xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นหลุด700เมินมาตรการศก. ต่างชาติขนเงินหนีวิกฤต"แฟนนี-เฟรดดี"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ตลาดหุ้นไทยเย้ยมาตรการบรรเทาทุกข์รัฐบาล "สมัคร" ดัชนีรูดยาวหลุดแนว

รับสำคัญที่ 700 จุด ปิดที่ 693.41 จุด ลดลงเกือบ 24 จุด หรือ 3.30% ระบุต่ำสุดในรอบ 15

เดือน มาร์เกตแคปลดเหลือ 5.47 ล้านล้านบาท โบรกเกอร์ เผยนักลงทุนต่างชาติชิงทิ้งหุ้นก่อน

วิกฤต "แฟนนี-เฟรดดี" ลุกลาม พร้อมคาดการณ์ตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงขาลง
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (15 ก.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากวันก่อน

อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนยังกังวลต่อปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ

(ซับไพรม์) จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นกับ แฟนดี เม และเฟรดดี แมค

สองสถาบันการเงินขนาดใหญ่ด้านสินเชื่อเคหะของสหรัฐฯ ส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยมีราคาสูงสุดที่ 711.86 จุด และ

ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงบ่าย และลงมาเคลื่อนไหวในระดับต่ำกว่าแนวรับที่สำคัญที่ 700

จุด เพราะนักลงทุนกังวลเรื่องที่รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดกระแส

ความขัดแย้ง แม้รัฐบาลจะได้ประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนที่ดัชนีจะลดลงไปปิดที่

จุดต่ำสุด 693.41 จุด ลดลงจากวันก่อนถึง 23.65 จุด หรือ 3.30% มูลค่าการซื้อขายรวม

13,733.20 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มียอดขายสุทธิรวม

2,468.19 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 170.73 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ

2,638.92 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีปิดที่ 693.41 จุด นับเป็นจุดต่ำสุดในรอบระยะเวลาเกือบ 15

เดือน ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 50 ดัชนีตลาดหุ้นปิดที่ 690.79 จุด และมูลค่าตามราคาตลาด

รวม (มาร์เกตแคป) ลดเหลือแค่ 5.47 ล้านล้านบาท
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)

กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย วานนี้ (15 ก.ค.) ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 700 จุด

เป็นการปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ จากปัญหาสถาบันการเงินของอเมริกา 2 แห่ง

คือ Fannie Mae และ Freddie Mac ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่

ประสบปัญหาการปล่อยสินเชื่อ จนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องเข้ามาช่วยในเรื่องสภาพ

คล่องทางการเงิน
จากประเด็นดังกล่าว ได้ส่งผลให้นักลงทุนสหรัฐฯ มีความกังวล และขายหุ้นออกมาทั่วโลก เพื่อ

เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพราะไม่สามารถประเมินปัญหาซับไพรม์จะรุนแรงและกินระยะ

เวลานานเท่าใด บวกกับปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัญหาระหว่างประเทศอิหร่าน

อิสราเอล และสหรัฐฯ รวมถึงประเทศในตะวันออกลางหลายประเทศขู่ไม่จำหน่ายน้ำมันให้

สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นทั่วโลก
"ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาแรงหลุด 700 จุด เกิดจากความกังวลในเรื่องสถาบันการ

เงินสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ที่ประสบปัญหาทางการเงินจนรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยในเรื่องสภาพคล่อง

ส่งผลให้นักลงทุนขายหุ้นทั่วโลกออกมาเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน" นายกวี กล่าว
ส่วนมาตรการบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนที่รัฐบาลประกาศออกมา 6 เรื่องนั้น นักลง

ทุนไม่ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพราะเห็นว่ามาตรการต่างๆ เป็นเพียงการ

พยุง แต่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และเม็ดเงินที่นำเข้ามาช่วยเป็นจำนวนที่ไม่สูงนัก
สำหรับแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าใน

ช่วงต้นสัปดาห์หน้าตลาดอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ หลังจากตอบรับปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว

ดังนั้นในระยะสั้นนี้ดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวลดลงไปแตะระดับ 680 จุด แต่ถ้าหากปรับ

ตัวลดลงมากกว่าระดับดังกล่าวอาจจะปรับตัวลงไปถึงระดับ 667 จุดได้

**ดัชนีรูดเมินมาตรการบรรเทาทุกข์
นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า หุ้นไทยปรับตัวลดลง

แรงถึง 3% ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง 3-4% แม้

ว่าปกติแล้วตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งเกิดจากสถาบันการ

เงินสหรัฐฯ ประสบปัญหาการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับสถาบันการเงินมากขึ้น

รวมทั้งอาจจะลุกลามถึงธนาคารพาณิชย์ ลูกหนี้ที่ดี จากเดิมที่ปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์

คุณภาพต่ำ (ซับไพรม์)
จากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง เพื่อเร่งระดมทุน

เงินสดให้มากขึ้น และไม่เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
นางสาวสุภากร กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนต้องจับตาในเรื่องการปรับครม. หรืออาจจะมีการ

ประกาศยุบพรรคในเร็วๆ นี้ ขณะที่มาตรการบรรเทาความเดือนร้อนให้ประชาชนของรัฐบาล

หลังจากที่มีการประชุมครม.นั้น เป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนระยะสั้น แต่

ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจแต่อย่างไร และไม่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นแต่อย่างใด
"ตลาดหุ้นไทยลดลงทำสถิติต่ำสุด (นิวโลว์) รอบใหม่ โดยดัชนีปรับตัวลดลงใกล้เคียงกับตลาด

หุ้นต่างประเทศที่ระดับ 3-4% ซึ่งตามปกติตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงน้อยกว่าภูมิภาค จาก

นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นจากความกังวลในเรื่องสถาบันการเงินสหรัฐฯ ที่ลุกลามไปสู่แบงก์

พาณิชย์ และลูกหนี้ชั้นดี จากเดิมที่จำกัดจากปัญหาซับไพรม์" นางสาวสุภากร กล่าว
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะยังคงปรับตัวลดลงต่อ จากยังได้รับผลกระทบจาก

ปัจจัยลบ และยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น ซึ่งต้องรอผลการประชุมของคณะกรรมการ

นโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ หากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะไม่ช่วยสนับสนุนตลาดหุ้น เพราะได้

มีการตอบรับไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่ต้องจับตาปัญหาสถาบันการเงินสหรัฐฯ ราคาน้ำมัน

โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 693-694 จุด แต่ หากปรับตัวลดลงแรงต่ำกว่าแนวรับดังกล่าวดัชนี

ตลาดหุ้นอาจรีบาวน์ได้ และประเมินแนวต้านที่ระดับ 715-720 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น