"อนุพงษ์"ยันไม่เจรจากลุ่มป่วนใต้ ระบุเป็นพวกอาชญากรที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ย้ำกองทัพไม่รู้เรื่องที่"เชษฐา"ไปเจรจากลุ่มใต้ดินฯ และไม่จำเป็นต้องสอบผู้บริหารช่อง5 ที่นำเทปมาเผยแพร่ อ้างเป็นการทำหน้าที่ของสื่อ " ชวน" เตือนจนท.และประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น หากการประกาศหยุดยิงของกลุ่มโจรเป็น"ของเก๊" จี้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัด ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงยังไม่ยุติ ตามคำประกาศ ล่าสุดยังมีคนร้ายซุ่มยิงชาวบ้านยะลาเจ็บอีก 1 ราย
เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณี พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรมว.กลาโหม ได้นำเทปคำประกาศยุติการก่อเหตุของหัวหน้ากลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย มาเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 5 ว่า ในฐานะที่เป็นข้าราชการของรัฐ คงไม่สามารถไปเจรจาได้กับคนกลุ่มนี้ได้ เพราะเป็นบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายของราชอาณาจักรไทย ในหลายกรรม หลายวาระ ถือเป็นอาชญากรที่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่จะไปเจรจากันได้
ทั้งนี้ กองทัพไม่ได้รับรู้เรื่องที่ พล.อ.เชษฐาไปเจรจากับคนกลุ่มนี้ ตนก็ไม่ได้ดูเทปชุดนี้ก่อนที่จะมีการออกอากาศ เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นเพียงแถลงการณ์ ไม่คิดว่าจะเป็นเทปบันทึกภาพ และเมื่อมีการออกอากาศไปแล้วตนก็ยังไม่ได้คุยกับพล.อ.เชษฐา ส่วนกับนายกรัฐมนตรีนั้น ตนได้เรียนท่านไปเพียงคร่าวๆ ซึ่งท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร และท่านก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน รวมทั้งคนในกองทัพด้วย
พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ยังเป็นปกติคือ ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เหตุการณ์จะยุติลงหรือไม่ ทั้งนี้จะไม่มีการปรับเปลี่ยนแนวทางในการแก้ไขปัญหาภาคใต้แต่อย่างใด
ป้อง ททบ.5 แพร่เทป ทำหน้าที่สื่อ
เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบหรือไม่ว่ามีนายทหารคนใดเข้าไปช่วยเหลือ พล.อ.เชษฐา หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เราไม่ตรวจสอบ แต่คงจะดูรายละเอียดจากท่านเท่านั้น คงไม่อะไร และท่านคงจะมีความปรารถนาดีที่จะช่วยเหลือบ้านเมือง และถ้าเป็นไปได้โดยไม่มีเงื่อนไขอะไร และไม่มีวาระแอบแฝงก็คงเป็นเรื่องดี ซึ่งหากท่านเชื่อมั่นทำเช่นนั้น คงไม่เป็นอะไรมาก
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า ทั้ง 3 คน ไม่ใช่แกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า"ผมไม่ยืนยัน ผมทราบเพียงว่า เคยมีความเคลื่อนไหวอยู่ และหยุดเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 30 แต่จะเป็นตัวแทนหรือได้รับฉันทานุมัติอย่างไร ผมไม่ทราบทั้งสิ้น แต่เรามีข้อมูลว่า แกนนำในการก่อเหตุขณะนี้เป็นใคร แต่ไม่ได้รู้ละเอียดทุกๆคน" ผบ.ทบ. กล่าว
เมื่อถามว่า ทาง ททบ.5 แจ้งให้ทราบก่อนที่จะมีการออกอากาศหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตอนที่ออกอากาศถือว่า เขาทำหน้าสื่อ จึงไม่ได้ถือว่าเป็นข้อผิดพลาดอะไร เมื่อถามว่า ททบ.5 ควรประสานมายังกองทัพก่อนออกอากาศหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ท่านเป็นนายทหารผู้ใหญ่ จึงไม่ได้ไปเพ่งเล็งถึงขนาดว่าต้องทำอะไร อย่างไร เรื่องออกอากาศไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะทุกช่องออกตามกันหมด
"บิ๊กบัง"ไม่รู้จักกลุ่มที่ประกาศหยุดยิง
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. และอดีตประธาน คมช. เปิดเผยว่า จากการที่ตนเองได้ทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มาเป็นเวลามานาน ตนเองไม่รู้สึกคุ้น หรือรู้จักกับกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเองว่าเป็นกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย โดยเบื้องต้นคาดว่า จะเป็นบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศมากกว่า เพราะเท่าที่ได้สอบถามไปทางประชาชนในพื้นที่ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้จัก ส่วนถ้อยแถลงดังกล่าวจะปรากฏผลจริงตามที่ประกาศไว้หรือไม่นั้น คงยังไม่สามารถตอบได้ เพราะคงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่หากเป็นจริงได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
เมื่อถามว่า การดำเนินการของ พล.อ.เชษฐา จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้หรือไม่นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คงจะไม่มีผลอะไร เพราะ พล.อ.เชษฐา ยืนยันแล้วว่าได้ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางราชการ อีกทั้งที่ผ่านมากลุ่มก่อความไม่สงบต่างๆ ในพื้นที่เองก็พยายามดึงองค์กรจากภายนอกประเทศให้ช่วยเป็นตัวกลางประสานเข้ามาพูดคุยแบบไม่เป็นทางการกับทางราชการหลายครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้ ซึ่งในกรณีของ พล.อ.เชษฐานั้น ก็คงจะไม่ต่างกันแต่อย่างใดที่พยายามเปิดโต๊ะเจรจากันนอกรอบ
"พัลลภ" จี้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจน
ด้าน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.รมน. กล่าวว่า เรื่องนี้มันผิดปกติ เนื่องจากการประกาศไม่เปิดเผยชื่อ และตำแหน่งที่ชัดเจน ทั้งนี้การประกาศครั้งนี้ตนมองว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ และไม่มีเงื่อนไข ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะเป็นการยกระดับกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การประชุมมุสลิมโลก หรือ โอไอซี (OIC) เพราะจะเข้าเงื่อนไขการเปิดเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มก่อความไม่สงบ เนื่องจาก พล.อ.เชษฐา เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะทำให้ถูกนำไปกล่าวอ้าง
นอกจากนี้ การเผยแพร่ภาพ ยังทำเฉพาะทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่ง เป็นสื่อของรัฐที่มีเครือข่ายในหลายประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอให้รัฐบาลช่วยชี้แจงว่าการเปิดตัวแกนนำกลุ่มนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและรัฐบาล ไม่อย่างนั้นจะเกิดความสับสนว่าเป็นผลงานของรัฐ
กองทัพบกปัดไม่เกี่ยวข้อง
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกทหารบก กล่าวว่า กองทัพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อเรื่องดังกล่าว การเผยแพร่ของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย ผ่านสถานีโทรทัศน์ เป็นการดำเนินการส่วนบุคคล ที่ดำเนินการโดย พล.อ.เชษฐา ที่มีความปารถนาดีและความห่วงใยที่หวังให้เกิดความสงบสุข ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงใดมีการประสานทางการ ออกอากาศทางสถานี ช่อง 5 ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชนที่ให้ความสำคัญข่าวสารด้านความมั่นคง จึงให้การสนับสนุนเพราะเห็นว่า หากคำแถลงเป็นจริงจะเกิดประโยชน์ประเทศ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ใช่การดำเนินการในรูปแบบส่วนราชการซึ่งจะไม่มีผลผูกพันอย่างเป็นทางการ
สำหรับการดำเนินการของกองทัพบกต่อการแก้ปัญหาความไม่สงบต่อชายแดนภาคใต้ยังคงยึดนโยบายในทางเดิม คือ การใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาและการใช้กฎหมายให้เกิดความยุติธรรมในพื้นที่ควบคู่กับการพัฒนาพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตามการดำเนินการใดๆที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์และทำให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่อย่างแท้จริงกองทัพบกพร้อมไม่ให้การสนันสนุน ขนาดเดียวกันจะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ออกแถลงการณ์
สื่อนอกชี้"ใต้"รุนแรงเพิ่มหลัง"หยุดยิง"เก๊
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพี รายงานเมื่อวานนี้ (18) อ้างความเห็นของฝ่ายต่างๆ ที่มองว่าการประกาศหยุดยิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกลุ่มซึ่งไม่เป็นที่รู้จักทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 น่าจะเป็นเรื่องหลอกลวง พร้อมกันนั้นก็แสดงความวิตกกันว่า เรื่องนี้น่าจะทำให้พวกผู้ก่อความไม่สงบตัวจริงโกรธแค้น และอาจก่อความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
รอยเตอร์อ้างความคิดเห็นของนายสุนัย ผาสุก แห่งองค์การฮิวแมน ไรต์ซ วอตช์ ที่กล่าวว่า การที่เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก "คนในภาคใต้รู้สึกโกรธเคืองและห่อเหี่ยวท้อแท้ พวกเขาคาดหมายว่าจะมีการโจมตีเพิ่มมากขึ้นอีก เพราะพวกหัวหน้ากบฏในท้องถิ่นจะต้องถือเรื่องนี้เป็นการดูหมิ่นการต่อสู้ของพวกเขา" นายสุนัย กล่าว
ขณะที่ นายแซคารี อาบูซา ศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยของสหรัฐฯ ก็เขียนลงในบล็อกแห่งหนึ่งว่า "ไม่ต้องไปรอลุ้นอะไรหรอก เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการตกลงกันได้จริงๆ"
"พวกสมาชิกของกลุ่มพูโลได้พยายามที่จะพูดจาในนามของผู้ก่อความไม่สงบ และเจรจากับรัฐบาลมาแล้วในอดีตที่ผ่านมา เรื่องอย่างนี้มักนำไปสู่ความรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้น และเกิดการเล่นงานโจมตีพวกนักรบหัวรุนแรงรุ่นก่อนๆ" เขากล่าวต่อ
ทางด้านเอเอฟพีได้อ้างรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่น ซึ่งไปสัมภาษณ์ นายกัสตูรี มะกอตอ หัวหน้ากิจการต่างประเทศของขบวนการปลดแอกแห่งชาติปัตตานี (พูโล) ที่บอกว่า กลุ่มของเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องที่มีพวกนักรบมุสลิมออกมาแถลงทางโทรทัศน์เ
"ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การหารือกับพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของไทยก็ยังคงอยู่ในกระบวนการ" นายกัสตูรี กล่าว
เอเอฟพี รายงานด้วยว่า ไม่กี่ชั่วโมงหลังการแถลงทางทีวีช่อง 5 ได้มีใบปลิวเขียนเป็นภาษาไทยและภาษาอาหรับแจกแจกกันในตัวเมืองยะลา เรียกร้องให้นักรบมุสลิมดำเนินการต่อสู้ด้วยอาวุธต่อไป อย่าไปใส่ใจกับการประกาศหยุดยิงนี้
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านหลายๆ คนที่ยะลาซึ่งเอเอฟพีไปสัมภาษณ์ ก็แสดงความคิดเห็นว่า ไม่เชื่อคำประกาศนี้จะเป็นของจริง
"ชวน"ชี้เป็นบทเรียนที่ต้องตระหนัก
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.เชษฐา นำเทปบันทึกภาพการประกาศหยุดยิงใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้มาเผยแพร่ว่า เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนงงไปหมดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะสถานการณ์ก็ชัดขึ้นว่า คงไปคุมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทั้งหมดไม่ได้จริง แต่ในเบื้องต้น ถ้าสมมุติว่าเป็นเจตนาที่ดี ก็ต้องขอบคุณที่มีเจตนาดีในการแก้ปัญหา และคนก็ตั้งความหวังเพราะรัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาแต่กลัวปัญหา ไม่ว่าจะเป็นนายกฯหรือรมว.มหาดไทย ก็ไม่กล้าลงพื้นที่ ฉะนั้นเมื่อมีการนำเทปบันทึกภาพมาแถลง จึงทำให้คนดีใจว่า มีคนเข้ามาดูแลแล้ว ยิ่งเมื่อประกาศว่าจะมีผลตั้งแต่วันที่14 เป็นต้นไป คนก็คิดว่าต่อไปนี้ ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแล้ว เกิดไปเชื่อขึ้นมาก็จะประมาท ทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้นมา
"ที่น่าเป็นห่วงคือ กลัวว่าเจ้าหน้าที่จะประเมินเหตุการณ์น้อยไป และประมาท จึงยิ่งต้องเตือนว่า ต้องยิ่งระวังมากขึ้น ถ้าจริงเรื่องก็เงียบไป แต่ถ้าไม่จริงคนร้ายก็แสดงปฏิกิริยาเพื่อแสดงออกว่าเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การรับคำสั่งของกลุ่มใต้ดินเหล่านี้ ฉะนั้นก่อนที่พล.อ.เชษฐา จะอธิบายมากไปกว่านี้ เราคงต้องเตือนประชาชน และเจ้าหน้าที่ว่า ต้องระมัดระวัง เพราะคิดว่าคงมีการก่อเหตุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม อย่างที่เห็นเมื่อวานนี้ "
นายชวน ยังกล่าวถึงเรื่องการใช้สถานีโทรทัศน์ ช่อง 5 ในการเผยแพร่เทปว่า ตนไม่ทราบเป็นอย่างไร แต่ในฐานะที่พล.อ.เชษฐา เคยเป็น ผบ.ทบ. และมีเครือข่ายอยู่ ก็คงจะใช้พยายามที่จะมีส่วนในการแก้ปัญหา ก็เป็นเจตนาดี แต่ปัญหาคือ พล.อ.เชษฐา รู้เรื่องกระบวนการเหล่านี้หรือไม่
"คนเหล่านี้เขาทำให้ท่าน หรือว่าท่านเข้าไปรับรู้ตั้งแต่ต้น ว่าคนเหล่านี้เป็นคนจริงหรือไม่จริง หรือมารู้เพียงว่า มีการบันทึกเสียงมาแล้วเอามาให้ท่านดูแล้วท่านก็เชื่อ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ผมคิดว่าเราต้องชี้แจงเรื่องนี้ ก็เป็นไปได้ว่า ทำมาแล้วไม่ได้บอกให้กองทัพทราบเรื่อง ผบ.ทบ. จึงไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ช่อง 5 เป็นของทหาร การจะออกอากาศได้คงต้องดูกันแล้ว อย่างน้อยนายสถานี ผมไม่รู้ว่าท่านถูกหลอกหรือไม่ แต่ถ้าถูกหลอก ก็ถือเป็นบทเรียน"
ต่อข้อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไมได้แสดงว่ากองทัพขาดเอกภาพ เพราะพล.อ.เชษฐาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพแล้ว เป็นเพียงนักการเมืองคนหนึ่ง ไม่ได้บังคับบัญชาหรือคุมคนในกองทัพ แต่พล.อ.เชษฐา เข้าไปดูแลเอง คนอื่นไม่ได้รับรู้ด้วย และก็บอกแล้วว่าพร้อมรับผิดชอบก็คงต้องดูว่าจะรับผิดชอบอย่างไร หลังจากนี้ก็คงต้องมีท่าทีที่ชัดเจนของพล.อ.เชษฐา ออกมา
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการพยายามจะสร้างสถานการณ์วีระบุรุษให้ พล.อ.เชษฐาได้เป็นนายกฯ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ถ้าจะใช้เรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง ก็คงจะทำได้เพียงแค่นี้ คือ ถ้าสมมุติปรากฏข้อเท็จจริงว่า พล.อ.เชษฐา ถูกหลอก เรื่องก็เป็นบทเรียน แต่ถ้ามีส่วนจริงอยู่ คนกลุ่มใต้ดินกลุ่มนี้ก็อาจมีส่วนทำให้เกิดความสนใจในพื้นที่มากขึ้น แต่ตนคิดว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องที่เกิดขึ้นได้มีการแพร่ข่าวไปทั่วโลก เสมือนหนึ่งเป็นการยอมรับองค์กรเหล่านี้ ดังนั้นเมื่อได้ข้อยุติ ทางฝ่ายความมั่นคงก็ควรแถลงเรื่องนี้ไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน
เรื่องนี้ถึงแม้จะเกิดจากเจตนาดี แต่ถ้าส่งผลกระทบในทางลบกับประเทศชาติ ใครจะรับผิดชอบ นายชวน กล่าวว่า พล.อ.เชษฐา ก็บอกแล้วว่า พร้อมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในสิ่งที่ได้ทำลงไป ตอนที่เห็นเทปบันทึกภาพนี้ ตนก็งงจึงได้สอบถามคนในพื้นที่ว่า รู้จักคนเหล่านั้นหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีใครรู้จัก จึงถือว่าไม่ใช่คนที่มีบทบาทสำคัญนัก อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรม ก็คงต้องรอให้ พล.อ.เชษฐา อธิบายที่มาว่าเป็นอย่างไร ถ้าเป็นความผิดพลาด ก็ถือว่าเป็นบทเรียน
ถามหาความรับผิดชอบ"หมัก"
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้ประหลาดใจว่าเรื่องนี้เป็นข่าวครึกโครมได้อย่างไร ในขณะที่คนในรัฐบาลปิดปากเงียบ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ ไม่ทราบว่า นายสมัคร รู้เห็นเรื่องนี้หรือไม่ หรือมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร ก็ไม่เห็นเป็นข่าวออกมา แต่เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ และคาดหวังกับเรื่องนี้มาก สังคมอยากให้เรื่องนี้เป็นจริง เพราะภาคใต้จะได้สงบเสียที จากปรากฏการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ประชาชนในสังคมสิ้นหวังกับรัฐบาล และรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ประชาชนขาดที่พึ่ง จึงทำให้ประชาชนสนใจ และคาดหวังกับข่าวที่จะเป็นสาระหรือไม่เป็นสาระก็ตาม แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ที่พอเป็นความหวังได้บ้าง ประชาชนก็เริ่มคาดหวัง
"อยากถามรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ มีท่าทีเรื่องนี้อย่างไร ทำไมปล่อยให้ใช้สื่อของรัฐ โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ซึ่งเป็นของกองทัพบก เสนอข่าวนี้อย่างครึกโครม ปราศจากการตรวจสอบ รัฐบาลจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร หรือนายกฯ จะตอบในวันอาทิตย์ ในรายการสนทนาประสาสมัคร ก็ได้" นายเทพไท กล่าว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.มหาดไทย (เงา) ได้กำชับไปยัง ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดใต้ ให้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อหาข้อมูลรายละเอียด รวมทั้งติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประชุมหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป
ชี้"กลุ่มใต้ดินภาคใต้"ของเก๊!
ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ. ออกมายืนยันว่าได้ดำเนินการให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ประกาศหยุดยิง 30 วัน นั้น ดร.ภูวดล กล่าวว่า ปัญหา 3 จ.ชายแดนภาคใต้นั้น วันนี้เป็นปัญหาสากลตั้งนานแล้ว ฉะนั้นการแลงการณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. จึงถือเป็นปาหี่ หรือเรียกว่า ดิเกร์ฮูลู ซึ่งเกิดมาจากกรณีการเกิดสุญญากาศทางการเมือง เพราะพล.อ.เชษฐา รนต.รุ่น 8 ซึ่งในอดีตเคยเป็น รมว.กลาโหม ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯครั้งแรก โดยพล.อ.เชษฐา แก้ปัญหาไฟใต้ด้วยการย้ายตำแหน่งที่ตั้งปืนใหญ่พญาตานี ซึ่งถ้าทำอย่างนี้แก้ให้ตายก็ช่วยไม่ได้ ทั้งๆที่ควรใช้หลักรัฐศาสตร์ และหลักนิติศาสตร์ แต่กลับไปกดขี่ข่มเหงพวกเขาเหล่านั้น
"พล.อ.เชษฐา เริ่มเล่นการเมือครั้งแรกก็ถูกหลอกให้ไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาราช จากนั้นเพียง 2 วัน นายเสนาะ เทียนทอง ก็เป็นหัวหน้าพรรคเสียเอง จากนั้นก็ถูกหลอกให้ไปอยู่พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ฉะนั้นคนคนนี้จึงไม่มีน้ำยา เป็นหัวหน้าพรรคก็ทำอะไรก็ไม่ได้ แค่นั้นยังไม่พอ คนคนนี้น้อยใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค แล้วคนอย่างนี้หรือจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้ววันนี้ยังมาหลอกลวงประชาชนครั้งใหญ่" ดร.ภูวดล กล่าว
ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า ตนได้ต่อสายไปมาเลเซีย 3 รอบ เพราะตนมีน้องชายซึ่งเป็นเพื่อนกับรัฐมนตรีกลาโหมของประเทศมาเลเซีย แล้วถามว่า คนที่ออกมาแถลงการณ์ยุติการยิงนั้นคือใคร เขาตอบกลับมาว่า ของปลอมทั้งนั้น เพราะกลุ่มคนดังกล่าวเป็นนักเคลื่อนไหวเก่าที่ไม่มีน้ำยาในภาคใต้ โดยคนหนึ่งอยู่ที่เยอรมนี และอีกคนหนึ่งอยู่ที่สวีเดน แต่จริงๆแล้วคนที่เคลื่อนไหวใน 3 จว.ชายแดนภาคใต้นั้น ก็คือนักเคลื่อนไหว และนักต่อสู้รุ่นใหม่ และถ้าเรายังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ประเทศนี้จะลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน
ส.ส.ชี้คนในพื้นที่ไม่รู้จักแกนนำ
นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส. นราธิวาส พรรคชาติไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากการที่ตนเช็คในพื้นที่แล้ว ไม่น่าจะใช่ตัวจริง เรื่องนี้ พล..อ. เชษฐา น่าจะทราบข่าวคนเดียว ตนเป็นคนในพื้นที่ยังไม่ทราบเลย และไม่ทราบว่า ท่านรู้มาจากไหน หรืออาจมีสายทหารในพื้นที่มาบอกท่านก็เป็นได้ จากการสอบถามไปยังประชาชนในพื้นที่ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้จักแกนนำที่มาแลงข่าวเลย เพราะถ้าขึ้นมาแถลงข่าว จะต้องบอกว่า มาจากตัวแทนกลุ่มใด แต่นี่ไม่บอกเลย
"ผมไม่แน่ใจว่า คนที่เป็นสายข่าวให้ พล.อ.เชษฐา นั้นเขาเป็นใคร และเขาทำอย่างไร ให้ พล.อ.เชษฐา เชื่อขนาดนั้น เชื่อว่าคนที่ให้ข่าวน่าจะเป็นทหารเก่าก็ได้ แต่ให้ข้อมูลไม่เคลียร์ ขนาดผมอยู่ในพื้นที่ยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไรจะเกิดขึ้น ความจริงก่อนจะมีการแถลงการณ์ ผมน่าจะรู้ก่อน ส.ส.ในพื้นที่ทั้งหมดเขายังไม่กล้าพูดเลย ออกมาแถลงการณ์เช่นนี้ ยิ่งทำให้มีผู้จ้องที่จะสร้างสถานการณ์ร่วมได้ใจ และอาจจะมีการสร้างสถานการณ์เรื่อยๆ" นายกุเฮงกล่าว
นายกูเฮง กล่าวอีกว่า หลังจากที่กลุ่มไต้ดินมาประกาศยุติความรุนแรง แต่อีกกลุ่มกลับวางระเบิดปั๊บเลย หลังจากนี้คงก่อความไม่สงบต่อไปเรื่อยๆแน่นอน คราวนี้เราต้องโดนด่าฟรี แน่ๆ
จนท.ใต้ไม่ประมาทสั่งคุมเข้ม
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก และผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึง กลุ่มดังกล่าวา เพิ่งรู้จักตัวตน และเห็นหน้าคนกลุ่มนี้พร้อมกับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้เป็นของคณะของพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ซึ่งเป็นไปโดยความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ที่อยากนำความสันติสุขมาสู่พื้นที่ โดยกองทัพไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือรับรู้เรื่องนี้มาเป็นลำดับ
"กองทัพจะยังดำเนินการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนใดๆ ยังจับตา ติดตามผู้ที่ถูกออกหมายจับ และเพ่งเล็งพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวหรือก่อเหตุตามที่ประชาชนแจ้งเบาะแส รวมถึงติดตามจับกุมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็จะเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด"
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ กล่าวย้ำอีกว่า ทางกองทัพจะไม่ให้ความสำคัญกับบุคคลที่ออกมาแถลง แต่จะไม่ด่วนสรุปว่าใช่หรือไม่ใช่ของจริง แต่กองกำลังปฏิบัติการในพื้นที่จะต้องมีความใกล้ชิดกับประชาชนตลอดเวลา เชื่อและมั่นใจว่า สงครามภาคใต้อยู่ที่จิตใจประชาชน กองกำลังจะสามารถรับมือได้หากสถานการณ์จะเกิดความรุนแรงขึ้น หากเกิดจากการต่อต้านของกลุ่มขบวนการก่อการร้ายในพื้นที่ หลังจากมีการแถลงการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา
สำหรับประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ต่างเก็บตัวอยู่ภายในบ้านเนื่องจากไม่เชื่อว่ากลุ่มดังกล่าวจะสามารถสั่งการผู้ปฏิบัติการในพื้นที่ได้ และต่างได้วิเคราะห์กันว่า นับจากนี้กลุ่มขบวนการก่อการร้ายในพื้นที่จะก่อเหตุโดยไร้ทิศทางมากขึ้น เพื่อตอบโต้อำนาจรัฐ
นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ถึงแม้จะมีการประกาศจากกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นแกนนำในกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่นั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการย้ำไปทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดและอย่าประมาทกับเหตุการณ์ อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวคอยติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มแนวร่วมที่แฝงตัวในพื้นที่ต่างๆ ด้วย
ผู้นำมุสลิมค้านแถลงการณ์ยุติไฟใต้
นายอับดุลอาซิซ เจ๊ะมามะ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่อยากให้ตำหนิผู้ที่กำลังพยายามแสวงหาสันติสุขให้กลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างพล.องเชษฐา แต่ควรจะออกเป็นแถลงการณ์ผ่านสื่อมวลชน ก่อนออกสู่สื่อโทรทัศน์ และควรเป็นการออกแถลงการณ์ร่วม ของกลุ่มแนวร่วมที่มีอยู่หลายกลุ่มในพื้นที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะส่งผลทั้งทางบวก และทางลบ ในระดับพื้นที่และภูมิภาค โดยหากทำได้จริง ก็น่าชื่นชม แต่หากไม่จริง ก็จะเป็นการสร้างความไม่พอใจแก่แนวร่วมอื่นๆ ที่จะออกมาท้าทายอำนาจรัฐในพื้นที่ มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่าการออกแถลงการณ์ดังกล่าวของกลุ่มใต้ดินรวม จะนำไปสู่การเข้าร่วมเป็นสมาชิก องค์การการประชุมอิสลาม (OIC)ได้ เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการพิจารณาหลายขั้นตอนจากคณะกรรมการกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่น่าจะมีผลต่อการพิจารณาแต่อย่างใด
ส.ว.ปัตตานีเชื่อจัดฉากเพื่อการเมือง
นายวรวิทย์ บารู สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เห็นด้วยกับความพยายามในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กลุ่มที่ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.นั้นไม่รู้ว่าเป็นใคร มีความเชื่อถือได้มากน้อยแค่ใหน
ทั้งนี้ในความเห็นส่วนตัวมองว่า เป็นการจัดฉากเพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมืองมากกว่า ส่วนประชาชนในพื้นที่เองก็สงสัยต่อการกระทำครั้งนี้ เพราะในภายหลังฝ่ายความมั่นคงได้ออกมาปฏิเสธการแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความไม่แน่ใจและสับสน
ส่วนวิธีการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ควรเริ่มจากการเจรจาของฝ่ายความมั่นคงตั้งแต่ระดับในพื้นที่ไปจนถึงฝ่ายบริหาร และที่สำคัญต้องกระทำด้วยความตั้งใจที่จะมุ่งหวังให้เกิดความสงบในพื้นที่จริงๆไม่ใช่เพื่อการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
โจรใต้ไม่หยุด บุกยิงชาวยะลาเจ็บ 1
เวลา 03.00 น. วานนี้ (18 ก.ค.) ศูนย์ข่าวสภ.กาบัง จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันภายในบริเวณสวนยาง ม.4 บ้านคชศิลา ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทราบว่ามีชาวบ้านถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อคือ นายสมพร แก้วมณี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.1 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา ถูกกระสุนปืนเข้าที่แขนจำนวน 1 นัด
