นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักการเมืองวิพากษ์วิจารณ์บทบาทตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายหลังจากที่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกต่อบ้านเมือง ว่า 1.จะให้อาชญากรแก้ไขกฎหมายอาญา หรือไม่ 2.จะให้นักเลือกตั้งแก้ไขการทุจริตซื้อเสียงหรือไม่ และ3.จะให้มิจฉาทิฐิแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ตนเพียงตั้งคำถามเพื่อถามประชาชนและสังคม เพราะต้องการฟังความคิดเห็นของประชาชน
ผมเหมือนอยู่หอคอยและไม่มีโอกาสพบกับประชาชน จึงอยากฟังเสียงสะท้อนจากสังคม จากประชาชนบ้าง เพื่อที่จะทำงานได้ถูกต้อง ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะดำเนินการถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในการเปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญนิติบัญญัตินั้น นายจรัญ กล่าวว่า ไม่คิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะปฏิบัติเช่นนั้นได้
นายภักดี โพธิศิริ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการองค์การตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกเลขาธิการ ป.ป.ช.เข้าชี้แจง เนื่องจากสงสัยเรื่องที่มา ของป.ป.ช.เ พราะไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ว่า ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือเพื่อขอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว แต่ทางราชเลขาธิการได้ส่งหนังสือตอบกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทาง นายรองพล เจริญพันธ์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะนั้น ว่า ป.ป.ช.ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะยึดอำนาจ ซึ่งถือเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ ผู้มีอำนาจเด็ดขาดขณะนั้น จึงถือว่าเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 299 ด้วย
“เรื่องนี้คนพูดน่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ยังหยิบขึ้นมาพูดอีก ซึ่งตนไม่รู้ว่าเพื่ออะไร และไม่อยากคาดเดา เพราะจะกลายเป็นการต่อความยาวสาวความยืด แต่ยืนยันว่า การทำงานที่ผ่านมาของ ป.ป.ช.ทำตามกฎหมาย เป็นกลางและไม่มีอคติกับใคร การที่ฝ่ายการเมืองตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ ไม่ทำให้หวั่นไหว และไม่สามารถกดดันการทำงานของ ป.ป.ช.ได้” นายภักดี กล่าว
ส่วนการออกระเบียบให้ค่าตอบแทนกับที่ปรึกษาและเลขานุการนั้น นายภักดี กล่าวว่า กรณีนี้จะไม่ซ้ำรอยกับ ป.ป.ช.ชุดเดิม ที่มีการออกระเบียบขึ้นเงินเดือนให้กับตัวเอง กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้ได้ตรวจดูข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่า ป.ป.ช.มีอำนาจในการออกระเบียบดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2542 มาตรา 19 และมาตรา 107 นอกจากนี้ ยังไม่ใช่การออกระเบียบเพื่อขึ้นเงินเดือนตัวเองด้วย จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน
ผมเหมือนอยู่หอคอยและไม่มีโอกาสพบกับประชาชน จึงอยากฟังเสียงสะท้อนจากสังคม จากประชาชนบ้าง เพื่อที่จะทำงานได้ถูกต้อง ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะดำเนินการถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในการเปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญนิติบัญญัตินั้น นายจรัญ กล่าวว่า ไม่คิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะปฏิบัติเช่นนั้นได้
นายภักดี โพธิศิริ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการองค์การตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกเลขาธิการ ป.ป.ช.เข้าชี้แจง เนื่องจากสงสัยเรื่องที่มา ของป.ป.ช.เ พราะไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ว่า ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือเพื่อขอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว แต่ทางราชเลขาธิการได้ส่งหนังสือตอบกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทาง นายรองพล เจริญพันธ์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะนั้น ว่า ป.ป.ช.ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะยึดอำนาจ ซึ่งถือเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ ผู้มีอำนาจเด็ดขาดขณะนั้น จึงถือว่าเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 299 ด้วย
“เรื่องนี้คนพูดน่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ยังหยิบขึ้นมาพูดอีก ซึ่งตนไม่รู้ว่าเพื่ออะไร และไม่อยากคาดเดา เพราะจะกลายเป็นการต่อความยาวสาวความยืด แต่ยืนยันว่า การทำงานที่ผ่านมาของ ป.ป.ช.ทำตามกฎหมาย เป็นกลางและไม่มีอคติกับใคร การที่ฝ่ายการเมืองตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ ไม่ทำให้หวั่นไหว และไม่สามารถกดดันการทำงานของ ป.ป.ช.ได้” นายภักดี กล่าว
ส่วนการออกระเบียบให้ค่าตอบแทนกับที่ปรึกษาและเลขานุการนั้น นายภักดี กล่าวว่า กรณีนี้จะไม่ซ้ำรอยกับ ป.ป.ช.ชุดเดิม ที่มีการออกระเบียบขึ้นเงินเดือนให้กับตัวเอง กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้ได้ตรวจดูข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่า ป.ป.ช.มีอำนาจในการออกระเบียบดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2542 มาตรา 19 และมาตรา 107 นอกจากนี้ ยังไม่ใช่การออกระเบียบเพื่อขึ้นเงินเดือนตัวเองด้วย จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน