นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุในรายการสนทนาประสาสมัคร โดยยืนยันว่า จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ทันทีที่มีการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญในวันที่ 1 ส.ค.ที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะใน มาตรา 190 วรรค 2 และมาตรา 237 วรรค 2 ที่เกี่ยวกับการทำสัญญาระหว่างประเทศ การยุบพรรค รวมถึงการเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ทางสภาฯได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภา นักวิชาการ และตัวแทนจากฝ่ายภาคประชาชนเข้าร่วมพิจารณาศึกษาข้อดีและข้อเสียของรับธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ว่ามีปัญหา อุปสรรคในการใช้หรือไม่ จึงอยากให้คณะกมธ. ชุดดังกล่าว เร่งดำเนินการในการศึกษาเพื่อที่จะสรุปข้อดี ข้อด้อย ต่อสภาฯ เพื่อที่ทางสภาฯ จะได้นำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมสภาฯ หลังจากที่ใช้มาระยะหนึ่งแล้วว่าควรเสนอแก้ไขจุดไหน อะไรและอย่างไร ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองก็สามารถเสนอเพื่อขอแก้ไขในเรื่องใด จุดใดก็สามารถทำได้ แนวทางนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า โฆษกพรรคพลังประชาชน ระบุว่าจะเดินหน้าเพื่อขอแก้ไข มาตรา 237 วรรค 2 ทันที เพราะไม่สอดคล้องกับหลักกฎหมาย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวอยากที่จะเห็นผลงานการสรุปของคณะ กมธ.วิสามัญที่ทางสภาฯได้ตั้งขึ้นมาศึกษาเรื่องรัฐธรรมนูญ ปี 50 ก่อน เพราะหากพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือหลายพรรคการเมืองต่างที่จะเสนอความเห็นขอแก้ไขต่างกันออกไป ก็จะมีปัญหาความเห็นต่างในปลีกย่อยออกไปอีก สุดท้ายก็จะเป็นปัญหาตามมาอีก ดังนั้นจึงขอให้ใจเย็นรอผลการศึกษาของคณะกมธ.ชุดนี้ออกมาจะดีที่สุดเป็นกลางที่สุด
เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของพรรคชาติไทย มีความเห็นด้วยกับที่นายกรัฐมนตรี เสนอหรือไม่ โดยเฉพาะ ขอแก้ไขมาตรา 237 วรรค 2 ที่เกี่ยวกับการยุบพรรค จากการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคชาติไทยก็ผลกระทบอยู่ด้วย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคชาติไทย เราพูดเสมอว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเราอยากให้คนที่อยู่นอกวงการเมืองเข้ามาแก้ไข ดังนั้น จึงให้รอการศึกษาของ กมธ.วิสามัญที่ศึกษาในเรื่องนี้จะดีที่สุด เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับที่นายกฯ และโฆษกพรรคพลังประชาชน ระบุใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า กมธ.ชุดนี้น่าจะได้ความเห็นที่เป็นกลางที่สุด
เมื่อถามต่อว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับแล้วว่าจะมีการปรับใหญ่ ครม. เพราะรัฐมนตรีมีปัญหาหลายคน ในส่วนของพรรคชาติไทย มีการหารือกันแล้วหรือยังว่าจะมีการปรับใครเข้าหรือออก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพุดคุยกัน เพราะต้องรอให้นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ในค่ำวันนี้ก่อน แล้วค่อยหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคชาติไทย ในเย็นวันที่ 14 ก.ค.นี้ ณ ที่ทำการพรรค ซึ่งหลังจากประชุมหารือแล้ว คาดว่าจะได้ความชัดเจนระดับหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า โฆษกพรรคพลังประชาชน ระบุว่าจะเดินหน้าเพื่อขอแก้ไข มาตรา 237 วรรค 2 ทันที เพราะไม่สอดคล้องกับหลักกฎหมาย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวอยากที่จะเห็นผลงานการสรุปของคณะ กมธ.วิสามัญที่ทางสภาฯได้ตั้งขึ้นมาศึกษาเรื่องรัฐธรรมนูญ ปี 50 ก่อน เพราะหากพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือหลายพรรคการเมืองต่างที่จะเสนอความเห็นขอแก้ไขต่างกันออกไป ก็จะมีปัญหาความเห็นต่างในปลีกย่อยออกไปอีก สุดท้ายก็จะเป็นปัญหาตามมาอีก ดังนั้นจึงขอให้ใจเย็นรอผลการศึกษาของคณะกมธ.ชุดนี้ออกมาจะดีที่สุดเป็นกลางที่สุด
เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของพรรคชาติไทย มีความเห็นด้วยกับที่นายกรัฐมนตรี เสนอหรือไม่ โดยเฉพาะ ขอแก้ไขมาตรา 237 วรรค 2 ที่เกี่ยวกับการยุบพรรค จากการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคชาติไทยก็ผลกระทบอยู่ด้วย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคชาติไทย เราพูดเสมอว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเราอยากให้คนที่อยู่นอกวงการเมืองเข้ามาแก้ไข ดังนั้น จึงให้รอการศึกษาของ กมธ.วิสามัญที่ศึกษาในเรื่องนี้จะดีที่สุด เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับที่นายกฯ และโฆษกพรรคพลังประชาชน ระบุใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า กมธ.ชุดนี้น่าจะได้ความเห็นที่เป็นกลางที่สุด
เมื่อถามต่อว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับแล้วว่าจะมีการปรับใหญ่ ครม. เพราะรัฐมนตรีมีปัญหาหลายคน ในส่วนของพรรคชาติไทย มีการหารือกันแล้วหรือยังว่าจะมีการปรับใครเข้าหรือออก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพุดคุยกัน เพราะต้องรอให้นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ในค่ำวันนี้ก่อน แล้วค่อยหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคชาติไทย ในเย็นวันที่ 14 ก.ค.นี้ ณ ที่ทำการพรรค ซึ่งหลังจากประชุมหารือแล้ว คาดว่าจะได้ความชัดเจนระดับหนึ่ง
