ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เรือประมง 450 ลำ ในจังหวัดสงขลา ยื่นเรื่องขอปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใช้แก๊ส NGV แทนน้ำมันต่อกรมประมงแล้ว โดยใช้เงินกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ให้ชาวประมงกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำผ่อนชำระในระยะยาว เพื่อช่วยเหลือชาวประมง
จากสภาวะราคาน้ำมันที่มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามราคาตลาดโลก ส่งผลให้ชาวประมงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ถึงกับต้องหยุดทำการประมงไปแล้วเป็นจำนวนมาก เพราะสู้ราคาน้ำมันแพงไม่ไหว
สำหรับในจังหวัดสงขลาชาวประมง ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลเกิน 40 บาทไปแล้ว ทำให้กรมประมงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชาวประมง โดยเชิญประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทย นายกสมาคมประมงสงขลา และตัวแทนผู้ประกอบการประมงมาประชุมร่วมกัน เพื่อแจ้งให้ชาวประมงทราบถึงมาตรการช่วยเหลือชาวประมง ในการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือ ให้สามารถใช้แก๊ส NGV หรือ LPG แทนน้ำมัน และมีชาวประมงให้ความสนใจยื่นเรื่องแสดงความจำนงแล้ว 450 ลำ
นายพิศ นพรัตน์ ประมงจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในขณะนี้ชาวประมงต้องการลดต้นทุนการผลิตในเรื่องน้ำมัน โดยเฉพาะเรืออวนลากที่ต้องใช้น้ำมันเยอะ โดยกรมประมงต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ เพื่อลดต้นทุนการผลิตจากน้ำมันมาเป็นแก๊ส NGV หรือ LPG แทนน้ำมัน สำนักงานประมงจังหวัดสงขลาได้สำรวจความต้องการของชาวประมงแล้ว มีชาวประมงยื่นแสดงความจำนงมาแล้ว
โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา 450 ลำ เป็นเรืออวนลาก เรือครอบปลากะตัก เรืออวนล้อมปลากะตัก ขนาด ความยาว 14 เมตร จำนวน 100 ลำ ขนาด ความยาว 14 -18 เมตร จำนวน 100 ลำ และขนาด ความยาว 18 เมตรขึ้นไป จำนวน 200 ลำ และเป็นเรืออวนลอยขนาดเล็ก 50 ลำ โดยขอปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์โดยใช้แก๊ส NGV ทั้งหมด ซึ่งมีราคาถูกกว่า LPG โดยใช้งบเงินช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ให้ชาวประมงกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในปีแรกจะปลอดดอกเบี้ย ปีต่อไปคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1/ปี
ทั้งนี้ คิดว่า เมื่อชาวประมงปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้แก๊สแทนน้ำมันจะคุ้มค่ากว่าใช้น้ำมัน และในอนาคตจะมีการติดตั้งแท็งเกอร์ก๊าซกลางทะเลเช่นเดียวกับแท็งเกอร์น้ำมันทั่วอ่าวไทยและเขตรอยต่อน่านน้ำสากล เพื่อให้ชาวประมงสามารถเติมก๊าซกลางทะเลได้ โดยไม่ต้องกลับเข้าฝั่ง
ในขณะเดียวกัน เรือประมงในจังหวัดสงขลา ที่หยุดทำการประมงไปกว่า 60% แต่ก็ไม่ได้หยุดเลยออกไปทำการประมงบ้างหยุดบ้าง ซึ่งแล้วแต่จังหวะเพื่อนำเงินมาเลี้ยงลูกน้อง ผลดีจากการที่มีการทำการประมงจับปลาน้อยลง ทำให้ปริมาณปลาในอ่าวไทยเริ่มเพิ่มขึ้น
จากสภาวะราคาน้ำมันที่มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามราคาตลาดโลก ส่งผลให้ชาวประมงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ถึงกับต้องหยุดทำการประมงไปแล้วเป็นจำนวนมาก เพราะสู้ราคาน้ำมันแพงไม่ไหว
สำหรับในจังหวัดสงขลาชาวประมง ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลเกิน 40 บาทไปแล้ว ทำให้กรมประมงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชาวประมง โดยเชิญประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทย นายกสมาคมประมงสงขลา และตัวแทนผู้ประกอบการประมงมาประชุมร่วมกัน เพื่อแจ้งให้ชาวประมงทราบถึงมาตรการช่วยเหลือชาวประมง ในการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือ ให้สามารถใช้แก๊ส NGV หรือ LPG แทนน้ำมัน และมีชาวประมงให้ความสนใจยื่นเรื่องแสดงความจำนงแล้ว 450 ลำ
นายพิศ นพรัตน์ ประมงจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในขณะนี้ชาวประมงต้องการลดต้นทุนการผลิตในเรื่องน้ำมัน โดยเฉพาะเรืออวนลากที่ต้องใช้น้ำมันเยอะ โดยกรมประมงต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ เพื่อลดต้นทุนการผลิตจากน้ำมันมาเป็นแก๊ส NGV หรือ LPG แทนน้ำมัน สำนักงานประมงจังหวัดสงขลาได้สำรวจความต้องการของชาวประมงแล้ว มีชาวประมงยื่นแสดงความจำนงมาแล้ว
โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา 450 ลำ เป็นเรืออวนลาก เรือครอบปลากะตัก เรืออวนล้อมปลากะตัก ขนาด ความยาว 14 เมตร จำนวน 100 ลำ ขนาด ความยาว 14 -18 เมตร จำนวน 100 ลำ และขนาด ความยาว 18 เมตรขึ้นไป จำนวน 200 ลำ และเป็นเรืออวนลอยขนาดเล็ก 50 ลำ โดยขอปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์โดยใช้แก๊ส NGV ทั้งหมด ซึ่งมีราคาถูกกว่า LPG โดยใช้งบเงินช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ให้ชาวประมงกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในปีแรกจะปลอดดอกเบี้ย ปีต่อไปคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1/ปี
ทั้งนี้ คิดว่า เมื่อชาวประมงปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้แก๊สแทนน้ำมันจะคุ้มค่ากว่าใช้น้ำมัน และในอนาคตจะมีการติดตั้งแท็งเกอร์ก๊าซกลางทะเลเช่นเดียวกับแท็งเกอร์น้ำมันทั่วอ่าวไทยและเขตรอยต่อน่านน้ำสากล เพื่อให้ชาวประมงสามารถเติมก๊าซกลางทะเลได้ โดยไม่ต้องกลับเข้าฝั่ง
ในขณะเดียวกัน เรือประมงในจังหวัดสงขลา ที่หยุดทำการประมงไปกว่า 60% แต่ก็ไม่ได้หยุดเลยออกไปทำการประมงบ้างหยุดบ้าง ซึ่งแล้วแต่จังหวะเพื่อนำเงินมาเลี้ยงลูกน้อง ผลดีจากการที่มีการทำการประมงจับปลาน้อยลง ทำให้ปริมาณปลาในอ่าวไทยเริ่มเพิ่มขึ้น