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ นายสมพรกำลังกรีดยางอยู่ภายในสวนยาง ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณี พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรมว.กลาโหม ได้นำเทปคำประกาศยุติการก่อเหตุของหัวหน้ากลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย มาเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 5 ว่า ในฐานะที่เป็นข้าราชการของรัฐ คงไม่สามารถไปเจรจาได้กับคนกลุ่มนี้ได้ เพราะเป็นบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายของราชอาณาจักรไทย ในหลายกรรม หลายวาระ ถือเป็นอาชญากรที่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่จะไปเจรจากันได้
ทั้งนี้ กองทัพไม่ได้รับรู้เรื่องที่ พล.อ.เชษฐาไปเจรจากับคนกลุ่มนี้ ตนก็ไม่ได้ดูเทปชุดนี้ก่อนที่จะมีการออกอากาศ เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นเพียงแถลงการณ์ ไม่คิดว่าจะเป็นเทปบันทึกภาพ และเมื่อมีการออกอากาศไปแล้วตนก็ยังไม่ได้คุยกับพล.อ.เชษฐา ส่วนกับนายกรัฐมนตรีนั้น ตนได้เรียนท่านไปเพียงคร่าวๆ ซึ่งท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร และท่านก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน รวมทั้งคนในกองทัพด้วย
พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ยังเป็นปกติคือ ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เหตุการณ์จะยุติลงหรือไม่ ทั้งนี้จะไม่มีการปรับเปลี่ยนแนวทางในการแก้ไขปัญหาภาคใต้แต่อย่างใด
ป้อง ททบ.5 แพร่เทป ทำหน้าที่สื่อ
เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบหรือไม่ว่ามีนายทหารคนใดเข้าไปช่วยเหลือ พล.อ.เชษฐา หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เราไม่ตรวจสอบ แต่คงจะดูรายละเอียดจากท่านเท่านั้น คงไม่อะไร และท่านคงจะมีความปรารถนาดีที่จะช่วยเหลือบ้านเมือง และถ้าเป็นไปได้โดยไม่มีเงื่อนไขอะไร และไม่มีวาระแอบแฝงก็คงเป็นเรื่องดี ซึ่งหากท่านเชื่อมั่นทำเช่นนั้น คงไม่เป็นอะไรมาก
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า ทั้ง 3 คน ไม่ใช่แกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า"ผมไม่ยืนยัน ผมทราบเพียงว่า เคยมีความเคลื่อนไหวอยู่ และหยุดเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 30 แต่จะเป็นตัวแทนหรือได้รับฉันทานุมัติอย่างไร ผมไม่ทราบทั้งสิ้น แต่เรามีข้อมูลว่า แกนนำในการก่อเหตุขณะนี้เป็นใคร แต่ไม่ได้รู้ละเอียดทุกๆคน" ผบ.ทบ. กล่าว
เมื่อถามว่า ทาง ททบ.5 แจ้งให้ทราบก่อนที่จะมีการออกอากาศหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตอนที่ออกอากาศถือว่า เขาทำหน้าสื่อ จึงไม่ได้ถือว่าเป็นข้อผิดพลาดอะไร เมื่อถามว่า ททบ.5 ควรประสานมายังกองทัพก่อนออกอากาศหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ท่านเป็นนายทหารผู้ใหญ่ จึงไม่ได้ไปเพ่งเล็งถึงขนาดว่าต้องทำอะไร อย่างไร เรื่องออกอากาศไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะทุกช่องออกตามกันหมด
"บิ๊กบัง"ไม่รู้จักกลุ่มที่ประกาศหยุดยิง
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. และอดีตประธาน คมช. เปิดเผยว่า จากการที่ตนเองได้ทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มาเป็นเวลามานาน ตนเองไม่รู้สึกคุ้น หรือรู้จักกับกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเองว่าเป็นกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย โดยเบื้องต้นคาดว่า จะเป็นบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศมากกว่า เพราะเท่าที่ได้สอบถามไปทางประชาชนในพื้นที่ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้จัก ส่วนถ้อยแถลงดังกล่าวจะปรากฏผลจริงตามที่ประกาศไว้หรือไม่นั้น คงยังไม่สามารถตอบได้ เพราะคงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่หากเป็นจริงได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
เมื่อถามว่า การดำเนินการของ พล.อ.เชษฐา จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้หรือไม่นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คงจะไม่มีผลอะไร เพราะ พล.อ.เชษฐา ยืนยันแล้วว่าได้ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางราชการ อีกทั้งที่ผ่านมากลุ่มก่อความไม่สงบต่างๆ ในพื้นที่เองก็พยายามดึงองค์กรจากภายนอกประเทศให้ช่วยเป็นตัวกลางประสานเข้ามาพูดคุยแบบไม่เป็นทางการกับทางราชการหลายครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้ ซึ่งในกรณีของ พล.อ.เชษฐานั้น ก็คงจะไม่ต่างกันแต่อย่างใดที่พยายามเปิดโต๊ะเจรจากันนอกรอบ
"พัลลภ" จี้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจน
ด้าน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.รมน. กล่าวว่า เรื่องนี้มันผิดปกติ เนื่องจากการประกาศไม่เปิดเผยชื่อ และตำแหน่งที่ชัดเจน ทั้งนี้การประกาศครั้งนี้ตนมองว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ และไม่มีเงื่อนไข ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะเป็นการยกระดับกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การประชุมมุสลิมโลก หรือ โอไอซี (OIC) เพราะจะเข้าเงื่อนไขการเปิดเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มก่อความไม่สงบ เนื่องจาก พล.อ.เชษฐา เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะทำให้ถูกนำไปกล่าวอ้าง
นอกจากนี้ การเผยแพร่ภาพ ยังทำเฉพาะทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่ง เป็นสื่อของรัฐที่มีเครือข่ายในหลายประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอให้รัฐบาลช่วยชี้แจงว่าการเปิดตัวแกนนำกลุ่มนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและรัฐบาล ไม่อย่างนั้นจะเกิดความสับสนว่าเป็นผลงานของรัฐ
กองทัพบกปัดไม่เกี่ยวข้อง
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกทหารบก กล่าวว่า กองทัพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อเรื่องดังกล่าว การเผยแพร่ของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย ผ่านสถานีโทรทัศน์ เป็นการดำเนินการส่วนบุคคล ที่ดำเนินการโดย พล.อ.เชษฐา ที่มีความปารถนาดีและความห่วงใยที่หวังให้เกิดความสงบสุข ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงใดมีการประสานทางการ ออกอากาศทางสถานี ช่อง 5 ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชนที่ให้ความสำคัญข่าวสารด้านความมั่นคง จึงให้การสนับสนุนเพราะเห็นว่า หากคำแถลงเป็นจริงจะเกิดประโยชน์ประเทศ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ใช่การดำเนินการในรูปแบบส่วนราชการซึ่งจะไม่มีผลผูกพันอย่างเป็นทางการ
สำหรับการดำเนินการของกองทัพบกต่อการแก้ปัญหาความไม่สงบต่อชายแดนภาคใต้ยังคงยึดนโยบายในทางเดิม คือ การใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาและการใช้กฎหมายให้เกิดความยุติธรรมในพื้นที่ควบคู่กับการพัฒนาพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตามการดำเนินการใดๆที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์และทำให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่อย่างแท้จริงกองทัพบกพร้อมไม่ให้การสนันสนุน ขนาดเดียวกันจะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ออกแถลงการณ์
สื่อนอกชี้"ใต้"รุนแรงเพิ่มหลัง"หยุดยิง"เก๊
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพี รายงานเมื่อวานนี้ (18) อ้างความเห็นของฝ่ายต่างๆ ที่มองว่าการประกาศหยุดยิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกลุ่มซึ่งไม่เป็นที่รู้จักทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 น่าจะเป็นเรื่องหลอกลวง พร้อมกันนั้นก็แสดงความวิตกกันว่า เรื่องนี้น่าจะทำให้พวกผู้ก่อความไม่สงบตัวจริงโกรธแค้น และอาจก่อความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
รอยเตอร์อ้างความคิดเห็นของนายสุนัย ผาสุก แห่งองค์การฮิวแมน ไรต์ซ วอตช์ ที่กล่าวว่า การที่เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก "คนในภาคใต้รู้สึกโกรธเคืองและห่อเหี่ยวท้อแท้ พวกเขาคาดหมายว่าจะมีการโจมตีเพิ่มมากขึ้นอีก เพราะพวกหัวหน้ากบฏในท้องถิ่นจะต้องถือเรื่องนี้เป็นการดูหมิ่นการต่อสู้ของพวกเขา" นายสุนัย กล่าว
ขณะที่ นายแซคารี อาบูซา ศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยของสหรัฐฯ ก็เขียนลงในบล็อกแห่งหนึ่งว่า "ไม่ต้องไปรอลุ้นอะไรหรอก เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการตกลงกันได้จริงๆ"
"พวกสมาชิกของกลุ่มพูโลได้พยายามที่จะพูดจาในนามของผู้ก่อความไม่สงบ และเจรจากับรัฐบาลมาแล้วในอดีตที่ผ่านมา เรื่องอย่างนี้มักนำไปสู่ความรุนแรงที่เพิ่มสูงขึ้น และเกิดการเล่นงานโจมตีพวกนักรบหัวรุนแรงรุ่นก่อนๆ" เขากล่าวต่อ
ทางด้านเอเอฟพีได้อ้างรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่น ซึ่งไปสัมภาษณ์ นายกัสตูรี มะกอตอ หัวหน้ากิจการต่างประเทศของขบวนการปลดแอกแห่งชาติปัตตานี (พูโล) ที่บอกว่า กลุ่มของเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องที่มีพวกนักรบมุสลิมออกมาแถลงทางโทรทัศน์เ
"ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การหารือกับพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของไทยก็ยังคงอยู่ในกระบวนการ" นายกัสตูรี กล่าว
เอเอฟพี รายงานด้วยว่า ไม่กี่ชั่วโมงหลังการแถลงทางทีวีช่อง 5 ได้มีใบปลิวเขียนเป็นภาษาไทยและภาษาอาหรับแจกแจกกันในตัวเมืองยะลา เรียกร้องให้นักรบมุสลิมดำเนินการต่อสู้ด้วยอาวุธต่อไป อย่าไปใส่ใจกับการประกาศหยุดยิงนี้
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านหลายๆ คนที่ยะลาซึ่งเอเอฟพีไปสัมภาษณ์ ก็แสดงความคิดเห็นว่า ไม่เชื่อคำประกาศนี้จะเป็นของจริง
"ชวน"ชี้เป็นบทเรียนที่ต้องตระหนัก
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.เชษฐา นำเทปบันทึกภาพการประกาศหยุดยิงใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้มาเผยแพร่ว่า เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนงงไปหมดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะสถานการณ์ก็ชัดขึ้นว่า คงไปคุมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทั้งหมดไม่ได้จริง แต่ในเบื้องต้น ถ้าสมมุติว่าเป็นเจตนาที่ดี ก็ต้องขอบคุณที่มีเจตนาดีในการแก้ปัญหา และคนก็ตั้งความหวังเพราะรัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาแต่กลัวปัญหา ไม่ว่าจะเป็นนายกฯหรือรมว.มหาดไทย ก็ไม่กล้าลงพื้นที่ ฉะนั้นเมื่อมีการนำเทปบันทึกภาพมาแถลง จึงทำให้คนดีใจว่า มีคนเข้ามาดูแลแล้ว ยิ่งเมื่อประกาศว่าจะมีผลตั้งแต่วันที่14 เป็นต้นไป คนก็คิดว่าต่อไปนี้ ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแล้ว เกิดไปเชื่อขึ้นมาก็จะประมาท ทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้นมา
"ที่น่าเป็นห่วงคือ กลัวว่าเจ้าหน้าที่จะประเมินเหตุการณ์น้อยไป และประมาท จึงยิ่งต้องเตือนว่า ต้องยิ่งระวังมากขึ้น ถ้าจริงเรื่องก็เงียบไป แต่ถ้าไม่จริงคนร้ายก็แสดงปฏิกิริยาเพื่อแสดงออกว่าเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การรับคำสั่งของกลุ่มใต้ดินเหล่านี้ ฉะนั้นก่อนที่พล.อ.เชษฐา จะอธิบายมากไปกว่านี้ เราคงต้องเตือนประชาชน และเจ้าหน้าที่ว่า ต้องระมัดระวัง เพราะคิดว่าคงมีการก่อเหตุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม อย่างที่เห็นเมื่อวานนี้ "
นายชวน ยังกล่าวถึงเรื่องการใช้สถานีโทรทัศน์ ช่อง 5 ในการเผยแพร่เทปว่า ตนไม่ทราบเป็นอย่างไร แต่ในฐานะที่พล.อ.เชษฐา เคยเป็น ผบ.ทบ. และมีเครือข่ายอยู่ ก็คงจะใช้พยายามที่จะมีส่วนในการแก้ปัญหา ก็เป็นเจตนาดี แต่ปัญหาคือ พล.อ.เชษฐา รู้เรื่องกระบวนการเหล่านี้หรือไม่
"คนเหล่านี้เขาทำให้ท่าน หรือว่าท่านเข้าไปรับรู้ตั้งแต่ต้น ว่าคนเหล่านี้เป็นคนจริงหรือไม่จริง หรือมารู้เพียงว่า มีการบันทึกเสียงมาแล้วเอามาให้ท่านดูแล้วท่านก็เชื่อ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ผมคิดว่าเราต้องชี้แจงเรื่องนี้ ก็เป็นไปได้ว่า ทำมาแล้วไม่ได้บอกให้กองทัพทราบเรื่อง ผบ.ทบ. จึงไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ช่อง 5 เป็นของทหาร การจะออกอากาศได้คงต้องดูกันแล้ว อย่างน้อยนายสถานี ผมไม่รู้ว่าท่านถูกหลอกหรือไม่ แต่ถ้าถูกหลอก ก็ถือเป็นบทเรียน"
