ผู้จัดการรายวัน – ท่องเที่ยวไทยกลียุค ทิก้าแนะรัฐใช้โดเมสติกไมซ์กู้สถานการณ์ สร้างจิตสำนึกทุกองค์กรหันเดินสายสัมมนาและดูงานภายในประเทศ ฉะหน่วยงานรัฐนิยมปั้นโปรเจคเดินสายดูงานต่างประเทศ ส่งผลเงินไหลออกต่อปีเหยียบ 5 พันล้านบาท ประกาศนโยบายลดหย่อนภาษี ยั่วเอกชนร่วมแจม
นายโอภาส เนตรอำไพ ที่ปรึกษา สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลขอความร่วมมือไปยังทุกหน่วยงานที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้หันมาเดินทางประชุมสัมมนาและดูงานภายในประเทศไทยหรือ โดเมสติกไมซ์ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพราะปีนี้ ยอมรับว่าจากสถานการณ์ทางการเมือง และวิกฤตราคาน้ำมัน ส่งผลให้กำลังซื้อของคนไทยลดลง เกิดภาวะชะลอและลดการจับจ่ายเรื่องการท่องเที่ยว
โดยรูปแบบต้องกระจายให้มีการเดินทางตลอดทั้งปี และทั่วทุกภูมิภาค อย่ากระจุกเพียงแค่ช่วงใกล้หมดปีงบประมาณ หรือราวเดือน สิงหาคมถึงกันยายน เพราะเริ่มเข้าสู่ต้นฤดูการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ(ไฮซีซั่น)ทำให้สถานที่พักอาจไม่เพียงพอแก่ความต้องการ ขณะเดียวกัน สำนักงานจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. ก็ควรให้ความสำคัญ กระตุ้นตลาดโดเมสติกไมซืให้มากขึ้น อย่ามุ่งแต่ตลาดต่างประเทศเพียงอย่างเดียว
นายโอภาส กล่าวว่า แต่ละปี เม็ดเงินที่หน่วยงานภาครัฐใช้จ่ายกับการประชุมสัมมนาและดูงาน รวมแล้วมากว่าหมื่นล้านบาท โดยมากกว่าครึ่งหนึ่ง นิยมที่จะเลือกเดินทางออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการไปต่างประเทศเพื่อดูงาน แท้จริงแล้ว ประเทศไทยก็มีแหล่งต้นแบบให้ดูงานจำนวนมาก หากได้รับการบริหารจัดการที่ดีจัดให้เป็นต้นแบบสำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ดูงาน เห็นได้จากต่างประเทศ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น เริ่มที่จะจัดกรุ๊ปเข้ามาดูงานในประเทศไทยมากขึ้น
***ลดภาษีดึงเอกชนกู้วิกฤต***
สำหรับภาคเอกชน รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังควรให้อินเซนทีฟลดหย่อนภาษีให้แก่บริษัท ห้าง ร้าน ที่จัดประชุมสัมมนา หรือการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศไทย ซึ่งรูปแบบนี้ประเทศที่เริ่มทำแล้วคือ รัฐบาลของประเทศออสเตรเลีย ส่วนบริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานในประเทศไทย ให้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทนั้นๆ ว่า หากนำพนักงานเข้ามาจัดประชุมสัมมนา หรือท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทย รัฐบาลไทยโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมอบอินเซนทีฟให้ เช่น การนำเที่ยว 1 วัน หรือ การเลี้ยงรับรองโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว , ททท. และสสปน. เป็นต้น เพื่อให้เขารู้สึกถึงการต้อนรับแบบพิเศษให้เกิดความประทับใจ
อย่างไรก็ตามต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เรียกภาคเอกชนเข้าไปหารือ ถึงการโปรโมตตลาดไมซ์ ในลักษณะจัดเป็นโปรเจคพิเศษ โดยเราต้องการให้นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ เข้ามากระตุ้นให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกิดความคึกคักขึ้นในปีนี้ให้ได้ โดยในส่วนของคอปอเรท อาจเริ่มจากกลุ่มบริษัทประกัน หรือขายตรง จากนั้นขยายไปธุรกิจอื่น โดยกระทรวงท่องเที่ยวจะต้องประสานกับกระทรวงอื่นๆ ที่มีหน้าที่กำกับดูและ เช่นย กระทรวงพาณิชย์ ดูและธุรกิจประกัน เป็นต้น
นายโอภาส เนตรอำไพ ที่ปรึกษา สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลขอความร่วมมือไปยังทุกหน่วยงานที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้หันมาเดินทางประชุมสัมมนาและดูงานภายในประเทศไทยหรือ โดเมสติกไมซ์ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพราะปีนี้ ยอมรับว่าจากสถานการณ์ทางการเมือง และวิกฤตราคาน้ำมัน ส่งผลให้กำลังซื้อของคนไทยลดลง เกิดภาวะชะลอและลดการจับจ่ายเรื่องการท่องเที่ยว
โดยรูปแบบต้องกระจายให้มีการเดินทางตลอดทั้งปี และทั่วทุกภูมิภาค อย่ากระจุกเพียงแค่ช่วงใกล้หมดปีงบประมาณ หรือราวเดือน สิงหาคมถึงกันยายน เพราะเริ่มเข้าสู่ต้นฤดูการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ(ไฮซีซั่น)ทำให้สถานที่พักอาจไม่เพียงพอแก่ความต้องการ ขณะเดียวกัน สำนักงานจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. ก็ควรให้ความสำคัญ กระตุ้นตลาดโดเมสติกไมซืให้มากขึ้น อย่ามุ่งแต่ตลาดต่างประเทศเพียงอย่างเดียว
นายโอภาส กล่าวว่า แต่ละปี เม็ดเงินที่หน่วยงานภาครัฐใช้จ่ายกับการประชุมสัมมนาและดูงาน รวมแล้วมากว่าหมื่นล้านบาท โดยมากกว่าครึ่งหนึ่ง นิยมที่จะเลือกเดินทางออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการไปต่างประเทศเพื่อดูงาน แท้จริงแล้ว ประเทศไทยก็มีแหล่งต้นแบบให้ดูงานจำนวนมาก หากได้รับการบริหารจัดการที่ดีจัดให้เป็นต้นแบบสำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ดูงาน เห็นได้จากต่างประเทศ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น เริ่มที่จะจัดกรุ๊ปเข้ามาดูงานในประเทศไทยมากขึ้น
***ลดภาษีดึงเอกชนกู้วิกฤต***
สำหรับภาคเอกชน รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังควรให้อินเซนทีฟลดหย่อนภาษีให้แก่บริษัท ห้าง ร้าน ที่จัดประชุมสัมมนา หรือการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศไทย ซึ่งรูปแบบนี้ประเทศที่เริ่มทำแล้วคือ รัฐบาลของประเทศออสเตรเลีย ส่วนบริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานในประเทศไทย ให้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทนั้นๆ ว่า หากนำพนักงานเข้ามาจัดประชุมสัมมนา หรือท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทย รัฐบาลไทยโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมอบอินเซนทีฟให้ เช่น การนำเที่ยว 1 วัน หรือ การเลี้ยงรับรองโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว , ททท. และสสปน. เป็นต้น เพื่อให้เขารู้สึกถึงการต้อนรับแบบพิเศษให้เกิดความประทับใจ
อย่างไรก็ตามต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เรียกภาคเอกชนเข้าไปหารือ ถึงการโปรโมตตลาดไมซ์ ในลักษณะจัดเป็นโปรเจคพิเศษ โดยเราต้องการให้นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ เข้ามากระตุ้นให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกิดความคึกคักขึ้นในปีนี้ให้ได้ โดยในส่วนของคอปอเรท อาจเริ่มจากกลุ่มบริษัทประกัน หรือขายตรง จากนั้นขยายไปธุรกิจอื่น โดยกระทรวงท่องเที่ยวจะต้องประสานกับกระทรวงอื่นๆ ที่มีหน้าที่กำกับดูและ เช่นย กระทรวงพาณิชย์ ดูและธุรกิจประกัน เป็นต้น
