"เสธหนั่น" ไฟเขียว สสปน. เดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ เต็มสูบ ชงของบฉุกเฉิน 175 ล้านบาท อ้างเพื่อใช้ในโครงการเร่งด่วน หวังฟื้นความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและการท่องเที่ยว สนองนโยบายรัฐบาลที่ประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการลงทุนและปีแห่งการท่องเที่ยวไทย ตั้งเป้าสิ้นปีธุรกิจไมซ์โกยเงินเข้าประเทศกว่า 6.5 หมื่นล้านบาท
พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลงานของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สสปน.เดินหน้าทำงานเพื่อดึงการจัดงานประชุมนานาชาติ และนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ เข้ามาในประเทศไทยให้มากที่สุด โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์อย่างเต็มที่ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการลงทุนและปีแห่งการท่องเที่ยวไทย โดยตั้งเป้าหมายให้อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ ไม่ต่ำกว่า 65,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 19%
นอกจากนั้นยังได้เร่งพัฒนายกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย โดยจะผลักดันให้เกิดการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนให้มีการทำงานร่วมกันอย่างมีบูรณาการ ล่าสุดยังได้เสนอของบประมาณกระตุ้นฉุกเฉิน 175 ล้านบาท เพิ่มจากงบประมาณประจำปี 2551 ที่ได้รับจัดสรรมาแล้ว 610 ล้านบาท โดยงบประมาณที่ขอเพิ่มเติมดังกล่าวจะนำมาใช้ดำเนินโครงการเร่งด่วนรองรับพันธกิจเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นด้านการลงทุน และส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยในช่วง 2 ปีนี้ โดยจะเน้นการจัดทำโปรโมชันพิเศษ เพื่อดึงงานประชุมนานาชาติและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ การสนับสนุนการประมูลสิทธิ์และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และการแสดงสินค้านานาชาติ การจัดทำแคมเปญพิเศษเพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางหลักของอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคนี้
ทางด้านนายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) เผยว่า ในระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2551 สสปน. ได้เป็นแกนนำในการนำทีมผู้ประกอบการธุรกิจไมซ์ของไทยกว่า 10 ราย เข้าร่วมงาน IMEX 2008 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าทางการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 3,400 ราย จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และมีพื้นที่การจัดแสดงสินค้ามากถึง 17,000 ตร.ม.จัดขึ้นที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
การเข้าร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นการรุกเข้าสู่ตลาดผู้ซื้ออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการนัดหมายเจรจาธุรกิจโดยตรงระหว่างผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ซื้อ ทั้งยังเป็นการผนึกกำลังกันระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชนในการร่วมกันส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ตลาดการประชุม และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในเชิงรุกอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องแก่ผู้เดินทางธุรกิจ ผู้วางแผนการประชุม และผู้จัดกิจกรรมจากทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่ง สสปน. ได้ประมาณการโอกาสในการขายจากการเข้าร่วมงาน IMEX 2008 ครั้งนี้ว่าจะมีการจัดประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 180 ล้านบาท
พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลงานของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สสปน.เดินหน้าทำงานเพื่อดึงการจัดงานประชุมนานาชาติ และนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ เข้ามาในประเทศไทยให้มากที่สุด โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์อย่างเต็มที่ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการลงทุนและปีแห่งการท่องเที่ยวไทย โดยตั้งเป้าหมายให้อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ ไม่ต่ำกว่า 65,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 19%
นอกจากนั้นยังได้เร่งพัฒนายกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย โดยจะผลักดันให้เกิดการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนให้มีการทำงานร่วมกันอย่างมีบูรณาการ ล่าสุดยังได้เสนอของบประมาณกระตุ้นฉุกเฉิน 175 ล้านบาท เพิ่มจากงบประมาณประจำปี 2551 ที่ได้รับจัดสรรมาแล้ว 610 ล้านบาท โดยงบประมาณที่ขอเพิ่มเติมดังกล่าวจะนำมาใช้ดำเนินโครงการเร่งด่วนรองรับพันธกิจเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นด้านการลงทุน และส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยในช่วง 2 ปีนี้ โดยจะเน้นการจัดทำโปรโมชันพิเศษ เพื่อดึงงานประชุมนานาชาติและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ การสนับสนุนการประมูลสิทธิ์และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และการแสดงสินค้านานาชาติ การจัดทำแคมเปญพิเศษเพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางหลักของอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคนี้
ทางด้านนายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) เผยว่า ในระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2551 สสปน. ได้เป็นแกนนำในการนำทีมผู้ประกอบการธุรกิจไมซ์ของไทยกว่า 10 ราย เข้าร่วมงาน IMEX 2008 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าทางการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 3,400 ราย จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และมีพื้นที่การจัดแสดงสินค้ามากถึง 17,000 ตร.ม.จัดขึ้นที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
การเข้าร่วมงานครั้งนี้ถือเป็นการรุกเข้าสู่ตลาดผู้ซื้ออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการนัดหมายเจรจาธุรกิจโดยตรงระหว่างผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ซื้อ ทั้งยังเป็นการผนึกกำลังกันระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชนในการร่วมกันส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ตลาดการประชุม และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในเชิงรุกอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องแก่ผู้เดินทางธุรกิจ ผู้วางแผนการประชุม และผู้จัดกิจกรรมจากทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่ง สสปน. ได้ประมาณการโอกาสในการขายจากการเข้าร่วมงาน IMEX 2008 ครั้งนี้ว่าจะมีการจัดประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 180 ล้านบาท