ต่อข้อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไมได้แสดงว่ากองทัพขาดเอกภาพ เพราะพล.อ.เชษฐาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพแล้ว เป็นเพียงนักการเมืองคนหนึ่ง ไม่ได้บังคับบัญชาหรือคุมคนในกองทัพ แต่พล.อ.เชษฐา เข้าไปดูแลเอง คนอื่นไม่ได้รับรู้ด้วย และก็บอกแล้วว่าพร้อมรับผิดชอบก็คงต้องดูว่าจะรับผิดชอบอย่างไร หลังจากนี้ก็คงต้องมีท่าทีที่ชัดเจนของพล.อ.เชษฐา ออกมา
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการพยายามจะสร้างสถานการณ์วีระบุรุษให้ พล.อ.เชษฐาได้เป็นนายกฯ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ถ้าจะใช้เรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง ก็คงจะทำได้เพียงแค่นี้ คือ ถ้าสมมุติปรากฏข้อเท็จจริงว่า พล.อ.เชษฐา ถูกหลอก เรื่องก็เป็นบทเรียน แต่ถ้ามีส่วนจริงอยู่ คนกลุ่มใต้ดินกลุ่มนี้ก็อาจมีส่วนทำให้เกิดความสนใจในพื้นที่มากขึ้น แต่ตนคิดว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องที่เกิดขึ้นได้มีการแพร่ข่าวไปทั่วโลก เสมือนหนึ่งเป็นการยอมรับองค์กรเหล่านี้ ดังนั้นเมื่อได้ข้อยุติ ทางฝ่ายความมั่นคงก็ควรแถลงเรื่องนี้ไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน
เรื่องนี้ถึงแม้จะเกิดจากเจตนาดี แต่ถ้าส่งผลกระทบในทางลบกับประเทศชาติ ใครจะรับผิดชอบ นายชวน กล่าวว่า พล.อ.เชษฐา ก็บอกแล้วว่า พร้อมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในสิ่งที่ได้ทำลงไป ตอนที่เห็นเทปบันทึกภาพนี้ ตนก็งงจึงได้สอบถามคนในพื้นที่ว่า รู้จักคนเหล่านั้นหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีใครรู้จัก จึงถือว่าไม่ใช่คนที่มีบทบาทสำคัญนัก อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรม ก็คงต้องรอให้ พล.อ.เชษฐา อธิบายที่มาว่าเป็นอย่างไร ถ้าเป็นความผิดพลาด ก็ถือว่าเป็นบทเรียน
ถามหาความรับผิดชอบ"หมัก"
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้ประหลาดใจว่าเรื่องนี้เป็นข่าวครึกโครมได้อย่างไร ในขณะที่คนในรัฐบาลปิดปากเงียบ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ ไม่ทราบว่า นายสมัคร รู้เห็นเรื่องนี้หรือไม่ หรือมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร ก็ไม่เห็นเป็นข่าวออกมา แต่เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ และคาดหวังกับเรื่องนี้มาก สังคมอยากให้เรื่องนี้เป็นจริง เพราะภาคใต้จะได้สงบเสียที จากปรากฏการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ประชาชนในสังคมสิ้นหวังกับรัฐบาล และรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ประชาชนขาดที่พึ่ง จึงทำให้ประชาชนสนใจ และคาดหวังกับข่าวที่จะเป็นสาระหรือไม่เป็นสาระก็ตาม แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ที่พอเป็นความหวังได้บ้าง ประชาชนก็เริ่มคาดหวัง
"อยากถามรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ มีท่าทีเรื่องนี้อย่างไร ทำไมปล่อยให้ใช้สื่อของรัฐ โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ซึ่งเป็นของกองทัพบก เสนอข่าวนี้อย่างครึกโครม ปราศจากการตรวจสอบ รัฐบาลจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร หรือนายกฯ จะตอบในวันอาทิตย์ ในรายการสนทนาประสาสมัคร ก็ได้" นายเทพไท กล่าว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.มหาดไทย (เงา) ได้กำชับไปยัง ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดใต้ ให้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อหาข้อมูลรายละเอียด รวมทั้งติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประชุมหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป
ชี้"กลุ่มใต้ดินภาคใต้"ของเก๊!
ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ. ออกมายืนยันว่าได้ดำเนินการให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ประกาศหยุดยิง 30 วัน นั้น ดร.ภูวดล กล่าวว่า ปัญหา 3 จ.ชายแดนภาคใต้นั้น วันนี้เป็นปัญหาสากลตั้งนานแล้ว ฉะนั้นการแลงการณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. จึงถือเป็นปาหี่ หรือเรียกว่า ดิเกร์ฮูลู ซึ่งเกิดมาจากกรณีการเกิดสุญญากาศทางการเมือง เพราะพล.อ.เชษฐา รนต.รุ่น 8 ซึ่งในอดีตเคยเป็น รมว.กลาโหม ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯครั้งแรก โดยพล.อ.เชษฐา แก้ปัญหาไฟใต้ด้วยการย้ายตำแหน่งที่ตั้งปืนใหญ่พญาตานี ซึ่งถ้าทำอย่างนี้แก้ให้ตายก็ช่วยไม่ได้ ทั้งๆที่ควรใช้หลักรัฐศาสตร์ และหลักนิติศาสตร์ แต่กลับไปกดขี่ข่มเหงพวกเขาเหล่านั้น
"พล.อ.เชษฐา เริ่มเล่นการเมือครั้งแรกก็ถูกหลอกให้ไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาราช จากนั้นเพียง 2 วัน นายเสนาะ เทียนทอง ก็เป็นหัวหน้าพรรคเสียเอง จากนั้นก็ถูกหลอกให้ไปอยู่พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ฉะนั้นคนคนนี้จึงไม่มีน้ำยา เป็นหัวหน้าพรรคก็ทำอะไรก็ไม่ได้ แค่นั้นยังไม่พอ คนคนนี้น้อยใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค แล้วคนอย่างนี้หรือจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้ววันนี้ยังมาหลอกลวงประชาชนครั้งใหญ่" ดร.ภูวดล กล่าว
ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า ตนได้ต่อสายไปมาเลเซีย 3 รอบ เพราะตนมีน้องชายซึ่งเป็นเพื่อนกับรัฐมนตรีกลาโหมของประเทศมาเลเซีย แล้วถามว่า คนที่ออกมาแถลงการณ์ยุติการยิงนั้นคือใคร เขาตอบกลับมาว่า ของปลอมทั้งนั้น เพราะกลุ่มคนดังกล่าวเป็นนักเคลื่อนไหวเก่าที่ไม่มีน้ำยาในภาคใต้ โดยคนหนึ่งอยู่ที่เยอรมนี และอีกคนหนึ่งอยู่ที่สวีเดน แต่จริงๆแล้วคนที่เคลื่อนไหวใน 3 จว.ชายแดนภาคใต้นั้น ก็คือนักเคลื่อนไหว และนักต่อสู้รุ่นใหม่ และถ้าเรายังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ประเทศนี้จะลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน
ส.ส.ชี้คนในพื้นที่ไม่รู้จักแกนนำ
นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส. นราธิวาส พรรคชาติไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากการที่ตนเช็คในพื้นที่แล้ว ไม่น่าจะใช่ตัวจริง เรื่องนี้ พล..อ. เชษฐา น่าจะทราบข่าวคนเดียว ตนเป็นคนในพื้นที่ยังไม่ทราบเลย และไม่ทราบว่า ท่านรู้มาจากไหน หรืออาจมีสายทหารในพื้นที่มาบอกท่านก็เป็นได้ จากการสอบถามไปยังประชาชนในพื้นที่ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้จักแกนนำที่มาแลงข่าวเลย เพราะถ้าขึ้นมาแถลงข่าว จะต้องบอกว่า มาจากตัวแทนกลุ่มใด แต่นี่ไม่บอกเลย
