ผู้จัดการรายวัน – เบียร์สิงห์ ชี้ตลาดเบียร์ 1 แสนล้านบาทปีนี้ไม่โตแน่ ส่วนการเข้าพรรษาปีนี้ส่อแววซบเซาหนัก ปริมาณการดื่มลดโดยปริยาย หลังปัจจัยลบราคาน้ำมันกระทบกำลังซื้อคอน้ำเมา ผู้ประกอบการพร้อมใจงดกิจกรรมดันยอด ส่วนไตรมาสสุดท้ายมั่นใจตลาดน้ำเมาคึกคัก แต่เปลี่ยนพฤติกรรมงดเดินทางหันดื่มที่บ้านแทน สิ้นปีนี้กลุ่มเบียร์ตั้งเป้าเติบโต 1-2%
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ ลีโอ สิงห์ไลท์ เปิดเผยว่า ในช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน ปกติผู้ประกอบการทุกรายจะงดดำเนินกิจกรรมทุกอย่าง รวมทั้งกลุ่มเบียร์ของบริษัทด้วย และทุกค่ายจะเริ่มรุกตลาดอย่างหนักในช่วงไตรมาสสุดท้าย เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ของคนไทย ซึ่งถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาด อย่างไรก็ตามช่วงเข้าพรรษา ซึ่งปกติยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะลดลงบ้างทุกปี
แต่ปีนี้มีปัจจัยลบด้านราคาน้ำมันมาเกี่ยวข้อง ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าต่างๆ ปรับราคาขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยพบว่าร้านอาหารได้รับผลกระทบหนัก การเดินทางเพื่อเป็นรับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลง ดังนั้นช่วงเข้าพรรษาปีนี้การซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจมีการชะลอตัวลงบ้างเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ เช่น จากเดิมเคยซื้อเบียร์ 10 ขวด อาจเหลือ 8 ขวด เป็นต้น
“ปีนี้สภาพตลาดเบียร์มูลค่า 1 แสนล้านบาท ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ถึงกลับแย่หรือว่าซบเซา แต่คาดว่าตลาดจะไม่มีอัตราการเติบโต โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดอยู่ในภาวะทรงตัวเช่นเดียวกับสถานการณ์ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งคาดว่าจะไม่มีอัตราการเติบโต”
นายฉัตรชัย กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดเบียร์ไม่เติบโต แต่เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ อาทิ บีอิ้ง โซดาสิงห์ เป็นต้น มาเสริมในกลุ่มเบียร์ที่มีการเติบโตน้อย อย่างไรก็ตามแผนการตลาดช่วงครึ่งปีหลัง มีการปรับตัวเพื่อรองรับกับปัจจัยลบที่รุมเร้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำมันซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรหลักในขณะนี้ ทั้งนี้หลังจากออกพรรษาบริษัทจะมีจัดแคมเปญใหญ่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้าย ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีความคึกคัก แม้ว่าจะมีปัจจัยลบก็ตาม แต่ปีนี้มีความเป็นไปได้ ที่พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกบ้านอาจจะลดลง เพราะปัญหาราคาน้ำมันแพง ทั้งนี้จากการปรับแผนอย่างต่อเนื่องของบริษัท คาดว่าสิ้นปีนี้ผลประกอบการกลุ่มเบียร์ มีอัตราการเติบโต 1-2% ก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์สิงห์ ลีโอ สิงห์ไลท์ เปิดเผยว่า ในช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน ปกติผู้ประกอบการทุกรายจะงดดำเนินกิจกรรมทุกอย่าง รวมทั้งกลุ่มเบียร์ของบริษัทด้วย และทุกค่ายจะเริ่มรุกตลาดอย่างหนักในช่วงไตรมาสสุดท้าย เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ของคนไทย ซึ่งถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาด อย่างไรก็ตามช่วงเข้าพรรษา ซึ่งปกติยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะลดลงบ้างทุกปี
แต่ปีนี้มีปัจจัยลบด้านราคาน้ำมันมาเกี่ยวข้อง ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าต่างๆ ปรับราคาขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยพบว่าร้านอาหารได้รับผลกระทบหนัก การเดินทางเพื่อเป็นรับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลง ดังนั้นช่วงเข้าพรรษาปีนี้การซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจมีการชะลอตัวลงบ้างเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ เช่น จากเดิมเคยซื้อเบียร์ 10 ขวด อาจเหลือ 8 ขวด เป็นต้น
“ปีนี้สภาพตลาดเบียร์มูลค่า 1 แสนล้านบาท ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ถึงกลับแย่หรือว่าซบเซา แต่คาดว่าตลาดจะไม่มีอัตราการเติบโต โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดอยู่ในภาวะทรงตัวเช่นเดียวกับสถานการณ์ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งคาดว่าจะไม่มีอัตราการเติบโต”
นายฉัตรชัย กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดเบียร์ไม่เติบโต แต่เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ อาทิ บีอิ้ง โซดาสิงห์ เป็นต้น มาเสริมในกลุ่มเบียร์ที่มีการเติบโตน้อย อย่างไรก็ตามแผนการตลาดช่วงครึ่งปีหลัง มีการปรับตัวเพื่อรองรับกับปัจจัยลบที่รุมเร้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำมันซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรหลักในขณะนี้ ทั้งนี้หลังจากออกพรรษาบริษัทจะมีจัดแคมเปญใหญ่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้าย ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีความคึกคัก แม้ว่าจะมีปัจจัยลบก็ตาม แต่ปีนี้มีความเป็นไปได้ ที่พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกบ้านอาจจะลดลง เพราะปัญหาราคาน้ำมันแพง ทั้งนี้จากการปรับแผนอย่างต่อเนื่องของบริษัท คาดว่าสิ้นปีนี้ผลประกอบการกลุ่มเบียร์ มีอัตราการเติบโต 1-2% ก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว