ผู้จัดการรายวัน – พันธมิตรฯวิเคราะห์รัฐบาลธาตุไฟแตก หลัง ‘สมัคร’ หน้ามืดประกาศยึดช่อง เอ็นบีทีเป็นของตนเอง ขอจ้อโต้ เอเอสทีวี ทุกคืน ปู้ยี้ปู้ยำเงินภาษีประชาชน อัด “หุ่นเชิด”กุเรื่องพันธมิตรฯยึดศาลากลางจังหวัด ‘จำลอง’ย้ำไม่เคยมีความคิด ‘พิภพ’ ไล่ให้ไปใช้ พีทีวี ด้าน“สมัคร” เป็นตุเป็นตะกล่าวหาพันธมิตรฯ วางปฎิทินล้มล้างรัฐบาล ส่งม็อบดาวกระจายยึดศาลากลางจังหวัดหวังให้ทหารปฎิวัติ พร่ำบ่น รธน.วางกับดักเล่นงานรัฐบาลต้องแก้ไข ฟาดงวงฟาดงา ฝ่ายตุลาการและ องค์กรอิสระ กกต. ,ป.ป.ช., ศาลรัฐธรรมนูญ จะฆ่าตัวเอง โวจะล้ม ป.ป.ช.ให้ได้
จากกรณี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ประกาศผ่านรายการ ‘สนทนาประสาสมัคร’ ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ทุกเช้าวันอาทิตย์ จะจัดการรายการตอบโต้ เอเอสทีวี ซึ่งถ่ายทอดการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเวลา 22.00 น.ทุกคืนโดยจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 ก.ค.นี้เป็นต้นไปนั้น
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิ์ของนายสมัคร แต่ ใครโกหก ใครพูดจริง ประชาชนจะตัดสินเอง เราไม่กังวล เพราะเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องนี้หารือแกนนำพันธมิตรฯ ว่า จะต้องตอบโต้อย่างไร เรื่องไหนจริง เรื่องไหนไม่จริง ตรงไหนต้องชี้แจงหรือไม่
พล.ต.จำลองกล่าวถึงการนายสมัครกล่าวหาพันธมิตรฯส่งคนไปยึดศาลากลางทุกจังหวัดด้วยว่า เป็นการโกหกแล้วโกหกอีกไม่เป็นความจริง จะยึดศาลากลางไปทำไม ถ้าจะยึด ยึดทำเนียบฯดีกว่า เพราะอยู่ใจกลางมากกว่า การยึดศาลากลางไม่มีอยู่ในหัวคิดทางกลุ่มพันธมิตรฯเลย เชื่อว่านายสมัครต้องการพูดเรื่องนี้ให้ประชาชนหวาดกลัว และสงสารรัฐบาลมากกว่า ซึ่งเชื่อว่าประชาชนรู้เองว่าใครโกหกประชาชนคงไม่เชื่อ
ขณะที่ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯอีกคนหนึ่งกล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า การที่นายกรัฐมนตรีใช้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีชี้แจงโต้ข้อกล่าวหาของพันธมิตรฯนั้น เห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเป็นเงินภาษีของประชาชน รัฐบาลควรใช้พีทีวีเป็นสถานีชี้แจงของฝ่ายรัฐบาลจะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นเงินที่ได้มาจากการบริจาคของกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล ทั้งนี้ การจัดรายการวันอาทิตย์ของนายกรัฐมนตรีในตอนเช้าก็ถือว่าเอาเปรียบฝ่ายอื่นอยู่แล้ว สิ่งที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดถือว่า ไม่แม่นในเรื่องข้อกฎหมาย รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องการบริหารนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องปราสาทพระวิหาร ไม่ได้เกิดจากกลุ่มพันธมิตรฯ แต่อย่างใด
**เชื่อรัฐบาลธาตุไฟแตกแล้ว
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถที่จะครองใจประชาชนได้อีกต่อไป โดยขณะนี้เกิดอาการไฟธาตุแตกประกาศใช้สื่อของรัฐจัดรายการตอบโต้เอเอสทีวี ซึ่งที่ผ่านมาช่อง 11 รับใช้นักการเมืองมานาน ตั้งแต่ 14 ตุลา 16 และพร้อมรับใช้รัฐบาลทรราช รัฐบาลหุ่นเชิด จึงไม่น่าแปลกใจที่เผากรมประชาสัมพันธ์ถึง 2 ครั้ง
“ตอนนี้สายน้ำเกลือ สายออกซิเจน ระโยงระยางไปหมด พันธมิตรฯ ถอดสายน้ำเกลือให้เมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น ตอนนี้รัฐบาลสารภาพแล้วน่าสงสารนายสมัครมาก อยากกรวดน้ำให้ นายกฯยอมรับแล้วว่าคงบริหารประเทศไม่ครบเทอม อ้างติดกับดักรัฐธรรมนูญและคดีต่างๆ ที่จะทยอยขึ้นสู่การพิพากษาของศาล กล่าวหาว่าศาลจะล้มรัฐบาลหุ่นเชิดให้ได้ ทั้งหมดนี้เกิดจากขบวนการเกลียดชังทักษิณ แล้วลากเอาลากเอานายสมัครไปฆ่าให้ตายด้วย ผมบอกให้ว่าประชาชนไม่ได้เกลียดชังสมัคร แต่ขยะแขยงรัฐบาลหุ่นเชิด และประชาชนไม่ได้ล้มรัฐบาล แต่จะเอารัฐบาลติดคุก และประหารชีวิต”
“ซ้ำยังกล่าวหา 5 แกนนำเป็นหัวโจก โดยใช้เอเอสทีวีเป็นกระบอกเสียง ซึ่งผิดกฎหมาย ออกอากาศได้อย่างไร เอาสีข้างเข้าถู ไม่รู้หรือว่าศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ออกอากาศได้ และยังสั่งกรมประชาสัมพันธ์ฯจ่ายค่าปรับให้เอเอสทีวีอีก” แกนนำพันธมิตรฯกล่าว
**ผอ.NBTมึนสมัครขอเวลา
นายสุริยงค์ หุณฑสาร รักษาการผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีที กล่าว ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานจากทีมงานโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับรายการดังกล่าวว่ารายละเอียดจะเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้รับการประสานงานมาก่อนล่วงหน้า โดยตนเพิ่งทราบตอนที่นายกฯพูดในรายการเช่นกัน
นายสุริยงค์ กล่าวเพ่มเติมว่า ช่วงเวลาดังกล่าวผังรายการเดิมจะเป็นรายการ 'ข่าวหน้า4' ซึ่งเป็นรายการวิเคราะห์ข่าวสถานการณ์ทั่วไป โดยสถานีพร้อมจะตัดทุกรายการออกไป หากเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
**รองโฆษกลูกกรอกรับลูกสมัคร
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการออกรายการโทรทัศน์ทาง NBT กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อตอบโต้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ว่าเรื่องนี้เป็นการหารือกันระหว่างนายสมัคร สุนทรเวช กับทีมโฆษกรัฐบาลเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่า บางกลุ่มใช้สื่อหลายช่องทาง พุ่งเป้าโจมตีรัฐบาล เพื่อโค่นล่มรัฐบาลนี้ ฉะนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องมีช่องทางสื่อสารกับประชาชนในการรับทราบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่โจมตีรัฐบาลว่ามีการบิดเบือน
ฉะนั้นรายการนี้จะอธิบายข้อมูลความจริงอย่างเป็นเหตุผลและมีหลักฐานครบถ้วน ชี้แจงแบบทันเกมทันควันในทุกประเด็นที่บางฝ่ายโจมตีรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนรับข้อมูลจากทุกฝ่ายไปพิจารณาและตัดสินใจ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดของรายการนี้ขอไปแถลงข่าวในวันที่21ก.ค.เวลา 10.30น. ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
ส่วนพิธีกรนั้น นายกรัฐมนตรีบอกชัดแล้วว่าทีมโฆษกรัฐบาล จะทำหน้าที่นี้ โดยนายกรัฐมนตรี จะไม่มาร่วมชี้แจง เพราะมีรายการของตัวเองทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว ส่วนผังรายการอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันของ NBTนั้น ตนไม่ทราบว่าจะเลื่อนหรือปรับอย่างไร เพราะเป็นหน้าที่ของ NBT ที่จะจัดผังรายการ
**หมักอ้างฟังเอเอสทีวีแล้วทนไม่ไหว
ทั้งนี้ วานนี้(20ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ ‘สนทนาประสาสมัค’ ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเป็นประจำทุกเช้าวันอาทิตย์ โดยเนื้อหาหลักยังมุ่งโจมตีฝ่ายตรงข้ามหลายกรณี โดยเฉพาะ ประชาชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายสมัคร อ้างว่า เมื่อคืนวันเสาร์(19ก.ค.) ได้ฟังการถ่ายทอดการชุมนุมของพันธมิตรฯราว 1 ชั่วโมง
“ผมต้องร้องทุกข์กับคนทั้งประเทศวันนี้ เพราะเป็นการปลุกระดมกันกลางเมือง แล้วใช้ระบบเทคโนโลยีถ่ายทอดให้คนทั้งบ้านทั้งเมืองได้ฟัง เผากัน เขาบอกว่าชุมนุมกันมา 50 วันชื่นชมกัน วันที่ 25 นี้จะครบเดือน ชื่นชมโสมนัส ทำสำเร็จแล้ว แต่เมื่อคืนผมฟังก็ขอบคุณที่อุตส่าห์บอกหมดเลย ว่าจะทำอย่างไร ปลุกระดมให้คนทั่วประเทศได้ฟังอย่างไร จะยึดบ้านเมืองได้เขาประกาศเองเลย เขาจะจัดดาวกระจายที่นายพลตรีออกมาพูดจาเพื่อให้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ซึ่งผมไม่มีปัญญาที่จะรับผิดชอบ ไม่มีปัญหาอะไร บอกจะกระจายไปทั่วประเทศ เมื่อคืนแถลงเลยว่าจะไปจังหวัดนั้น จังหวัดนี้”
**กุเรื่องอ้างพบแผนยึดศาลากลางจังหวัด
นายสมัคร ขยายความว่า เป้าหมายของพันธมิตรฯ คือ วันที่ 28 กรกฎาคมนี้ โดยอ้างว่ามีสายของตนรายงาน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ลักษณะการพูดนี้เหมือนกับที่เขาพูดถึงการปฎิวัติรัฐประหาร การจะถูกคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิภายหลังเดินทางกลับจากจีน
“ รออะไร รอให้ศาลจัดการเอารัฐบาลชุดนี้ให้มันหมด ให้มันพ้น รอให้ ป.ป.ช.จัดการ ให้รัฐบาลนี้ถูกยุติการทำงาน แล้วเป็นอย่างไร เขาจะอะไร เรามองเห็นร่องรอย เขาต้องการคือ ผมก็มีสายรายงานของผมเหมือนกัน สุดท้ายดาวกระจายทั้งหมดนี่จะยึดศาลากลางทั้ง 75 จังหวัด 73 จังหวัด ทางปักษ์ใต้คงจะไม่ยึด หรืออาจจะยึดด้วยก็ได้ ยึดหมดไม่มีอาวุธเข้าไป แต่ขวางไม่ให้รัฐบาลทำงาน” นายสมัครกล่าว
นายสมัคร ยังบอกด้วยว่า เหตุผลของพันธมิตรฯที่ทำเช่นนี้ก็เพราะต้องการให้ทหารออกมาปฎิวัติ
“ เขาแน่ใจว่าทหารจะต้องออกมา คนเป็นทหารต้องคิดปฏิวัติไปคราวที่แล้ว เสียหายกว่าจะเอากลับคืนมาได้ คนที่มาทำกลับคืน คือรัฐบาลผม กว่าจะกอบกู้กลับเข้ามาได้ บัดนี้จะล่อให้อีกแล้ว จำเป็นจะต้องทำถ้ายึดศาลากลางทั้งหมด เราจะต้องทำ แล้วอย่างไร ขายหน้าไปทั่วโลกไหม เหมือนกับเรื่องปราสาทพระวิหารนี่เข้าใจไม่ได้ จะเอากันให้ได้ และเอากันจนกระทั่งจบไป ก็ถึง สหประชาชาติ แล้วเรื่องนี้จะทำอย่างไร เรื่องนี้ก็จะเอากัน คือต้องการเอารัฐบาลนี้ออก”
**สั่งโฆษกรัฐบาลตอบโต้ทุกวัน
นายสมัคร ยังกล่าวหา ว่า ASTV เป็นโทรทัศน์ที่ผิดกฎหมาย
“ASTV ที่ออกอากาศไปทั่วหมด ทุกวัน เผากันทุกวัน โฆษณาอะไรต่าง ๆ จัดการส่งบริจาคเงิน ส่งกับข้าวมาให้ ผัดก๋วยเตี๋ยวมาให้ เพราะฟังแล้วก็มันด่าข้างเดียว ด่าหยาบด่าคายด่านั่น ด่าทั้งประเทศทั่วประเทศ ออกอากาศได้ ผิดกฎหมายแต่ออกอากาศได้”
นายสมัคร กล่าวว่า ทีแรกคิดว่าสัก 7 วันด่ากันหนหนึ่งไม่เป็นไร แต่บัดนี้ต้องหาทางแก้ไข ต้องให้ทางกองงานโฆษกเขาจัดการ จะต้องตอบโต้กันทุกวัน ถ้าไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรต่อไป
ส่วนคำถามที่ถามว่า ASTV ออกอากาศ 24 ชั่วโมง ด่ารัฐบาล จนเชื่อกันเกือบจะหมดค่อนเมืองแล้วว่ารัฐบาลนี้เลวจริง จะแก้ไขยังไรนั้น นายสมัคร กล่าวว่า จะแก้ไขโดย ต่อไปนี้ จะตอบโต้ทุกวัน
“คอยดูก็แล้วกัน ตั้งแต่พรุ่งนี้ (21 ก.ค.) เวลา 22.00 น. ช่องนี้ล่ะ (สถานีโทรทัศน์ NBT) วันละชั่วโมง คอยติดตามดูนะ ท่านพี่น้องทั้งประเทศ ท่านใช้วิจารณญาณดู ไอ้ดูโทรทัศน์ที่เขาเผากันมาหลายเดือนนั้น ก็เอาเถอะเขาทำอย่างนั้นได้ เพราะมีการรับรอง กำลังนี้เราก็จะอธิบายความ ท่านคอยดูช่อง 11 (NBT) สี่ทุ่ม ทุกวันนะ จันทร์-ศุกร์ จะมีคนมาอธิบายให้ท่านฟัง จะได้หักล้างกันทุกประเด็น ทุกวัน”
สำหรับคำถามที่ถามว่า ช่องสาธารณะที่บอกว่ารัฐบาลต้องจ่ายปีละ 2,000 ล้าน แต่คนจัดรายการแสดงอาการกระแนะกระแหนรัฐบาล จะจัดการยังไงนั้น นายสมัคร กล่าวว่า ก็ต้องทน เขาแสดงอาการ เอาเรื่องญี่ญี่ปุ่น จัดการหาหลักฐานมา ช่องนี้ล่ะ วันเริ่มต้นเอาไอ้เรื่อง 6 ตุลาฯ มาเล่นกัน ตนเป็นนายกฯปั๊บ ไอ้ช่องนี้เอา 6 ตุลาฯ ออกมาถล่มทันทีเลย แล้วช่องที่มีพฤติการณ์อย่างนี้ รัฐบาลต้องจ่ายปีละ 2,000 ล้าน กองการโฆษกเขากำลังขอ รัฐบาลจะขอไปออกอากาศวันละชั่วโมง กำลังส่งขอไป
**โทษมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาล
นายสมัคร กล่าวว่า เขากล่าวหาว่ารัฐบาลชุดนี้ที่ดิ้นรนกระวนกระวายแก้รัฐธรรมนูญ เพราะมันพัวพันตัวเอง จึงต้องกำจัดต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าพูดกันจริง ๆ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนเป็นกับดักไว้ ถ้าหากรัฐบาลธรรมดามาอยู่ไม่มีมานั่งตอแย ยังพออาศัย กึกกัก ๆ ยังทำอะไรไม่ได้ แต่บัดนี้มันมีตัวที่คอยส่งคอยเสริม คอยแยง คอยดึง ทางสมาชิกวุฒิสภาผ่าเป็น 2 ท่อน ท่อนหนึ่งเลือกของตัวมา 74 แล้วเลือกตั้งมา 76 แล้วจะเอา ส.ว.77 คนไปยื่นถอดถอน ครม. ทั้งคณะ แต่คิดได้ว่า หาก 77 คนลงชื่อยื่นไป ก็จะไม่มีสิทธิโหวต เพราะถ้าโหวตต้องใช้เสียง ส.ว. 3 ใน 5 เลยเปลี่ยนใหม่ เอา 2 คนไปยื่น ไปเอาคนมา 4 หมื่น จัดการยื่น ป.ป.ช. ถอดถอน ครม. ทั้งคณะ ตอนนี้ก็รอกันถ้า ป.ป.ช.สั่งรับเรื่องก็ให้ยุติการทำงาน
“ ถามว่าทางเราทำไหม เราก็ให้คนไปยื่น 2 หมื่นชื่อ แต่ฟังแล้วต้องคิดว่ามันเวรกรรมจริงๆ ส่งรายชื่อไป 2 หมื่น ก็ให้ไปตรวจรายชื่อจนป่านนี้ยังตรวจไม่ได้ แต่ 4 หมื่นกว่าตรวจเสร็จ ถามว่าทำไมถึงตรวจเร็ว เขาบอกว่าเตรียมคนเอาไว้ตรวจ 4 หมื่นชื่อ ตรวจปั๊บเดียวก็ยื่นได้ แต่ 2 หมื่นชื่อของเราถามไปบอกว่า เขาไม่ได้เตรียมเอาไว้ เห็นไหมว่าอะไรเป็นอะไร มีใครอยู่ข้างหลังอย่างไร ใครสั่งการอะไรใครอย่างไร แต่ผมแน่ใจว่าผมมีความสามารถที่จะนำนาวานี้ฝ่าคลื่นลมได้ ผมทำงานได้ ไม่มีปัญหา”นายสมัคร กล่าว
**ยืนยันป.ป.ช.ผิดกฎหมาย
นายสมัคร กล่าวต่อว่า เหตุที่ปรับทุกข์วันนี้ เพราะมีการกำหนดกฎเกณฑ์กัน วันที่ 28 กรกฎาคมนี้จะเริ่ม ระหว่างนี้ก็ดูที่ ป.ป.ช. และที่ต้องพูดถึง ป.ป.ช. เพราะตนก็เป็นคนที่มีความคิด มีความรู้ด้านกฎหมาย ที่พูดวันนั้นเพียงแต่คิดว่าตัวเองได้รับโปรดเกล้าฯ และคณะหนึ่งกำลังจะมาถอดถอน เป็นพวกที่ไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ใช้คำว่าโปรดเกล้าฯ
นายสมัคร อธิบายว่าเมื่อเขายึดอำนาจกันเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เขามีประกาศให้เอากฎหมาย ป.ป.ช.ปี 2542 ไว้ทั้งฉบับ ส่วนการสรรหา ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ให้เป็นไปตามประกาศ คปค. แต่เมื่อทำอย่างนั้นแล้ว เมื่อมีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี การแต่งตั้ง ป.ป.ช.9 คน จะต้องนำความขึ้นปราบบังคทูล เพื่อโปรดเกล้าฯ การจะนับให้อยู่ครบ 9 ปี ต้องนับตั้งแต่วันที่โปรดเกล้าฯ ต่อมารู้ว่าทำไม่ถูกต้อง ก็ส่งเรื่องกราบบังคับทูลก็ไม่โปรดเกล้าฯจนบัดนี้ คนหนึ่งใน ป.ป.ช. 9 คน ออกมาอธิบายว่าไม่รู้กฎหมายว่า มาตรา 309 นั่นละเป็นคนที่ออกไว้ทั้งหมด
“ ผมจะถามคนยึดอำนาจ ยึดอำนาจของพระเจ้าอยู่หัวไปด้วยหรือ ยึดอำนาจอย่างไร พระราชอำนาจพระเจ้าอยู่หัวเขาก็ไม่ได้แตะต้อง ฉะนั้นเท่ากับเป็นนายกรัฐมนตรีสั่งการ ที่เขียนไว้เป็นแค่ยกเว้นวิธีการสรรหา แล้วให้ใช้กฎหมาย ป.ป.ช.ปี 2542 ดังนั้นก็ต้องทำตามกฎหมายปี 2542 คือต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯแล้วก็จะปฎิบัติงานได้ ผมก็มีสิทธิที่จะบอกว่าพวกคุณทำไม่ถูกต้อง แล้วมาอ้างว่า มาตรา 309 คอบคลุมสิ่งที่ทำทั้งหมด ถ้าว่าครอบคลุมก็ครอบคลุมไปแต่ครอบคลุมพระราชอำนาจพระเจ้าอยู่หัวไหม เวลาที่แต่งตั้งข้าราชการซี 10 ต้องส่งไปโปรดเกล้าฯ ไหม ก็ต้องส่งไปโปรดเกล้าฯ ไม่อย่างนั้นเขาก็ดำรงตำแหน่งไม่ได้ เขาก็รับเงินเดือนไม่ได้ ก็คุณละเมิดพระราชอำนาจพระเจ้าอยู่หัว หรือคุณจะยืนยัน ใครที่ทำยึดอำนาจไว้จะไปยืนยันไว้ว่าได้ยึดอำนาจพระเจ้าอยู่หัวไว้ด้วย เพราะฉะนั้น พระเจ้าอยู่หัวจะทำอะไรไม่ได้หลังจากนั้น ไปคิดไปตรองดูให้ดี แล้วคณะนี้ละ คณะ ป.ป.ช.9 คนนี้กำลังจะมาเล่นงานให้คณะรัฐมนตรีของผมหลุดไป"
นายสมัคร กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาว่าขัด รัฐธรรมนูญ ม.190ว่า อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่าในคำวินิจฉัย ศาลได้ใช้ถ้อยคำ ซึ่งไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญท้วงได้ เขาบอกท่านใช้ถ้อยคำตัดสินว่าต้องเอาเข้าสภาฯ เป็นถ้อยคำที่ไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ คือถ้าตรงไปตรงม าก็ต้องไม่เอาเข้า แต่ไปๆ มาๆ ถ้าตัดสินแบบนี้ เขียนมาอย่างนี้ แปลว่าเอาเข้า เอาเข้าแล้วทำอย่างไร รัฐมนตรีเขาก็ลาออกเพื่อจะแสดงความรับผิดชอบ ก็จะเอารัฐมนตรีไปถอดถอน ไม่พอคือเอา ครม.ทั้งคณะไปถอดถอนเพื่อจะต้องฆ่ารัฐบาลชุดนี้ให้พ้นออกไปซะ บ้านเมืองจะบรรลัยวายวอด จะเสียหายอย่างไรก็ตามแต่ มันวางแผนกันไว้หมด จะให้ใครอยู่ จะให้ใครกั้นกัน เขาทำไว้ ทำไมตนจะไม่รู้
**ซัดกกต.ส่งชิมไปบ่นไปเพื่อฆ่า
นายสมัคร กล่าวว่า แม้กระทั่งคดีธรรมดาๆ ทึ่ตนจัดรายการ "ชิมไปบ่นไป" คณะอนุกรรมการเขาเสนอ กกต. ว่า มันไม่มีปัญหา ไม่เข้าข่ายอะไรทั้งสิ้น แต่ กกต.อยากเอาข้อกฎหมายไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเลยส่งเรื่องไป ตนเห็นว่า กกต.ทำไม่ถูก เพราะ รัฐธรรมนูญ ม. 11 ระบุว่าต้องกล่าวหาว่าทำผิดถึงจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อส่งเรื่องของตนขึ้นไปก็ต้องมานั่งรออีกแล้ว รอให้ศาลฆ่า ถ้านายกฯ โดนฆ่าตายเพราะไปทำชิมไปบ่นไป ทั้งที่ตนมีเอกสารหมดว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างบริษัท เป็นคนไปแสดงทำมา 7 ปี ฝ่ายกฎหมายเขาบอกว่าตนเป็นคนรับจ้าง ไม่ใช่ลูกจ้าง อนุกรรมการของ กกต.ตรวจสอบบอกไม่มีอะไร กกต. สั่งก็จบ แต่กลับส่งขึ้นไป แล้วมีวุฒิสมาชิก 29 คน เคียดแค้นชิงชังอะไรกันมาเอาไปยื่นศาล นั่นละ ทำให้ กกต. คิดว่าส่งไปเลย
“ ท่านส่งผิดครับ ท่านส่งไป ท่านก็ส่งผมไปฆ่า เหมือนกับว่าผมผิด ถ้าผมไม่ผิดส่งไม่ได้ครับ ลองดูก็แล้วกัน เขากำลังท้วงท่านอยู่ เรื่องนี้เราก็ระมัดระวังไม่อยากไปแตะต้อง ไม่อยากไปพูดถึงทางศาล ไม่อยากไปพูดถึง กกต. ไม่อยากพูดถึง ป.ป.ช. แต่จำเป็นต้องพูดให้รู้กันเสีย เพราะปุ๊บปั๊บ ๆ ป.ป.ช. สั่งปั๊บ ต้องหยุดบริหาร อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองไม่รู้ รัฐธรรมนูญนี้ก็เขียนเตรียมการกันไว้ เหตุรัฐบาลเก่าอย่างไรก็ใส่ ๆ ๆ ๆ กันไว้ รัฐบาลใหม่เข้ามาก็มารับเคราะห์รับกรรมอยู่นี่”
**ปัดตามรัฐบาลสร้างปัญหาไม่ใช้รธน.
นายสมัคร ปฎิเสธที่ตอบคำถามประชาชนที่ว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญ แต่เกิดขึ้นจากตัวรัฐบาลเองนัว่า เรื่องนี้จะไม่ตอบให้เสียเวลา ปัญหาเกิดจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกับดักที่วางไว้ รัฐบาลไหนเข้ามาถ้าหากไม่มีคนมาช่วยลูกคู่มาตอแยก็กึกกัก ๆ หน่อย แต่ว่าถล่มทลายอย่างนี้ ก็นับวันไปเลย ยืนยันแล้วว่า เขาเขียนกฎหมายต้อนไว้ ส่งอำนาจไปให้ทางศาลวินิจฉัย กำลังนี้เขาก็รอกันด้วยความกระหาย
นายสมัคร กล่าวว่า ตนเข้าตามตรอกออกตามประตู แต่กำลังจะถูกมาตรการเป็นกับดักที่วางไว้ โดยเขียนสอดไว้ในรัฐธรรมนูญ เริ่มใช้มาแล้ว ก็ใช้สิ่งนี้ฆ่ารัฐบาลนี้ แล้วก็จะเอากันให้ตาย แล้วก็จะใช้สิ่งที่อยู่สูงกว่า ที่เราไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์นั้น มาเป็นเครื่องมือในการที่จะปลิดคนในรัฐบาล ตัวรัฐบาล ค่อยๆ ทิ้งค่อยๆ ไป จะใช้องค์กรที่ตั้งเอาไว้เพื่อจะจัดการ
**ประกาศเอาป.ป.ช.ออกให้ได้
นายสมัคร กล่าวว่าถ้าหากว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง จึงได้พบสิ่งที่ตนได้เอ่ยขึ้น เช่น ป.ป.ช. ว่าคณะ ป.ป.ช.นั้นไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ตนก็มีสิทธิ์ที่จะทักท้วงให้คนทั้งบ้านทั้งเมืองนี้เห็นว่าทำยังไง จะเถียงต่อไปจนถึงมาตรา 309 ก็บอกว่าถ้าคุณยืนยันอย่างนั้น แปลว่าคณะที่ยึดอำนาจนั้นได้ยึดพระราชอำนาจจากพระเจ้าอยู่หัวฯ เอาไปไว้ในมือด้วย ซึ่งให้ตอบมาซิว่าทำอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ทำอย่างนั้นจริง มาตรา 42 ยังต้องปฏิบัติตาม อยู่ได้ 9 ปี ให้นับวันตั้งแต่วันที่โปรดเกล้าฯ ทุกอย่างยังใช้ตามนั้น คุณไม่ได้ทำ
“ผมบ่นเมื่อคราวอาทิตย์ที่แล้วว่า คณะที่ไม่ได้โปรดเกล้าฯ นี่ล่ะครับ กำลังจะจัดการเอาคณะที่ได้รับทั้งโปรดเกล้าฯ ทั้งถวายสัตย์ปฏิญาณ มาตามถูกต้อง กำลังจะให้ยุติการทำงานด้วยคณะที่ทำไม่ถูกต้องนี่ล่ะ เพราะฉะนั้นประชาชนทั้งประเทศได้โปรดกรุณา ลองช่วย ลองช่วยคิดดูแล้วกันว่า แล้วความเป็นธรรมมันจะอยู่ที่ไหนในบ้านเมืองนี้”
นายสมัคร กล่าวว่าตัวเองแน่ใจมีความสามารถ ในการบริหารบ้านเมือง และแน่ใจว่าถือหางเสือบ้านเมืองนี้ได้ และแน่ใจว่าตัวเองมีสถานะ สติปัญญาความคิด และมีความรู้จักคุ้นเคยกับผู้คนในโลกนี้ อย่างน้อยก็ 10 ประเทศที่เดินทางไปแล้ว เขารู้ว่าเขาเป็นใครยังไง ตนเป็นใคร คิดยังไง เขารู้ว่าเขาคบค้าสมาคมกับประเทศไทยได้ แต่ทว่า ตนอาจจะไม่มีโอกาสที่จะดำเนินการต่อไป ถ้าหากว่าจะใช้มาตรการ 40,000 คน พัวะเดียว จะยื่นได้ทันที แต่ 20,000 คนรัฐบาลจะยื่นบ้าง ยื่นไม่ได้ ยังตรวจสอบไม่เสร็จ
**ยกตนจงรักภักดีต่อสถาบันกว่าใคร
นอกจากนี้ นายสมัคร กล่าวว่า การที่พันธมิตรฯระบุว่า คนอย่างนายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีไม่เคยพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แล้วจะบอกจงรักภักดีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
“พุทโธ่ คนที่พูดเกิดทันไหม โตทันไหม ผมตามเสด็จฯ โครงการนี้มาตั้งแต่เป็นรัฐมนตรี ซึ่งเป็นมาแล้ว 5 หน เป็นรองนายกรัฐมนตรี 3 หน เวลารับราชการ ต้องตามเสด็จฯ ทุกโครงการ ตนรู้อะไรต่าง ๆ รู้ นโยบายของท่านสั่งดีเรียบร้อยดี เป็นประโยชน์กับผู้คน แต่จะบังคับให้ประกาศเป็นนโยบาย ถ้าเป็นนโยบายแล้วมันขบไหม มันขบ ฉะนั้นจะมาอ้างไม่จงรักภักดีไม่ใช่ สนับสนุนเต็มที่ ไปที่ไหน ปาฐกถา ตนยังพูดถึงว่าเพราะเรามีระบบที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน และได้พระราชทานไว้คือระบบที่พอเพียงทำให้เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนที่เราล้มฟุบลงไปนั้น ถ้าไปในที่ที่ใช้เศรษฐกิจพอเพียงเขาอยู่ได้ ต่างประเทศก็เอาไปใช้ในประเทศที่มีปัญหา แต่ในกรณีที่มีความเจริญก้าวหน้าอยู่ เราไปประกาศ มันจะขบมันจะขัดไหม ไม่ได้เรื่องพรรค์อย่างนี้”
นายสมัคร กล่าวว่าต้องรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร คนอย่างนายสมัคร สุนทรเวช ไม่จงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ กำลังลากตนเข้าไปด้วยแล้ว เมื่อคืนอวดเลย ที่ออกมาทั้งหมดที่เราใส่เสื้อเหลือง เพราะเราปกป้องสถาบัน คำก็ปกป้องสถาบัน นักร้องนายหรั่ง ร็คเครสต้าก็ออกมาพูดจาอะไรต่าง ๆ อยากจะบอกให้ฟัง ถ้าไม่รู้แล้วอย่าอ้าปากมาอวด แสดงความจงรักภักดีเรียกสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เรียกว่ารัชกาลที่ 9 นี่ละคนจงรักภักดี เขาไม่เรียกกันหรอก คนที่ไม่รู้แล้วอวดจะแสดง เขาเรียกว่ารัชกาลปัจจุบัน รัชกาลที่ 1-รัชกาลที่ 8 และรัชกาลปัจจุบัน เรียกกันเต็มปากเต็มคำ รัชกาลที่ 9 คนพรรค์นี้แหละ ที่อ้าง ที่มาเหยียดหยามคนอย่างตนว่าไม่จงรักภักดี
จากกรณี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ประกาศผ่านรายการ ‘สนทนาประสาสมัคร’ ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ทุกเช้าวันอาทิตย์ จะจัดการรายการตอบโต้ เอเอสทีวี ซึ่งถ่ายทอดการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเวลา 22.00 น.ทุกคืนโดยจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 ก.ค.นี้เป็นต้นไปนั้น
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิ์ของนายสมัคร แต่ ใครโกหก ใครพูดจริง ประชาชนจะตัดสินเอง เราไม่กังวล เพราะเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องนี้หารือแกนนำพันธมิตรฯ ว่า จะต้องตอบโต้อย่างไร เรื่องไหนจริง เรื่องไหนไม่จริง ตรงไหนต้องชี้แจงหรือไม่
พล.ต.จำลองกล่าวถึงการนายสมัครกล่าวหาพันธมิตรฯส่งคนไปยึดศาลากลางทุกจังหวัดด้วยว่า เป็นการโกหกแล้วโกหกอีกไม่เป็นความจริง จะยึดศาลากลางไปทำไม ถ้าจะยึด ยึดทำเนียบฯดีกว่า เพราะอยู่ใจกลางมากกว่า การยึดศาลากลางไม่มีอยู่ในหัวคิดทางกลุ่มพันธมิตรฯเลย เชื่อว่านายสมัครต้องการพูดเรื่องนี้ให้ประชาชนหวาดกลัว และสงสารรัฐบาลมากกว่า ซึ่งเชื่อว่าประชาชนรู้เองว่าใครโกหกประชาชนคงไม่เชื่อ
ขณะที่ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯอีกคนหนึ่งกล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า การที่นายกรัฐมนตรีใช้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีชี้แจงโต้ข้อกล่าวหาของพันธมิตรฯนั้น เห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเป็นเงินภาษีของประชาชน รัฐบาลควรใช้พีทีวีเป็นสถานีชี้แจงของฝ่ายรัฐบาลจะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นเงินที่ได้มาจากการบริจาคของกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล ทั้งนี้ การจัดรายการวันอาทิตย์ของนายกรัฐมนตรีในตอนเช้าก็ถือว่าเอาเปรียบฝ่ายอื่นอยู่แล้ว สิ่งที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดถือว่า ไม่แม่นในเรื่องข้อกฎหมาย รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องการบริหารนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องปราสาทพระวิหาร ไม่ได้เกิดจากกลุ่มพันธมิตรฯ แต่อย่างใด
**เชื่อรัฐบาลธาตุไฟแตกแล้ว
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถที่จะครองใจประชาชนได้อีกต่อไป โดยขณะนี้เกิดอาการไฟธาตุแตกประกาศใช้สื่อของรัฐจัดรายการตอบโต้เอเอสทีวี ซึ่งที่ผ่านมาช่อง 11 รับใช้นักการเมืองมานาน ตั้งแต่ 14 ตุลา 16 และพร้อมรับใช้รัฐบาลทรราช รัฐบาลหุ่นเชิด จึงไม่น่าแปลกใจที่เผากรมประชาสัมพันธ์ถึง 2 ครั้ง
“ตอนนี้สายน้ำเกลือ สายออกซิเจน ระโยงระยางไปหมด พันธมิตรฯ ถอดสายน้ำเกลือให้เมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น ตอนนี้รัฐบาลสารภาพแล้วน่าสงสารนายสมัครมาก อยากกรวดน้ำให้ นายกฯยอมรับแล้วว่าคงบริหารประเทศไม่ครบเทอม อ้างติดกับดักรัฐธรรมนูญและคดีต่างๆ ที่จะทยอยขึ้นสู่การพิพากษาของศาล กล่าวหาว่าศาลจะล้มรัฐบาลหุ่นเชิดให้ได้ ทั้งหมดนี้เกิดจากขบวนการเกลียดชังทักษิณ แล้วลากเอาลากเอานายสมัครไปฆ่าให้ตายด้วย ผมบอกให้ว่าประชาชนไม่ได้เกลียดชังสมัคร แต่ขยะแขยงรัฐบาลหุ่นเชิด และประชาชนไม่ได้ล้มรัฐบาล แต่จะเอารัฐบาลติดคุก และประหารชีวิต”
“ซ้ำยังกล่าวหา 5 แกนนำเป็นหัวโจก โดยใช้เอเอสทีวีเป็นกระบอกเสียง ซึ่งผิดกฎหมาย ออกอากาศได้อย่างไร เอาสีข้างเข้าถู ไม่รู้หรือว่าศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ออกอากาศได้ และยังสั่งกรมประชาสัมพันธ์ฯจ่ายค่าปรับให้เอเอสทีวีอีก” แกนนำพันธมิตรฯกล่าว
**ผอ.NBTมึนสมัครขอเวลา
นายสุริยงค์ หุณฑสาร รักษาการผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีที กล่าว ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานจากทีมงานโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับรายการดังกล่าวว่ารายละเอียดจะเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้รับการประสานงานมาก่อนล่วงหน้า โดยตนเพิ่งทราบตอนที่นายกฯพูดในรายการเช่นกัน
นายสุริยงค์ กล่าวเพ่มเติมว่า ช่วงเวลาดังกล่าวผังรายการเดิมจะเป็นรายการ 'ข่าวหน้า4' ซึ่งเป็นรายการวิเคราะห์ข่าวสถานการณ์ทั่วไป โดยสถานีพร้อมจะตัดทุกรายการออกไป หากเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
**รองโฆษกลูกกรอกรับลูกสมัคร
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการออกรายการโทรทัศน์ทาง NBT กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อตอบโต้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ว่าเรื่องนี้เป็นการหารือกันระหว่างนายสมัคร สุนทรเวช กับทีมโฆษกรัฐบาลเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่า บางกลุ่มใช้สื่อหลายช่องทาง พุ่งเป้าโจมตีรัฐบาล เพื่อโค่นล่มรัฐบาลนี้ ฉะนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องมีช่องทางสื่อสารกับประชาชนในการรับทราบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่โจมตีรัฐบาลว่ามีการบิดเบือน
ฉะนั้นรายการนี้จะอธิบายข้อมูลความจริงอย่างเป็นเหตุผลและมีหลักฐานครบถ้วน ชี้แจงแบบทันเกมทันควันในทุกประเด็นที่บางฝ่ายโจมตีรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนรับข้อมูลจากทุกฝ่ายไปพิจารณาและตัดสินใจ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดของรายการนี้ขอไปแถลงข่าวในวันที่21ก.ค.เวลา 10.30น. ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
ส่วนพิธีกรนั้น นายกรัฐมนตรีบอกชัดแล้วว่าทีมโฆษกรัฐบาล จะทำหน้าที่นี้ โดยนายกรัฐมนตรี จะไม่มาร่วมชี้แจง เพราะมีรายการของตัวเองทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว ส่วนผังรายการอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันของ NBTนั้น ตนไม่ทราบว่าจะเลื่อนหรือปรับอย่างไร เพราะเป็นหน้าที่ของ NBT ที่จะจัดผังรายการ
**หมักอ้างฟังเอเอสทีวีแล้วทนไม่ไหว
ทั้งนี้ วานนี้(20ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ ‘สนทนาประสาสมัค’ ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเป็นประจำทุกเช้าวันอาทิตย์ โดยเนื้อหาหลักยังมุ่งโจมตีฝ่ายตรงข้ามหลายกรณี โดยเฉพาะ ประชาชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายสมัคร อ้างว่า เมื่อคืนวันเสาร์(19ก.ค.) ได้ฟังการถ่ายทอดการชุมนุมของพันธมิตรฯราว 1 ชั่วโมง
“ผมต้องร้องทุกข์กับคนทั้งประเทศวันนี้ เพราะเป็นการปลุกระดมกันกลางเมือง แล้วใช้ระบบเทคโนโลยีถ่ายทอดให้คนทั้งบ้านทั้งเมืองได้ฟัง เผากัน เขาบอกว่าชุมนุมกันมา 50 วันชื่นชมกัน วันที่ 25 นี้จะครบเดือน ชื่นชมโสมนัส ทำสำเร็จแล้ว แต่เมื่อคืนผมฟังก็ขอบคุณที่อุตส่าห์บอกหมดเลย ว่าจะทำอย่างไร ปลุกระดมให้คนทั่วประเทศได้ฟังอย่างไร จะยึดบ้านเมืองได้เขาประกาศเองเลย เขาจะจัดดาวกระจายที่นายพลตรีออกมาพูดจาเพื่อให้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ซึ่งผมไม่มีปัญญาที่จะรับผิดชอบ ไม่มีปัญหาอะไร บอกจะกระจายไปทั่วประเทศ เมื่อคืนแถลงเลยว่าจะไปจังหวัดนั้น จังหวัดนี้”
**กุเรื่องอ้างพบแผนยึดศาลากลางจังหวัด
นายสมัคร ขยายความว่า เป้าหมายของพันธมิตรฯ คือ วันที่ 28 กรกฎาคมนี้ โดยอ้างว่ามีสายของตนรายงาน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ลักษณะการพูดนี้เหมือนกับที่เขาพูดถึงการปฎิวัติรัฐประหาร การจะถูกคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิภายหลังเดินทางกลับจากจีน
“ รออะไร รอให้ศาลจัดการเอารัฐบาลชุดนี้ให้มันหมด ให้มันพ้น รอให้ ป.ป.ช.จัดการ ให้รัฐบาลนี้ถูกยุติการทำงาน แล้วเป็นอย่างไร เขาจะอะไร เรามองเห็นร่องรอย เขาต้องการคือ ผมก็มีสายรายงานของผมเหมือนกัน สุดท้ายดาวกระจายทั้งหมดนี่จะยึดศาลากลางทั้ง 75 จังหวัด 73 จังหวัด ทางปักษ์ใต้คงจะไม่ยึด หรืออาจจะยึดด้วยก็ได้ ยึดหมดไม่มีอาวุธเข้าไป แต่ขวางไม่ให้รัฐบาลทำงาน” นายสมัครกล่าว
นายสมัคร ยังบอกด้วยว่า เหตุผลของพันธมิตรฯที่ทำเช่นนี้ก็เพราะต้องการให้ทหารออกมาปฎิวัติ
“ เขาแน่ใจว่าทหารจะต้องออกมา คนเป็นทหารต้องคิดปฏิวัติไปคราวที่แล้ว เสียหายกว่าจะเอากลับคืนมาได้ คนที่มาทำกลับคืน คือรัฐบาลผม กว่าจะกอบกู้กลับเข้ามาได้ บัดนี้จะล่อให้อีกแล้ว จำเป็นจะต้องทำถ้ายึดศาลากลางทั้งหมด เราจะต้องทำ แล้วอย่างไร ขายหน้าไปทั่วโลกไหม เหมือนกับเรื่องปราสาทพระวิหารนี่เข้าใจไม่ได้ จะเอากันให้ได้ และเอากันจนกระทั่งจบไป ก็ถึง สหประชาชาติ แล้วเรื่องนี้จะทำอย่างไร เรื่องนี้ก็จะเอากัน คือต้องการเอารัฐบาลนี้ออก”
**สั่งโฆษกรัฐบาลตอบโต้ทุกวัน
นายสมัคร ยังกล่าวหา ว่า ASTV เป็นโทรทัศน์ที่ผิดกฎหมาย
“ASTV ที่ออกอากาศไปทั่วหมด ทุกวัน เผากันทุกวัน โฆษณาอะไรต่าง ๆ จัดการส่งบริจาคเงิน ส่งกับข้าวมาให้ ผัดก๋วยเตี๋ยวมาให้ เพราะฟังแล้วก็มันด่าข้างเดียว ด่าหยาบด่าคายด่านั่น ด่าทั้งประเทศทั่วประเทศ ออกอากาศได้ ผิดกฎหมายแต่ออกอากาศได้”
นายสมัคร กล่าวว่า ทีแรกคิดว่าสัก 7 วันด่ากันหนหนึ่งไม่เป็นไร แต่บัดนี้ต้องหาทางแก้ไข ต้องให้ทางกองงานโฆษกเขาจัดการ จะต้องตอบโต้กันทุกวัน ถ้าไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรต่อไป
ส่วนคำถามที่ถามว่า ASTV ออกอากาศ 24 ชั่วโมง ด่ารัฐบาล จนเชื่อกันเกือบจะหมดค่อนเมืองแล้วว่ารัฐบาลนี้เลวจริง จะแก้ไขยังไรนั้น นายสมัคร กล่าวว่า จะแก้ไขโดย ต่อไปนี้ จะตอบโต้ทุกวัน
“คอยดูก็แล้วกัน ตั้งแต่พรุ่งนี้ (21 ก.ค.) เวลา 22.00 น. ช่องนี้ล่ะ (สถานีโทรทัศน์ NBT) วันละชั่วโมง คอยติดตามดูนะ ท่านพี่น้องทั้งประเทศ ท่านใช้วิจารณญาณดู ไอ้ดูโทรทัศน์ที่เขาเผากันมาหลายเดือนนั้น ก็เอาเถอะเขาทำอย่างนั้นได้ เพราะมีการรับรอง กำลังนี้เราก็จะอธิบายความ ท่านคอยดูช่อง 11 (NBT) สี่ทุ่ม ทุกวันนะ จันทร์-ศุกร์ จะมีคนมาอธิบายให้ท่านฟัง จะได้หักล้างกันทุกประเด็น ทุกวัน”
สำหรับคำถามที่ถามว่า ช่องสาธารณะที่บอกว่ารัฐบาลต้องจ่ายปีละ 2,000 ล้าน แต่คนจัดรายการแสดงอาการกระแนะกระแหนรัฐบาล จะจัดการยังไงนั้น นายสมัคร กล่าวว่า ก็ต้องทน เขาแสดงอาการ เอาเรื่องญี่ญี่ปุ่น จัดการหาหลักฐานมา ช่องนี้ล่ะ วันเริ่มต้นเอาไอ้เรื่อง 6 ตุลาฯ มาเล่นกัน ตนเป็นนายกฯปั๊บ ไอ้ช่องนี้เอา 6 ตุลาฯ ออกมาถล่มทันทีเลย แล้วช่องที่มีพฤติการณ์อย่างนี้ รัฐบาลต้องจ่ายปีละ 2,000 ล้าน กองการโฆษกเขากำลังขอ รัฐบาลจะขอไปออกอากาศวันละชั่วโมง กำลังส่งขอไป
**โทษมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาล
นายสมัคร กล่าวว่า เขากล่าวหาว่ารัฐบาลชุดนี้ที่ดิ้นรนกระวนกระวายแก้รัฐธรรมนูญ เพราะมันพัวพันตัวเอง จึงต้องกำจัดต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าพูดกันจริง ๆ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนเป็นกับดักไว้ ถ้าหากรัฐบาลธรรมดามาอยู่ไม่มีมานั่งตอแย ยังพออาศัย กึกกัก ๆ ยังทำอะไรไม่ได้ แต่บัดนี้มันมีตัวที่คอยส่งคอยเสริม คอยแยง คอยดึง ทางสมาชิกวุฒิสภาผ่าเป็น 2 ท่อน ท่อนหนึ่งเลือกของตัวมา 74 แล้วเลือกตั้งมา 76 แล้วจะเอา ส.ว.77 คนไปยื่นถอดถอน ครม. ทั้งคณะ แต่คิดได้ว่า หาก 77 คนลงชื่อยื่นไป ก็จะไม่มีสิทธิโหวต เพราะถ้าโหวตต้องใช้เสียง ส.ว. 3 ใน 5 เลยเปลี่ยนใหม่ เอา 2 คนไปยื่น ไปเอาคนมา 4 หมื่น จัดการยื่น ป.ป.ช. ถอดถอน ครม. ทั้งคณะ ตอนนี้ก็รอกันถ้า ป.ป.ช.สั่งรับเรื่องก็ให้ยุติการทำงาน
“ ถามว่าทางเราทำไหม เราก็ให้คนไปยื่น 2 หมื่นชื่อ แต่ฟังแล้วต้องคิดว่ามันเวรกรรมจริงๆ ส่งรายชื่อไป 2 หมื่น ก็ให้ไปตรวจรายชื่อจนป่านนี้ยังตรวจไม่ได้ แต่ 4 หมื่นกว่าตรวจเสร็จ ถามว่าทำไมถึงตรวจเร็ว เขาบอกว่าเตรียมคนเอาไว้ตรวจ 4 หมื่นชื่อ ตรวจปั๊บเดียวก็ยื่นได้ แต่ 2 หมื่นชื่อของเราถามไปบอกว่า เขาไม่ได้เตรียมเอาไว้ เห็นไหมว่าอะไรเป็นอะไร มีใครอยู่ข้างหลังอย่างไร ใครสั่งการอะไรใครอย่างไร แต่ผมแน่ใจว่าผมมีความสามารถที่จะนำนาวานี้ฝ่าคลื่นลมได้ ผมทำงานได้ ไม่มีปัญหา”นายสมัคร กล่าว
**ยืนยันป.ป.ช.ผิดกฎหมาย
นายสมัคร กล่าวต่อว่า เหตุที่ปรับทุกข์วันนี้ เพราะมีการกำหนดกฎเกณฑ์กัน วันที่ 28 กรกฎาคมนี้จะเริ่ม ระหว่างนี้ก็ดูที่ ป.ป.ช. และที่ต้องพูดถึง ป.ป.ช. เพราะตนก็เป็นคนที่มีความคิด มีความรู้ด้านกฎหมาย ที่พูดวันนั้นเพียงแต่คิดว่าตัวเองได้รับโปรดเกล้าฯ และคณะหนึ่งกำลังจะมาถอดถอน เป็นพวกที่ไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ใช้คำว่าโปรดเกล้าฯ
นายสมัคร อธิบายว่าเมื่อเขายึดอำนาจกันเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เขามีประกาศให้เอากฎหมาย ป.ป.ช.ปี 2542 ไว้ทั้งฉบับ ส่วนการสรรหา ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ให้เป็นไปตามประกาศ คปค. แต่เมื่อทำอย่างนั้นแล้ว เมื่อมีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรี การแต่งตั้ง ป.ป.ช.9 คน จะต้องนำความขึ้นปราบบังคทูล เพื่อโปรดเกล้าฯ การจะนับให้อยู่ครบ 9 ปี ต้องนับตั้งแต่วันที่โปรดเกล้าฯ ต่อมารู้ว่าทำไม่ถูกต้อง ก็ส่งเรื่องกราบบังคับทูลก็ไม่โปรดเกล้าฯจนบัดนี้ คนหนึ่งใน ป.ป.ช. 9 คน ออกมาอธิบายว่าไม่รู้กฎหมายว่า มาตรา 309 นั่นละเป็นคนที่ออกไว้ทั้งหมด
“ ผมจะถามคนยึดอำนาจ ยึดอำนาจของพระเจ้าอยู่หัวไปด้วยหรือ ยึดอำนาจอย่างไร พระราชอำนาจพระเจ้าอยู่หัวเขาก็ไม่ได้แตะต้อง ฉะนั้นเท่ากับเป็นนายกรัฐมนตรีสั่งการ ที่เขียนไว้เป็นแค่ยกเว้นวิธีการสรรหา แล้วให้ใช้กฎหมาย ป.ป.ช.ปี 2542 ดังนั้นก็ต้องทำตามกฎหมายปี 2542 คือต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯแล้วก็จะปฎิบัติงานได้ ผมก็มีสิทธิที่จะบอกว่าพวกคุณทำไม่ถูกต้อง แล้วมาอ้างว่า มาตรา 309 คอบคลุมสิ่งที่ทำทั้งหมด ถ้าว่าครอบคลุมก็ครอบคลุมไปแต่ครอบคลุมพระราชอำนาจพระเจ้าอยู่หัวไหม เวลาที่แต่งตั้งข้าราชการซี 10 ต้องส่งไปโปรดเกล้าฯ ไหม ก็ต้องส่งไปโปรดเกล้าฯ ไม่อย่างนั้นเขาก็ดำรงตำแหน่งไม่ได้ เขาก็รับเงินเดือนไม่ได้ ก็คุณละเมิดพระราชอำนาจพระเจ้าอยู่หัว หรือคุณจะยืนยัน ใครที่ทำยึดอำนาจไว้จะไปยืนยันไว้ว่าได้ยึดอำนาจพระเจ้าอยู่หัวไว้ด้วย เพราะฉะนั้น พระเจ้าอยู่หัวจะทำอะไรไม่ได้หลังจากนั้น ไปคิดไปตรองดูให้ดี แล้วคณะนี้ละ คณะ ป.ป.ช.9 คนนี้กำลังจะมาเล่นงานให้คณะรัฐมนตรีของผมหลุดไป"
นายสมัคร กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาว่าขัด รัฐธรรมนูญ ม.190ว่า อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่าในคำวินิจฉัย ศาลได้ใช้ถ้อยคำ ซึ่งไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญท้วงได้ เขาบอกท่านใช้ถ้อยคำตัดสินว่าต้องเอาเข้าสภาฯ เป็นถ้อยคำที่ไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ คือถ้าตรงไปตรงม าก็ต้องไม่เอาเข้า แต่ไปๆ มาๆ ถ้าตัดสินแบบนี้ เขียนมาอย่างนี้ แปลว่าเอาเข้า เอาเข้าแล้วทำอย่างไร รัฐมนตรีเขาก็ลาออกเพื่อจะแสดงความรับผิดชอบ ก็จะเอารัฐมนตรีไปถอดถอน ไม่พอคือเอา ครม.ทั้งคณะไปถอดถอนเพื่อจะต้องฆ่ารัฐบาลชุดนี้ให้พ้นออกไปซะ บ้านเมืองจะบรรลัยวายวอด จะเสียหายอย่างไรก็ตามแต่ มันวางแผนกันไว้หมด จะให้ใครอยู่ จะให้ใครกั้นกัน เขาทำไว้ ทำไมตนจะไม่รู้
**ซัดกกต.ส่งชิมไปบ่นไปเพื่อฆ่า
นายสมัคร กล่าวว่า แม้กระทั่งคดีธรรมดาๆ ทึ่ตนจัดรายการ "ชิมไปบ่นไป" คณะอนุกรรมการเขาเสนอ กกต. ว่า มันไม่มีปัญหา ไม่เข้าข่ายอะไรทั้งสิ้น แต่ กกต.อยากเอาข้อกฎหมายไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเลยส่งเรื่องไป ตนเห็นว่า กกต.ทำไม่ถูก เพราะ รัฐธรรมนูญ ม. 11 ระบุว่าต้องกล่าวหาว่าทำผิดถึงจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อส่งเรื่องของตนขึ้นไปก็ต้องมานั่งรออีกแล้ว รอให้ศาลฆ่า ถ้านายกฯ โดนฆ่าตายเพราะไปทำชิมไปบ่นไป ทั้งที่ตนมีเอกสารหมดว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างบริษัท เป็นคนไปแสดงทำมา 7 ปี ฝ่ายกฎหมายเขาบอกว่าตนเป็นคนรับจ้าง ไม่ใช่ลูกจ้าง อนุกรรมการของ กกต.ตรวจสอบบอกไม่มีอะไร กกต. สั่งก็จบ แต่กลับส่งขึ้นไป แล้วมีวุฒิสมาชิก 29 คน เคียดแค้นชิงชังอะไรกันมาเอาไปยื่นศาล นั่นละ ทำให้ กกต. คิดว่าส่งไปเลย
“ ท่านส่งผิดครับ ท่านส่งไป ท่านก็ส่งผมไปฆ่า เหมือนกับว่าผมผิด ถ้าผมไม่ผิดส่งไม่ได้ครับ ลองดูก็แล้วกัน เขากำลังท้วงท่านอยู่ เรื่องนี้เราก็ระมัดระวังไม่อยากไปแตะต้อง ไม่อยากไปพูดถึงทางศาล ไม่อยากไปพูดถึง กกต. ไม่อยากพูดถึง ป.ป.ช. แต่จำเป็นต้องพูดให้รู้กันเสีย เพราะปุ๊บปั๊บ ๆ ป.ป.ช. สั่งปั๊บ ต้องหยุดบริหาร อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองไม่รู้ รัฐธรรมนูญนี้ก็เขียนเตรียมการกันไว้ เหตุรัฐบาลเก่าอย่างไรก็ใส่ ๆ ๆ ๆ กันไว้ รัฐบาลใหม่เข้ามาก็มารับเคราะห์รับกรรมอยู่นี่”
**ปัดตามรัฐบาลสร้างปัญหาไม่ใช้รธน.
นายสมัคร ปฎิเสธที่ตอบคำถามประชาชนที่ว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญ แต่เกิดขึ้นจากตัวรัฐบาลเองนัว่า เรื่องนี้จะไม่ตอบให้เสียเวลา ปัญหาเกิดจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกับดักที่วางไว้ รัฐบาลไหนเข้ามาถ้าหากไม่มีคนมาช่วยลูกคู่มาตอแยก็กึกกัก ๆ หน่อย แต่ว่าถล่มทลายอย่างนี้ ก็นับวันไปเลย ยืนยันแล้วว่า เขาเขียนกฎหมายต้อนไว้ ส่งอำนาจไปให้ทางศาลวินิจฉัย กำลังนี้เขาก็รอกันด้วยความกระหาย
นายสมัคร กล่าวว่า ตนเข้าตามตรอกออกตามประตู แต่กำลังจะถูกมาตรการเป็นกับดักที่วางไว้ โดยเขียนสอดไว้ในรัฐธรรมนูญ เริ่มใช้มาแล้ว ก็ใช้สิ่งนี้ฆ่ารัฐบาลนี้ แล้วก็จะเอากันให้ตาย แล้วก็จะใช้สิ่งที่อยู่สูงกว่า ที่เราไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์นั้น มาเป็นเครื่องมือในการที่จะปลิดคนในรัฐบาล ตัวรัฐบาล ค่อยๆ ทิ้งค่อยๆ ไป จะใช้องค์กรที่ตั้งเอาไว้เพื่อจะจัดการ
**ประกาศเอาป.ป.ช.ออกให้ได้
นายสมัคร กล่าวว่าถ้าหากว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง จึงได้พบสิ่งที่ตนได้เอ่ยขึ้น เช่น ป.ป.ช. ว่าคณะ ป.ป.ช.นั้นไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ตนก็มีสิทธิ์ที่จะทักท้วงให้คนทั้งบ้านทั้งเมืองนี้เห็นว่าทำยังไง จะเถียงต่อไปจนถึงมาตรา 309 ก็บอกว่าถ้าคุณยืนยันอย่างนั้น แปลว่าคณะที่ยึดอำนาจนั้นได้ยึดพระราชอำนาจจากพระเจ้าอยู่หัวฯ เอาไปไว้ในมือด้วย ซึ่งให้ตอบมาซิว่าทำอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ทำอย่างนั้นจริง มาตรา 42 ยังต้องปฏิบัติตาม อยู่ได้ 9 ปี ให้นับวันตั้งแต่วันที่โปรดเกล้าฯ ทุกอย่างยังใช้ตามนั้น คุณไม่ได้ทำ
“ผมบ่นเมื่อคราวอาทิตย์ที่แล้วว่า คณะที่ไม่ได้โปรดเกล้าฯ นี่ล่ะครับ กำลังจะจัดการเอาคณะที่ได้รับทั้งโปรดเกล้าฯ ทั้งถวายสัตย์ปฏิญาณ มาตามถูกต้อง กำลังจะให้ยุติการทำงานด้วยคณะที่ทำไม่ถูกต้องนี่ล่ะ เพราะฉะนั้นประชาชนทั้งประเทศได้โปรดกรุณา ลองช่วย ลองช่วยคิดดูแล้วกันว่า แล้วความเป็นธรรมมันจะอยู่ที่ไหนในบ้านเมืองนี้”
นายสมัคร กล่าวว่าตัวเองแน่ใจมีความสามารถ ในการบริหารบ้านเมือง และแน่ใจว่าถือหางเสือบ้านเมืองนี้ได้ และแน่ใจว่าตัวเองมีสถานะ สติปัญญาความคิด และมีความรู้จักคุ้นเคยกับผู้คนในโลกนี้ อย่างน้อยก็ 10 ประเทศที่เดินทางไปแล้ว เขารู้ว่าเขาเป็นใครยังไง ตนเป็นใคร คิดยังไง เขารู้ว่าเขาคบค้าสมาคมกับประเทศไทยได้ แต่ทว่า ตนอาจจะไม่มีโอกาสที่จะดำเนินการต่อไป ถ้าหากว่าจะใช้มาตรการ 40,000 คน พัวะเดียว จะยื่นได้ทันที แต่ 20,000 คนรัฐบาลจะยื่นบ้าง ยื่นไม่ได้ ยังตรวจสอบไม่เสร็จ
**ยกตนจงรักภักดีต่อสถาบันกว่าใคร
นอกจากนี้ นายสมัคร กล่าวว่า การที่พันธมิตรฯระบุว่า คนอย่างนายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีไม่เคยพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แล้วจะบอกจงรักภักดีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
“พุทโธ่ คนที่พูดเกิดทันไหม โตทันไหม ผมตามเสด็จฯ โครงการนี้มาตั้งแต่เป็นรัฐมนตรี ซึ่งเป็นมาแล้ว 5 หน เป็นรองนายกรัฐมนตรี 3 หน เวลารับราชการ ต้องตามเสด็จฯ ทุกโครงการ ตนรู้อะไรต่าง ๆ รู้ นโยบายของท่านสั่งดีเรียบร้อยดี เป็นประโยชน์กับผู้คน แต่จะบังคับให้ประกาศเป็นนโยบาย ถ้าเป็นนโยบายแล้วมันขบไหม มันขบ ฉะนั้นจะมาอ้างไม่จงรักภักดีไม่ใช่ สนับสนุนเต็มที่ ไปที่ไหน ปาฐกถา ตนยังพูดถึงว่าเพราะเรามีระบบที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน และได้พระราชทานไว้คือระบบที่พอเพียงทำให้เมื่อ 10 ปีก่อน ตอนที่เราล้มฟุบลงไปนั้น ถ้าไปในที่ที่ใช้เศรษฐกิจพอเพียงเขาอยู่ได้ ต่างประเทศก็เอาไปใช้ในประเทศที่มีปัญหา แต่ในกรณีที่มีความเจริญก้าวหน้าอยู่ เราไปประกาศ มันจะขบมันจะขัดไหม ไม่ได้เรื่องพรรค์อย่างนี้”
นายสมัคร กล่าวว่าต้องรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร คนอย่างนายสมัคร สุนทรเวช ไม่จงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ กำลังลากตนเข้าไปด้วยแล้ว เมื่อคืนอวดเลย ที่ออกมาทั้งหมดที่เราใส่เสื้อเหลือง เพราะเราปกป้องสถาบัน คำก็ปกป้องสถาบัน นักร้องนายหรั่ง ร็คเครสต้าก็ออกมาพูดจาอะไรต่าง ๆ อยากจะบอกให้ฟัง ถ้าไม่รู้แล้วอย่าอ้าปากมาอวด แสดงความจงรักภักดีเรียกสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เรียกว่ารัชกาลที่ 9 นี่ละคนจงรักภักดี เขาไม่เรียกกันหรอก คนที่ไม่รู้แล้วอวดจะแสดง เขาเรียกว่ารัชกาลปัจจุบัน รัชกาลที่ 1-รัชกาลที่ 8 และรัชกาลปัจจุบัน เรียกกันเต็มปากเต็มคำ รัชกาลที่ 9 คนพรรค์นี้แหละ ที่อ้าง ที่มาเหยียดหยามคนอย่างตนว่าไม่จงรักภักดี