สสปน.เปิดศึกชิงตลาดจัดการประชุม ทุ่มงบ 30 ล้านบาท เปิดแคมเปญ “Thanks A Million” ยื่นข้อเสนอให้เงินช่วยเหลือผู้จัดงานรายละ 1 ล้านบาท เพื่อให้เข้ามาจัดประชุมในประเทศไทยระหว่างปี 51-52 ตั้งเป้ากระทุ้งตลาดนี้ได้เพิ่ม 3 หมื่นคน เงินสะพัด กว่า 1 พันล้านบาท
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.เปิดเผยว่า ได้จัดทำโปรโมชั่นการตลาดพิเศษภายใต้แคมเปญ “Thanks A Million” จุดประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดึงงานประชุมนานาชาติให้เข้ามาจัดในประเทศไทยระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2551-2552 ซึ่ง สสปน.จะให้เงินสนับสนุนผู้เข้าร่วมโครงการรายละ 1 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขว่า ผู้จัดงานประชุมตกลงที่จะนำเอาการจัดประชุมนานาชาติ ซึ่งมีชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน จำนวน 1,000 คน โดยมีระยะเวลาการจัดประชุมอย่างน้อย 3 วัน เข้ามาจัดงานประชุมในประเทศไทย ภายในวันที่ 30 กันยายน 2552
“เราตั้งเป้าหมายว่า จะมีผู้เข้าร่วมแคมเปญนี้จำนวนมาก ส่งผลให้มีชาวต่างชาติมาประชุมและใช้จ่ายในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 3 หมื่นคน ก่อเกิดรายได้ กว่า 1,080 ล้านบาท โดยเบื้องต้น สสปน.ตั้งงบประมาณสำหรับใช้สนับสนุนโครงการนี้ไว้ที่ 30 ล้านบาท”
ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าว สสปน.ประเดิมเปิดตัวครั้งแรก ในงานโรดโชว์ที่ประเทศอินเดีย เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่ง สสปน.จะใช้แคมเปญนี้เป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดในงานเทรดโชว์ และโรดโชว์ของ สสปน.ในครั้งต่อๆไป เช่น ตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา ตามลำดับ โดยจะเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการถึงวันที่ 31 ธ.ค.2551
อย่างไรก็ตาม การประชุมนานาชาติของฝ่ายการจัดประชุมนานาชาติ ที่ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยการดึงงานและร่วมสนับสนุนของ สสปน.ในปี พ.ศ.2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 70 งาน ซึ่งตัวอย่างงานประชุมนานาชาติที่สำคัญ และเรียกได้ว่า เป็นงานประชุมนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดที่เคยจัดในประเทศไทย คือ งานประชุมไลอ้อนโลก หรือ Lions Clubs International Convention 2008 ครั้งที่ 91 ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะมีจำนวนผู้ร่วมงานกว่า 25,000 คน
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.เปิดเผยว่า ได้จัดทำโปรโมชั่นการตลาดพิเศษภายใต้แคมเปญ “Thanks A Million” จุดประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดึงงานประชุมนานาชาติให้เข้ามาจัดในประเทศไทยระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2551-2552 ซึ่ง สสปน.จะให้เงินสนับสนุนผู้เข้าร่วมโครงการรายละ 1 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขว่า ผู้จัดงานประชุมตกลงที่จะนำเอาการจัดประชุมนานาชาติ ซึ่งมีชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน จำนวน 1,000 คน โดยมีระยะเวลาการจัดประชุมอย่างน้อย 3 วัน เข้ามาจัดงานประชุมในประเทศไทย ภายในวันที่ 30 กันยายน 2552
“เราตั้งเป้าหมายว่า จะมีผู้เข้าร่วมแคมเปญนี้จำนวนมาก ส่งผลให้มีชาวต่างชาติมาประชุมและใช้จ่ายในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 3 หมื่นคน ก่อเกิดรายได้ กว่า 1,080 ล้านบาท โดยเบื้องต้น สสปน.ตั้งงบประมาณสำหรับใช้สนับสนุนโครงการนี้ไว้ที่ 30 ล้านบาท”
ทั้งนี้ แคมเปญดังกล่าว สสปน.ประเดิมเปิดตัวครั้งแรก ในงานโรดโชว์ที่ประเทศอินเดีย เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่ง สสปน.จะใช้แคมเปญนี้เป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดในงานเทรดโชว์ และโรดโชว์ของ สสปน.ในครั้งต่อๆไป เช่น ตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา ตามลำดับ โดยจะเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการถึงวันที่ 31 ธ.ค.2551
อย่างไรก็ตาม การประชุมนานาชาติของฝ่ายการจัดประชุมนานาชาติ ที่ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยการดึงงานและร่วมสนับสนุนของ สสปน.ในปี พ.ศ.2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 70 งาน ซึ่งตัวอย่างงานประชุมนานาชาติที่สำคัญ และเรียกได้ว่า เป็นงานประชุมนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดที่เคยจัดในประเทศไทย คือ งานประชุมไลอ้อนโลก หรือ Lions Clubs International Convention 2008 ครั้งที่ 91 ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะมีจำนวนผู้ร่วมงานกว่า 25,000 คน