แม้ว่าโคมไฟจะถูกสร้างสรรค์แบบต่างๆ ออกมาแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ถ้าเห็นผลงาน “โคมไฟอมยิ้มดีไซน์” ของ “วรวิทย์ หาทวี” ต้องยอมรับในความสวยแปลกตา ไม่ซ้ำใคร นำเสนอในสไตล์ตัวการ์ตูนจากเทพนิยามที่มาพร้อมความน่ารัก และแสบซ่า จนผู้พบเห็นต้องหยุดมอง
ทั้งนี้ ฝีมือออกแบบของวรวิทย์ สะสมมาจากเรียนจบมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ประกอบกับทำงานด้านออกแบบมาตลอด ตั้งแต่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ และปัจจุบัน ทำงานประจำออกแบบของเล่นเด็ก
ส่วน“โคมไฟอมยิ้มดีไซน์” จุดเริ่มต้น ทำขึ้นแค่อยากสนุก ไว้เก็บสะสม และใช้ส่วนตัว ไม่ได้คิดขาย แต่ด้วยดีไซน์โดดเด่นที่ใครก็ต้องเหลียวมอง ช่วยให้ปัจจุบันกลายเป็นอาชีพเสริมไปแล้ว
“ผมชอบการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก และก็ชอบเกี่ยวกับสินค้าตกแต่งบ้านดีไซน์สวยๆ เวลาไปเดินงานแสดงสินค้าเห็นสินค้าไอเดีย ในฐานะนักออกแบบก็อยากประดิษฐ์ตามจินตนาการตัวเองบ้าง ซึ่งไอเดียแรกๆ ผมเป็นคนชอบโคมไฟเวลาเปิดกลางคืน ก็อยากมีโคมไฟเล็กๆ ที่ทั้งน่ารัก สดใส เห็นแล้วมีความสุข และใช้ประโยชน์ได้ เลยลองทำขึ้นใช้เอง” วรวิทย์ เล่าถึงจุดเริ่มเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
โคมไฟที่ทำขึ้น มาจากตัวตนของวรวิทย์ ซึ่งชอบการ์ตูน และยังทำงานประจำออกแบบของเล่นเด็กด้วย ฉะนั้น โคมไฟที่ออกมา จึงมีลักษณะเป็นตัวการ์ตูนจากเทพนิยาม มีทั้งความน่ารัก และดูกวนๆ เปรียบเสมือนเป็นของเล่นชิ้นที่ใช้ประโยชน์ได้ โดยชุดแรกมีแบบต่างๆ เช่น เจ้าชาย นักรบ ยักษ์ตาเดียว เป็นต้น
สำหรับวัสดุที่ใช้ทำส่วนลำตัว คือ โพลีเอสเตอร์เรซิน ซึ่งวัสดุดังกล่าวหาซื้อได้ง่ายตามร้านอุปกรณ์วัสดุก่อสร้างทั่วไป ส่วนตัวหัวตุ๊กตาก็เป็นโหลแก้วที่วัยรุ่นนิยมซื้อไปพับใส่ดาวกระดาษ ขณะที่การตกแต่ง วาดด้วยสีอะครีลิก
“ช่วงแรกผมทำขึ้นไว้ใช้เอง จากนั้น ก็ทำแจกเพื่อนๆ และคนสนิทเป็นของขวัญ พอให้ใครก็เป็นที่ถูกใจ เริ่มมีการสั่งซื้อมาเรื่อยๆ ผมเลยลงทุนประมาณ 25,000 กว่าบาท ทำออกมา 100 ตัว ฝากขายกับเพื่อนที่ไปออกบูทงานแสดงสินค้าของแต่งบ้านที่เมืองทองธานี ตอนปลายปี 2548 ปรากฏว่าขายดีมากไม่มีเหลือ แถมได้คำชม และมีคนติดต่อเป็นตัวแทนขายอีก ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมจะคิดทำขายเป็นอาชีพเสริม” เจ้าของผลงาน เผยที่มาธุรกิจ
วรวิทย์ เล่าต่อว่า ให้นิยามผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็น “โคมไฟอมยิ้มดีไซน์” คือ เป็นโคมไฟที่มีดีไซน์โดดเด่น และใครเห็นก็ต้องอมยิ้ม ดังนั้น การออกแบบจะยึดในแนวคิดนี้เสมอ โดยปัจจุบัน ได้ออกแบบชุด 2 ซึ่งถือเป็นภาคต่อจากชุดแรก มีทั้งหมด 7 แบบ เช่น อัศวิน มังกร ยักษ์ตาเดียว พ่อมด แดร็กคูล่า เป็นต้น
“การคิดแบบของผม จะพยายามให้อยู่บนแนวคิดเดียวกันทั้งหมด และมีความต่อเนื่องจากชุดที่ 1 ไว้เพื่อเก็บสะสม ทุกตัวสามารถอธิบายเรื่องราวความเป็นมาได้ ซึ่งผมตั้งใจว่าจะออกแบบใหม่ ปีละ 1 ชุด รวมถึงให้สินค้าที่ออกมาสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะซื้อไปมอบเป็นของขวัญในเทศกาลสำคัญต่างๆ ได้เหมาะสม เช่น ปีใหม่ ฮาโลวีน” วรวิทย์ เผยถึงหลักในการออกแบบ
ด้านช่องทางจำหน่าย ก่อนหน้านี้จะฝากขายที่ร้านในสวนลุมไนท์บาซาร์ กับตลาดนัดสวนจตุจักร แต่ปัจจุบัน หันมาขายผ่านหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองอย่างเดียว ที่เว็บไซต์ www.omyimdesige.com ซึ่งช่องทางนี้ นอกจากสะดวกแล้ว ยังประหยัดต้นทุนได้มากกว่า โดยจะรับผลิตตามคำสั่งซื้อ ราคาขายชิ้นละ 399 บาท (ไม่รวมค่าส่ง) มีให้เลือกทั้งแบบโคมไฟเสียบปลั๊ก และแบบใส่ถ่าน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มเน้นการใช้งานจริง และกลุ่มที่เน้นเพื่อการตกแต่ง
วรวิทย์ เผยด้วยว่า เนื่องจากทำเป็นอาชีพเสริมใช้เวลาว่างจากงานประจำ อีกทั้ง เป็นงานแฮนด์เมด ซึ่งเขาทำเพียงลำพังคนเดียวทั้งหมด ต่อเดือนจึงทำได้ประมาณ 30 ชิ้น บางครั้งผลิตไม่ทันต่อคำสั่งซื้อ พยายามจะแก้ปัญหาโดยหานักศึกษามาฝึกฝนเพื่อเพิ่มกำลังผลิต แต่ปัจจุบันยังไม่มีใครฝีมือน่าพอใจ
ส่วนแผนในอนาคต อยากจะพัฒนาสินค้าโดยเปลี่ยนวัสดุจาก โพลีเอสเตอร์เรซิน เป็นกระดาษ ในลักษณะงานเปเปอร์มาเช่แทน เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมถึง เพิ่มจุดขายให้สินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น อีกทั้ง อยากขายลิขสิทธิ์ตัวละครแก่ผู้ที่สนใจนำบุคลิกตัวการ์ตูนไปต่อยอดเชิงธุรกิจ เพราะจริงๆ แล้ว ส่วนตัวอยากทำงานด้านสร้างสรรค์มากกว่าการตลาด เพราะการได้คิดแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ เป็นความสุขมากกว่าสำหรับคนทำงานออกแบบอย่างเขา
**************************
โทร.089 893 6569 , www.omyimdesign.com