข้าไปทำหน้าที่ดูแลให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าของประชาชน
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มงวด เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความหวั่นไหว แต่อย่าทำให้ไทยถูกมองว่า อ่อนแอ ดังนั้น ผู้ที่มาทำหน้าที่ทั้งทูตที่ประจำอยู่ที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ ต้องมีความเข้มแข็ง เด็ดขาดและเก่ง
นายพิภพ ยืนยันว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้เป็นคนสั่งให้ประชาชนไปชุมนุมอยู่ที่ปราสาทพระวิหาร แต่เป็นการเดินทางไปของประชาชนที่หวงแหนอธิปไตย ดังนั้น อยากฝากเตือนนักการเมืองท้องถิ่นที่นำคนออกมาต่อต้าน จนเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างคนไทยด้วยกัน รัฐบาลควรนำประเด็นที่มีการชุมนุมของประชาชนมาเป็นประโยชน์ในการต่อสู้เพื่อทวงแผ่นดินคืนดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ประเมินสถานการณ์หรือไม่หลังกัมพูชายื่นหนังสือร้องต่อยูเอ็นกรณีไทยบุกรุกดินแดน นายพิภพ กล่าวว่า ให้มองในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยประเทศไทยจะได้นำแผนที่ตามแนวสันปันน้ำไปชี้แจงข้อเท็จจริงให้ถูกต้องและให้นานาประเทศเข้าใจ เพื่อยืนยันหากยึดตามแนวสันปันน้ำ พื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของไทยอย่างแน่นอน แต่ที่ผ่านมาเข้าใจผิด เพราะได้หยิบแผนที่ของประเทศฝรั่งเศสในยุคที่มีการล่าอาณานิคมขึ้นมากล่าวอ้าง ดังนั้น รัฐบาลต้องเตรียมตัวเรื่องนี้ให้พร้อม
นายพิภพ กล่าวอีกว่า การที่ประชาชนชาวกัมพูชาสามารถเข้ามาอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรได้ สืบเนื่องมาจาการที่สมัยรัฐบาลทักษิณ ที่ยินยอมในเรื่องดังกล่าว เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้จะลามไปถึงต่างประเทศ และไทยอาจจะแพ้เกมของเขมรอีก และยิ่งเป็นรัฐบาลชุดนี้จะทำให้ยิ่งแพ้ เนื่องจากไม่มีศักยภาพ พอที่รักษาดินแดนไทย โดยพิสูจน์ได้จากกรณีของ นายนพดล ปัทมะ เป็นต้น
"เราต้องเริ่มตั้งแต่สมัย พล.อ.ชวลิต เป็นผบ.ทบ. และนายกฯ ซึ่งจะต้องมาตอบปัญหาในเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าความผิดอยู่ที่ใครรัฐบาลนี้ต้องแก้ปัญหา แต่ที่ยังไม่ทำเพราะมันต้องการประโยชน์เพื่อตนเอง และพวกพ้องที่เขาประกาศตัวว่าเป็นนอมินีของทักษิณ และพรรคไทยรักไทย โดยเราต้องยืนยันให้ชัดเจน และต้องสู้ให้ถึงที่สุดในการเปิดโปงเรื่องต่างๆ รวมถึงการที่ฝรั่งเศสทำแผนที่ด้วยตนเองตั้งแต่ตน และเราจะต้องเปิดโปงทั้งหมดนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลกอีก"นายพิภพกล่าว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการข้างตนในการเปิดโปงเรื่องต่างๆ และนำเขาพระวิหารกลับมาเป็นของประเทศไทยคงจะต้องทำในรัฐบาลชุดต่อไป เพราะรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สนใจเรื่องอื่น นอกจาเรื่องของตัวเองสังเกตได้จาการที่รัฐบาลพยายามแก้รัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 21 ก.ค. พันธมิตรฯ จะส่งจดหมายด่วนพิเศษ(อีเอ็มเอส) ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และผู้บังคับการตำรวจทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงจุดยืนของพันธมิตรฯ ว่าไม่มีนโยบายยึดศาลากลางจังหวัดตามที่นาสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้างผ่านรายการ"สนทนาประสาสมัคร" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที (ช่อง 11)
นอกจากนี้ พันธมิตรฯ ยังได้เรียกร้องให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นในการรักษากฎหมาย เนื่องจากในระยะนี้เมื่อพันธมิตรฯ ออกไปจัดเวทีในต่างจังหวัด ได้มีการจัดตั้งกลุ่มต่อต้านมาปะทะกับพันธมิตรฯ จำนวนมาก หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. จะนำสำเนาจดหมายดังกล่าวมาแจกต่อสื่อมวลชน
วานนี้(20 ก.ค.)นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ กล่าวถึงความชั่วร้ายเลวทรามในการจาบจ้วงสถาบันของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” หนึ่งในกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปก.) ซึ่งได้ขึ้นพูดบนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 18 ก.ค. โดยปราศรัยหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ทั้งนี้ การที่ตนเองออกมากล่าวถึงเรื่องนี้เพราะต้องการปกป้องสถาบันสูงสุดของชาติ และมีหลักฐานเกี่ยวกับคำปราศรัยดังกล่าวเอาไว้หมดแล้ว โดยสัปดาห์หน้าตนเองจะเดินทางไปแจ้งความ น.ส.ดารณี ที่ สน.ชนะสงคราม
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวไม่มีนายตำรวจเข้าไปดูแลและรีบเร่งจัดการ ทั้งพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ขณะที่รีบเร่งดำเนินคดีกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
รวมพลัง ขรก.ตั้ง คกก.พลังแผ่นดิน
วานนี้(20 ก.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกประกาศฉบับที่5/2551 เรื่อ การจัดตั้ง “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” ความว่า ตามที่พันธมิตรประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทั่วประเทศ ได้ลุกขึ้นสู้เพื่อเอาประเทศไทยของเราคืนมา พิทักษ์ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โค่นระบอบทักษิณ และขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดนั้น ประชาชนวงการต่างๆ ได้เข้าร่วมการต่อสู้อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ
บัดนี้ ได้มี ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ และพนักงานของรัฐได้ก่อตัวขึ้นสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทุกส่วนราชการ ดังนั้น เพื่อให้การปรับขบวนการต่อสู้ให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นความจำเป็นที่จะต้องจัดให้มีการจัดตั้ง “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดังนี้
1. “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้มีองค์ประกอบของข้าราชการทั้งในและนอกราชการ ตลอดจนพนักงานของรัฐ ซึ่งประกอบไปด้วย ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานของรัฐ และอาสาสมัคร
2. “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” มีอุดมการณ์สืบสานเจตนารมณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในส่วนของการปกป้องราชบัลลังก์ รักษาพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ปกป้องเอกราชและอาณาเขต และรักษาผลประโยชน์ของชาติ
3. “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีภารกิจดังต่อไปนี้
3.1 ขยายพันธมิตรเครือข่ายในส่วนของข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และพนักงานของรัฐทั้งในประจำการและนอกประจำการ ตลอดจนอาสาสมัครให้มากที่สุด
3.2 เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร แก่ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และพนักงานของรัฐทั้งในประจำการและนอกประจำการให้กว้างขวางมากที่สุด
3.3 ช่วยปกป้องดูแลประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ให้มีความปลอดภัยในร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน ตลอดจนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกรูปแบบ
3.4 แจ้งข้อมูลข่าวสาร การขายชาติ การทุจริต และการเคลื่อนไหวของพวกขายชาติ และพวกฉ้อโกงชาติ แก่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้งแจ้งกำหนดการเคลื่อนไหวให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ทราบทุกระยะ
3.5 กระทำการอารยะขัดขืนในหน่วยงานราชการ และองค์กรของรัฐต่อฝ่ายการเมืองที่ฉ้อฉล และเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3.6 ค้นคว้าและเสนอแนะการพัฒนา แก้ไขหน่วยงานในสังกัด จัดเตรียมรายชื่อบุคลากรที่เป็นคนดีมีฝีมือ ในหน่วยงานเพื่อส่งเสริมให้มีอำนาจในบ้านเมืองในอนาคต
3.7 สนับสนุนการเมืองใหม่ที่ให้ความสุข ความยุติธรรม กับประชาชนชาวไทย ให้เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตลอดไป
4.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีมติเรียนเชิญ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เป็น “ประธานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน” พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อดำเนินการตามอุดมการณ์และภารกิจข้างต้น และมอบหมายให้เชิญบุคลากรที่เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถเข้าร่วมกับ “คณะกรรมการพลังแผ่นดิน” ต่อไป
ยันมีชื่อ คกก.ในใจแล้ว
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดตั้งคณะกรรมการพลังแผ่นดินว่า เนื่องจากพันธมิตรฯ มีจุดอ่อนการประสานกับข้าราชการ จึงเชิญ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ มาช่วยทำหน้าที่ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำพันธมิตรฯในต่างจังหวัดด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ปรีชา เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ มีเกียรติประวัติดีงามมาตลอด
ด้าน พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ในฐานะประธาฯกล่าวว่า จะเชิญข้าราชการทุกคนและทุกภาคส่วนที่มีอุดมการณ์ร่วมกันรักษาพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์มาทำงานร่วมกัน ซึ่งขณะนี้มีบุคคลอยู่ในใจแล้ว แต่ยังบอกไม่ได เพราะจะเสียมารยาท เนื่องจากยังรับราชการอยู่
ซัด 6 มาตรการซื้อเสียงล่วงหน้า
วันเดียวกัน หลังจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ออกรายงานสนทนาประสมัคร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ได้ขึ้นเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์เพื่อตอบโต้ทันที
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวถึงมาตรการ 6 เดือนของรัฐบาลว่า รัฐบาลหุ่นเชิดอ้างโพล 66%ว่าเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ทั้งที่จริงเป็นวิธีการหาเสียงซื้อเสียงล่วงหน้าไม่เคยคิดถึงประชาชน เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดอยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ ขายประเทศ การออกมาตรการ 6 เดือนของรัฐบาล ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เพราะราคาสินค้าได้ขึ้นไปหมดแล้ว
“เป็นวิชามารมาจากระบอบทักษิณ เรื่องนี้เป็นการคอร์รัปชันซื้อเสียงล่วงหน้า ไม่ใช่นโยบายประชานิยม เป็นทุนนิยมสามานย์ โกงกินให้พรรคพวก เอาประชาชนเป็นเหยื่อให้ติดเบ็ด นักวิชาการบางคนก็หลงประเด็นว่าเป็นนโยบายประชานิยม แต่ไม่ใช่ เพราะเอาภาษีประชาชนไปใช้ทั้งนั้น วันนี้ไม่มีแล้วมีแต่พวกอันธพาลครองเมือง รัฐบาลหุ่นเชิดใกล้จะตายแล้ว”
ฟาดหัวฟาดหางเล่นงาน ศาล-ป.ป.ช
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาปราสาทพระวิหารว่า รัฐบาลชุดนี้โกงกินข้ามชาติ เอาปราสาทพระวิหารไปแลกกับเกาะกง นายสมัครดีแต่พูดว่าไทยเสียปราสาทพระวิหารไปตั้งแต่ 46 ปีแล้ว วันนี้คนไทยที่จงรักภักดีลุกขึ้นมาทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 71 เขาไปประท้วง เพราะรัฐบาลไม่รักษาผลประโยชน์ประเทศ แต่ยังมีหน้ายังมาบอกคนไทยทะเลาะกันเอง เขมรนั่งหัวเราะ นายสมัครก็คนเขมรไม่ใช่หรือ ถึงไปยกปราสาทพระวิหารให้เขมร
ส่วนที่บอกว่าจะเอาอะไรกันนักกันหนา ก็แค่นายสมัคร ต้องถูกจำคุกตลอดและชีวิตประหารชีวิต ซึ่งตอนนี้นายสมัครยอมรับทำผิดแล้วแต่จะไม่ยอมเข้าคุกที่ไปยกอธิปไตยไปให้กัมพูชาเพราะเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบทำให้ชาติเสียอธิปไตย ต้องได้รับโทษ โดยพันธมิตรได้ไปยื่นเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช.หาก ป.ช.ป.ชี้ว่ามีมูล นายสมัครและ ครม.จะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันที รัฐบาลหุ่นเชิดจึงพยายามจะหาทางถอด ป.ป.ช.ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยอ้างว่าไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ
ที่สำคัญคือ กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 299 และ 309 ได้รับรององค์กรอิสระไว้ แต่รัฐบาลยังไปกล่าวหา ป.ป.ช.ไม่ได้รับการโปรดเกล้า ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่จำเป็นต้องถวายสัตย์ฯ แต่ครม.ที่ถวายสัตย์ฯแล้วไม่ทำตาม ถือเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น การทำสัญญาข้อตกลงใดๆ กับต่างชาติต้องโมฆะไปด้วย รัฐบาลหุ่นเชิดตกเป็นเหยื่อฮุนเซน เมื่อผู้ปกครองกลายเป็นผู้ถูกปกครองเราต้องมาไล่รัฐบาลออกไปให้เร็วที่สุด เพราะไม่มีคุณสมบัติทุกอย่างเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้นแล้ว
ฉะพลิกลิ้นปราสาทพระวิหาร
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์กล่าวถึงกรณีปราสาทพระวิหารว่า ที่ผ่านมาพันธมิตรฯยื่นเรื่องคัดค้านมาโดยตลอด แต่รัฐบาลนี้ไม่เคยคัดค้านเลย มีแต่พูดหนุนส่ง วันนี้มาพูดได้ยังไงว่าคัดค้าน นายสมัครด่าแม้กระทั่งพระภิกษุด่าว่าไอ้บ้า 3 คน แต่ทีมีการเอาโจรกระจอกหมดอายุมาออกช่อง5 กลับ ไม่กล้าด่าว่าไอ้บ้า พล.อ.เตีย บัญ มาเจรจากับไทย เพราะเห็นว่ากองทัพไทยจะบดขยี้แล้ว นายกฯยังมีหน้ามาด่าว่าคนไทยล่อฟัดกันเอง
“ตอนนี้นายสมัครไม่กล้าสบตาคนไทยแล้ว เคยยืนยันว่าเราไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว แต่ทำไมทำหนังสือทักท้วงไปเขมรว่ารุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ตอนนี้นายสมัครออกอาการสติแตกไปแล้ว กล่าวหาพันธมิตรฯ จะยึดศาลากลางให้ทหารมาปฏิวัติ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะพันธมิตรฯดาวกระจายอยู่ในกทม.ไม่มีไม่เคยมีนโยบายจะไปดาวกระจายต่างจังหวัด มีแต่บอกให้มาชุมนุมที่นี่
ส่งจม.ถึงผู้ว่าฯ ยันไม่ยึดศาลากลาง
นายพิภพ ธงไชย กล่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนจะร่วมลงชื่อเพื่อส่งจดหมายไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าสถานีตำรวจทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และสิทธิของประชาชนในการชุมนุมโดยสงบและเป็นไปอย่างสันติออกแจกจ่าย โดยขอยืนยันว่าปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของตำรวจและฝ่ายปกครองที่จะต้องเข้าไปทำหน้าที่ดูแลให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าของประชาชน
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มงวด เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความหวั่นไหว แต่อย่าทำให้ไทยถูกมองว่า อ่อนแอ ดังนั้น ผู้ที่มาทำหน้าที่ทั้งทูตที่ประจำอยู่ที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ ต้องมีความเข้มแข็ง เด็ดขาดและเก่ง