"ผมไม่แน่ใจว่า คนที่เป็นสายข่าวให้ พล.อ.เชษฐา นั้นเขาเป็นใคร และเขาทำอย่างไร ให้ พล.อ.เชษฐา เชื่อขนาดนั้น เชื่อว่าคนที่ให้ข่าวน่าจะเป็นทหารเก่าก็ได้ แต่ให้ข้อมูลไม่เคลียร์ ขนาดผมอยู่ในพื้นที่ยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไรจะเกิดขึ้น ความจริงก่อนจะมีการแถลงการณ์ ผมน่าจะรู้ก่อน ส.ส.ในพื้นที่ทั้งหมดเขายังไม่กล้าพูดเลย ออกมาแถลงการณ์เช่นนี้ ยิ่งทำให้มีผู้จ้องที่จะสร้างสถานการณ์ร่วมได้ใจ และอาจจะมีการสร้างสถานการณ์เรื่อยๆ" นายกุเฮงกล่าว
นายกูเฮง กล่าวอีกว่า หลังจากที่กลุ่มไต้ดินมาประกาศยุติความรุนแรง แต่อีกกลุ่มกลับวางระเบิดปั๊บเลย หลังจากนี้คงก่อความไม่สงบต่อไปเรื่อยๆแน่นอน คราวนี้เราต้องโดนด่าฟรี แน่ๆ
จนท.ใต้ไม่ประมาทสั่งคุมเข้ม
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก และผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึง กลุ่มดังกล่าวา เพิ่งรู้จักตัวตน และเห็นหน้าคนกลุ่มนี้พร้อมกับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้เป็นของคณะของพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ซึ่งเป็นไปโดยความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ที่อยากนำความสันติสุขมาสู่พื้นที่ โดยกองทัพไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือรับรู้เรื่องนี้มาเป็นลำดับ
"กองทัพจะยังดำเนินการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนใดๆ ยังจับตา ติดตามผู้ที่ถูกออกหมายจับ และเพ่งเล็งพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวหรือก่อเหตุตามที่ประชาชนแจ้งเบาะแส รวมถึงติดตามจับกุมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็จะเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด"
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ กล่าวย้ำอีกว่า ทางกองทัพจะไม่ให้ความสำคัญกับบุคคลที่ออกมาแถลง แต่จะไม่ด่วนสรุปว่าใช่หรือไม่ใช่ของจริง แต่กองกำลังปฏิบัติการในพื้นที่จะต้องมีความใกล้ชิดกับประชาชนตลอดเวลา เชื่อและมั่นใจว่า สงครามภาคใต้อยู่ที่จิตใจประชาชน กองกำลังจะสามารถรับมือได้หากสถานการณ์จะเกิดความรุนแรงขึ้น หากเกิดจากการต่อต้านของกลุ่มขบวนการก่อการร้ายในพื้นที่ หลังจากมีการแถลงการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา
สำหรับประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ต่างเก็บตัวอยู่ภายในบ้านเนื่องจากไม่เชื่อว่ากลุ่มดังกล่าวจะสามารถสั่งการผู้ปฏิบัติการในพื้นที่ได้ และต่างได้วิเคราะห์กันว่า นับจากนี้กลุ่มขบวนการก่อการร้ายในพื้นที่จะก่อเหตุโดยไร้ทิศทางมากขึ้น เพื่อตอบโต้อำนาจรัฐ
นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ถึงแม้จะมีการประกาศจากกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นแกนนำในกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่นั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการย้ำไปทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดและอย่าประมาทกับเหตุการณ์ อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวคอยติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มแนวร่วมที่แฝงตัวในพื้นที่ต่างๆ ด้วย
ผู้นำมุสลิมค้านแถลงการณ์ยุติไฟใต้
นายอับดุลอาซิซ เจ๊ะมามะ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่อยากให้ตำหนิผู้ที่กำลังพยายามแสวงหาสันติสุขให้กลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างพล.องเชษฐา แต่ควรจะออกเป็นแถลงการณ์ผ่านสื่อมวลชน ก่อนออกสู่สื่อโทรทัศน์ และควรเป็นการออกแถลงการณ์ร่วม ของกลุ่มแนวร่วมที่มีอยู่หลายกลุ่มในพื้นที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะส่งผลทั้งทางบวก และทางลบ ในระดับพื้นที่และภูมิภาค โดยหากทำได้จริง ก็น่าชื่นชม แต่หากไม่จริง ก็จะเป็นการสร้างความไม่พอใจแก่แนวร่วมอื่นๆ ที่จะออกมาท้าทายอำนาจรัฐในพื้นที่ มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่าการออกแถลงการณ์ดังกล่าวของกลุ่มใต้ดินรวม จะนำไปสู่การเข้าร่วมเป็นสมาชิก องค์การการประชุมอิสลาม (OIC)ได้ เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการพิจารณาหลายขั้นตอนจากคณะกรรมการกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่น่าจะมีผลต่อการพิจารณาแต่อย่างใด
ส.ว.ปัตตานีเชื่อจัดฉากเพื่อการเมือง
นายวรวิทย์ บารู สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เห็นด้วยกับความพยายามในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กลุ่มที่ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.นั้นไม่รู้ว่าเป็นใคร มีความเชื่อถือได้มากน้อยแค่ใหน
ทั้งนี้ในความเห็นส่วนตัวมองว่า เป็นการจัดฉากเพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมืองมากกว่า ส่วนประชาชนในพื้นที่เองก็สงสัยต่อการกระทำครั้งนี้ เพราะในภายหลังฝ่ายความมั่นคงได้ออกมาปฏิเสธการแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความไม่แน่ใจและสับสน
ส่วนวิธีการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ควรเริ่มจากการเจรจาของฝ่ายความมั่นคงตั้งแต่ระดับในพื้นที่ไปจนถึงฝ่ายบริหาร และที่สำคัญต้องกระทำด้วยความตั้งใจที่จะมุ่งหวังให้เกิดความสงบในพื้นที่จริงๆไม่ใช่เพื่อการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
โจรใต้ไม่หยุด บุกยิงชาวยะลาเจ็บ 1
เวลา 03.00 น. วานนี้ (18 ก.ค.) ศูนย์ข่าวสภ.กาบัง จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันภายในบริเวณสวนยาง ม.4 บ้านคชศิลา ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทราบว่ามีชาวบ้านถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อคือ นายสมพร แก้วมณี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.1 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา ถูกกระสุนปืนเข้าที่แขนจำนวน 1 นัด
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ นายสมพรกำลังกรีดยางอยู่ภายในสวนยาง ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว