xs
xsm
sm
md
lg

‘ลำปางคูน’ ฉีกกรอบเซรามิก แปลงโฉมดีไซน์ขายความต่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – เซรามิค แบรนด์ “ลำปางคูน” (LAMPANGKOON) จาก จ.ลำปาง โดดเด่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ นำธรรมชาติรอบตัวมาเป็นแรงบันดาลใจ ประกอบกับฝีมือการปั้นแฮนด์เมด ผลงานออกมาจึงมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ช่วยเสริมศักยภาพขายได้ราคาสูง สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางปัจจัยลบสารพัดในปัจจุบัน

เจ้าของผลงานดังกล่าว คือ “เรวัตร ไชยยารักษ์” ซึ่งจบการศึกษามาทางออกแบบผลิตภัณฑ์โดยตรง จากนั้นสะสมประสบการณ์ในตำแหน่งนักออกแบบผลิตภัณฑ์เซรามิคให้แก่หลายบริษัท ใน จ.ลำปาง นานกว่า 10 ปี จนเรียนรู้ทุกกระบวนการเกี่ยวกับธุรกิจนี้ครบถ้วน ตัดสินใจออกมาตั้งบริษัท ลำปางคูน เซรามิค จำกัด ของตัวเอง เมื่อปี 2530 ด้วยเงินทุน ประมาณ 4 แสนบาท

“ตอนนั้น เซรามิคใน จ.ลำปาง ยังมีรูปแบบไม่หลากหลายนัก เมื่อเปิดบริษัทเอง ผมเลือกจะวางรูปแบบให้เป็นเซรามิคที่ไม่จำเจในตลาด วัตถุดิบและสีที่ใช้เป็นแนวธรรมชาติ และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ดีไซน์ที่ออกมาดูแล้วแปลกตา แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ ทั้งหมดเป็นงานแฮนด์เมด เพื่อเป็นช่องทางหาลูกค้าเฉพาะกลุ่ม” เรวัตร ระบุ

สำหรับแรงบันดาลใจในการออกแบบแต่ละชิ้นนั้น เจ้าของผลงานบอกว่า จะมอบหาจากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวในชีวิตประจำวัน แล้วนำมาผ่านกระบวนความคิด เพื่อคาดการณ์ล่วงหน้าให้ผลงานที่จะสร้างสรรค์ขึ้น ได้รับความนิยมในอนาคต

“การออกแบบของผมจะไม่ตามเทรนด์นิยมในปัจจุบัน แต่ผมอยากจะเป็นผู้นำเสนอเทรนด์ใหม่ โดยคิดดักล่วงหน้าไว้ว่า แบบนี้น่าจะได้รับความนิยมในอนาคต ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมา เพื่อคาดเดาเทรนด์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ประกอบกับใช้คำแนะนำจากลูกค้ามาพิจารณารวมด้วย” เจ้าของธุรกิจ อธิบาย

เนื่องจากมีพื้นฐานในธุรกิจครบถ้วน อีกทั้ง สินค้าโดดเด่นอย่างมาก เคยคว้ารางวัลการประกวดเซรามิคระดับประเทศมากมาย เช่น รางวัลผลงานดีเด่น งานแสดงศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ ครั้งที่ 6 , 7 และ 9 รางวัลหัตกรรมยอดเยี่ยมภาคเหนือ ประเภทผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เป็นต้น ช่วยให้เซรามิคแบรนด์ “ลำปางคูน” เป็นที่รู้จัก และได้รับการตอบรับมายาวนานมาถึงปัจจุบัน

สำหรับกลุ่มลูกค้ามีทั้งตลาดในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ สินค้าส่วนใหญ่เน้นเป็นงานชิ้นใหญ่ เพื่อการตกแต่งสถานที่ ลูกค้าหลัก ได้แก่ โรงแรม ระดับ 5 ดาว และบูติกรีสอร์ทต่างๆ รวมถึง ร้านอาหารไทยในต่างแดน

แม้ว่าจะเป็นนักออกแบบเซรามิคระดับแนวหน้าของ จ.ลำปาง ทว่า ในมุมมองของเรวัตร กลับไม่ยึดติดว่า งานดีไซน์ต้องแปลกแหลกแนวเท่านั้น เพราะในโลกความเป็นจริงทางธุรกิจ นักออกแบบไม่ควรยึดติดกับทัศนคติของตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ควรทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเพื่อตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือเพื่อตอบสนองตลาดวงกว้าง เพียงแต่ว่า สินค้าทุกชิ้นควรมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ผู้ซื้อจดจำได้

“สินค้าอันดับหนึ่งของผม ยังเป็นประเภทของตกแต่งที่มีดีไซน์แตกต่างมากๆ อย่างเช่นงานโอ่ง แจกัน และของตกแต่งต่างๆ ซึ่งราคาค่อนข้างสูง คนที่จะซื้อสินค้าประเภทนี้ จะเป็นกลุ่มที่รักในงานดีไซน์จริงๆ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นประเภทเจ้าของกิจการ ส่วนประเภทเซรามิคประเภททั่วไปใช้ในครัวเรือน ผมก็ผลิตเช่นกัน ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ ราคาแค่สิบบาท แต่ถึงจะเป็นสินค้าเครื่องใช้ทั่วไป ก็ควรมีเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยประยุกต์ให้ใช้งานได้เหมาะสม” เรวัตร กล่าว

จากแนวคิดนี้ ทำให้สินค้าของ “ลำปางคูน” มีรวมกันนับพันแบบ การออกแบบโดยหลักยังเป็นหน้าที่ของเรวัตร โดยปัจจุบัน มีคนรุ่นใหม่เข้ามาฝึกฝนเป็นลูกมือพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นนักออกแบบระดับแนวหน้าในอนาคต ด้านราคาขาย เริ่มต้นตั้งแต่หลักสิบถึงหลักหมื่น วัตถุดิบหลักใช้ดินลำปาง มีศักยภาพการผลิต ประมาณ 2,000 ชิ้นต่อเดือน ช่องทางจำหน่ายภายในประเทศ ผ่านร้านตัวแทนในตลาดนัดสวนจตุจักร และ ถ. สุขุมวิท ส่วนส่งออกจะผ่านบริษัทตัวแทน ตลาดหลัก คือ ยุโรป รายได้ของบริษัทประมาณหลักแสนต่อเดือน

เนื่องจากสินค้าเซรามิค ต้นทุนสำคัญ คือ ค่าพลังงานในการเผา ซึ่งในยุคนี้ รู้กันดีว่า ค่าพลังงานต่างๆ พุ่งทะยานไม่หยุด กระทบให้ต้นทุนการผลิต สูงขึ้นกว่าเดิม 20-30% ทีเดียว อีกทั้ง ต้องยอมรับว่า สินค้าประเภทนี้จัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเช่นกัน เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว ลูกค้าจึงชะลอการซื้อไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เพราะสินค้าเน้นลูกค้าตลาดบน ราคาขายสูงกว่าสินค้าทั่วไปในท้องตลาด ทำให้กำไรต่อหน่วยยังสามารถประคับประคองธุรกิจให้เดินไปได้ ต่างจากผู้ผลิตเซรามิคหลายรายใน จ.ลำปาง ที่กำลังลำบากอย่างหนัก เพราะเน้นทำสินค้าราคาถูก เมื่อเจอวิกฤตค่าพลังงานแพง ประกอบกับเจอคู่แข่งอย่างจีนแย่งตลาด ทำให้ธุรกิจมีแนวโน้วจะไปต่อไม่ไหว

เพื่อจะแก้ปัญหาดังกล่าว เรวัตร เผยว่า ผู้ประกอบการเซรามิคใน จ.ลำปาง ประมาณ 20 ราย ได้รวมกลุ่มตั้งคลัสเตอร์ ในชื่อ “เซรา คลัสเตอร์” เพื่อช่วยเหลือ และเสริมสร้างความเข้มแข็งระหว่างกัน ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น จัดอบรมความรู้ในการพัฒนาสินค้า ร่วมกันไปออกโรด โชว์แสดงสินค้า เพื่อขยายตลาด เป็นต้น ที่ผ่านมาช่วยให้สมาชิกลุ่มมีตลาดเพิ่มขึ้น ตลอดจนพาความช่วยเหลือจากภาครัฐเข้าถึงมากขึ้นด้วย

เรวัตร กล่าวตอนท้ายว่า สิ่งสำคัญที่ยึดมั่นตลอดในการสร้างสรรค์ผลงาน คือ ไม่หยุดพัฒนา ทั้งในแง่ของฝีมือการออกแบบ แต่รวมไปถึงมุ่งพัฒนาสินค้าให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยพยายามศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ มาต่อยอดกับพื้นฐานความรู้เดิม เพื่อพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นไป ซึ่งแนวคิดนี้เชื่อว่า จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน

**********************
โทร. 66-1952-7610 , 66-5422-5227
กำลังโหลดความคิดเห็น