นายพิภพ ยืนยันว่า แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้เป็นคนสั่งให้ประชาชนไปชุมนุมอยู่ที่ปราสาทพระวิหาร แต่เป็นการเดินทางไปของประชาชนที่หวงแหนอธิปไตย ดังนั้น อยากฝากเตือนนักการเมืองท้องถิ่นที่นำคนออกมาต่อต้าน จนเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างคนไทยด้วยกัน รัฐบาลควรนำประเด็นที่มีการชุมนุมของประชาชนมาเป็นประโยชน์ในการต่อสู้เพื่อทวงแผ่นดินคืนดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ประเมินสถานการณ์หรือไม่หลังกัมพูชายื่นหนังสือร้องต่อยูเอ็นกรณีไทยบุกรุกดินแดน นายพิภพ กล่าวว่า ให้มองในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยประเทศไทยจะได้นำแผนที่ตามแนวสันปันน้ำไปชี้แจงข้อเท็จจริงให้ถูกต้องและให้นานาประเทศเข้าใจ เพื่อยืนยันหากยึดตามแนวสันปันน้ำ พื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของไทยอย่างแน่นอน แต่ที่ผ่านมาเข้าใจผิด เพราะได้หยิบแผนที่ของประเทศฝรั่งเศสในยุคที่มีการล่าอาณานิคมขึ้นมากล่าวอ้าง ดังนั้น รัฐบาลต้องเตรียมตัวเรื่องนี้ให้พร้อม
นายพิภพ กล่าวอีกว่า การที่ประชาชนชาวกัมพูชาสามารถเข้ามาอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรได้ สืบเนื่องมาจาการที่สมัยรัฐบาลทักษิณ ที่ยินยอมในเรื่องดังกล่าว เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้จะลามไปถึงต่างประเทศ และไทยอาจจะแพ้เกมของเขมรอีก และยิ่งเป็นรัฐบาลชุดนี้จะทำให้ยิ่งแพ้ เนื่องจากไม่มีศักยภาพ พอที่รักษาดินแดนไทย โดยพิสูจน์ได้จากกรณีของ นายนพดล ปัทมะ เป็นต้น
"เราต้องเริ่มตั้งแต่สมัย พล.อ.ชวลิต เป็นผบ.ทบ. และนายกฯ ซึ่งจะต้องมาตอบปัญหาในเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าความผิดอยู่ที่ใครรัฐบาลนี้ต้องแก้ปัญหา แต่ที่ยังไม่ทำเพราะมันต้องการประโยชน์เพื่อตนเอง และพวกพ้องที่เขาประกาศตัวว่าเป็นนอมินีของทักษิณ และพรรคไทยรักไทย โดยเราต้องยืนยันให้ชัดเจน และต้องสู้ให้ถึงที่สุดในการเปิดโปงเรื่องต่างๆ รวมถึงการที่ฝรั่งเศสทำแผนที่ด้วยตนเองตั้งแต่ตน และเราจะต้องเปิดโปงทั้งหมดนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลกอีก"นายพิภพกล่าว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการข้างตนในการเปิดโปงเรื่องต่างๆ และนำเขาพระวิหารกลับมาเป็นของประเทศไทยคงจะต้องทำในรัฐบาลชุดต่อไป เพราะรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สนใจเรื่องอื่น นอกจาเรื่องของตัวเองสังเกตได้จาการที่รัฐบาลพยายามแก้รัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 21 ก.ค. พันธมิตรฯ จะส่งจดหมายด่วนพิเศษ(อีเอ็มเอส) ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และผู้บังคับการตำรวจทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงจุดยืนของพันธมิตรฯ ว่าไม่มีนโยบายยึดศาลากลางจังหวัดตามที่นาสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้างผ่านรายการ"สนทนาประสาสมัคร" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที (ช่อง 11)
นอกจากนี้ พันธมิตรฯ ยังได้เรียกร้องให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นในการรักษากฎหมาย เนื่องจากในระยะนี้เมื่อพันธมิตรฯ ออกไปจัดเวทีในต่างจังหวัด ได้มีการจัดตั้งกลุ่มต่อต้านมาปะทะกับพันธมิตรฯ จำนวนมาก หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. จะนำสำเนาจดหมายดังกล่าวมาแจกต่อสื่อมวลชน