ผู้จัดการรายวัน - คึกสุดๆ ล็อกซ์เลย์รายงานหมอเลี้ยบ หวยออนไลน์พร้อมขายงวดเดือนกันยายนได้ทันทีหากบอร์ดกองสลากได้ข้อสรุป เปิดเสรีคนเดินโพยไม่จำกัดจำนวนและไม่จำกัดตู้ส่ง ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสำนักงานสลากฯ ชุมนุมที่กระทรวงการคลัง เรียกร้อง รมว.คลังยกเลิกมาตรการชั่วคราวการเพิ่มส่วนลดให้ผู้แทนจำหน่าย
นายปิยะพันธุ์ นิมมานเหมินท์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยภายหลังนำผู้บริหารบริษัทล็อกซ์เล่ย์ จีเทค เทคโนโลยีและผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าพบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ว่า เป็นการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน ซึ่งทางบริษัทล็อกซ์เล่ย์ยืนยันว่าสามารถปรับปรุงโปรแกรมเครื่องออนไลน์ที่จะจำหน่ายหวยบนดินผ่านตู้ดังกล่าวได้ทันกำหนดการที่น.พ.สุรพงษ์กำหนดไว้ในเดือนก.ย.นี้แน่นอน ส่วนจะออกหวยบนดินอีกครั้งได้ในงวดวันที่ 1 หรือ 16 ก.ย.51 ต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลและผลสรุปสุดท้ายของบริษัทล็อกซ์เล่ย์
จากการหารือกับ นพ.สุรพงษ์ ได้รับมอบนโยบายใหม่โดยจะเปิดกว้างให้คนเดินโพยเข้ามาขายหวยบนดินที่ใช้เขียนด้วยมืออย่างไม่จำกัดจำนวน และไม่จำเป็นต้องส่งเฉพาะตู้ออนไลน์ตู้ใดตู้หนึ่ง แล้วแต่ความสะดวก เพื่อป้องกันอิทธิพลจากเจ้ามือรายใหญ่
"จากนี้ไปจะเปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปมาสมัครเป็นคนเดินโพยได้ และคนเก่าก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งรมว.คลังให้นโยบายไว้เช่นนี้เพื่อป้องกันเจ้าพ่อเจ้าแม่หวยไม่ให้มีเหมือนในอดีตอีก"นายปิยะพันธุ์กล่าว
สำหรับการจัดสรรเงินรางวัลจะยังคงเป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่นพ.สุรพงษ์ให้ไว้คือผันแปรตามจำนวนผู้ถูกรางวัล แต่จะกำหนดขั้นต่ำไว้ที่บาทละ 500 บาท สำหรับ 3 ตัวบน ส่วนเลขอื่นๆก็จะใช้หลักการเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามแม้สัดส่วนเงินรางวัลจะเป็น 60%ของเม็ดเงินที่ขายหวยบนดินได้แต่ละงวด แต่อาจจะปรับลดเหลือ 57% โดย 3%ที่เหลือจะกันไว้สำหรับรางวัลพิเศษซึ่งจะมาแทนเงินรางวัลแจ๊กพ็อตที่เคยมีอยู่เดิม ส่วนอีก 28%ก็จะต้องนำเข้าเป็นงบประมาณแผ่นดิน และ 12%จะนำมาใช้สำหรับบริหารจัดการซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะแบ่งอย่างไรระหว่างล็อกซ์เล่ย์ คนเดินโพยและสำนักงานสลากฯ
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประมาณ 100 คนได้เดินทางมาชุมนุมที่กระทรวงการคลัง เพื่อยื่นหนังสือถึง นพ.สุรพงษ์ เพื่อขอให้ยกเลิกมาตรการชั่วคราวการเพิ่มส่วนลดให้ผู้แทนจำหน่ายตามนโยบายการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ที่มีการเพิ่มส่วนลด 1% ให้แก่ตัวแทนจำหน่าย
โดยนายทวีป วุฒิบาทุกาจิตต์ ประธานสหภาพฯ กล่าวว่า ต้องการให้นพ.สุรพงษ์พิจารณาอนุมัตินำส่วนลด 1% ที่แบ่งไปจากค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ ไปให้แก่ตัวแทนจำหน่าย ตั้งแต่สมัยปี 48 กลับคืนมาเป็นเงินของภาครัฐ โดยเดิมเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวระยะสั้น 6 เดือน แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้ยกเลิก แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่สามารถแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ก็ตาม
ดังนั้นสหภาพฯ จึงเห็นว่า ควรนำเงินรายได้ 1% ดังกล่าว มาใช้ในการบำรุงประเทศมากกว่า และหากยังปล่อยมาตรการดังกล่าวไว้ต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสำนักงานสลากฯ ทำให้เกิดผลขาดทุนได้ในอนาคต ที่สำคัญมาตรการนี้ไม่ชอบด้วยเหตุผลและผิดหลักการบริหารองค์กรที่ดีในการนำรายได้ที่สำนักงานฯ ควรได้ไปเป็นค่าตอบแทนให้กับผู้กระทำความผิดที่จำหน่ายสลากเกินราคา ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและไม่สามารถแก้ไขปัญหาองค์กรได้อย่างแท้จริง
จากการประเมินพบว่า การเพิ่มส่วนลด 1% ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายนั้น ทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 440 ล้านบาท โดยหลังจากมาตรการใช้ไปครบ 6 เดือนก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ ซึ่งคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ เคยมีมติยกเลิกแล้ว แต่นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง ในขณะนั้น ยังไม่ได้ลงนามอนุมัติ จึงทำให้มาตรการดังกล่าวยังคงอยู่กระทั่งปัจจุบัน สหภาพฯ จึงต้องการให้น.พ.สุรพงษ์พิจารณากลับมาใช้ส่วนลดในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ชนิดใบ) ในอัตราเดิมก่อนมีมาตรการ คือ จ่ายที่ 7% กรณีตัวแทนจำหน่ายเป็นบุคคลธรรมดา และ 9% กรณีตัวแทนจำหน่ายเป็นองค์กร สมาคม หรือหน่วยงานของรัฐ ขณะที่จากมาตรการดังกล่าว ทำให้ส่วนลดของตัวแทนจำหน่ายอยู่ที่ 8% และ 10% ซึ่งแบ่งมาจากรายได้ในส่วนที่เป็นค่าบริหารจัดการของสำนักงานฯ 12% ทำให้ปัจจุบันสำนักงานสลากฯ เหลือรายได้มาใช้เป็นค่าใช้จ่ายเพียง 2% เท่านั้น
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะนำสลากออนไลน์มาใช้นั้นสหภาพฯ เห็นควรกำหนดการให้ส่วนลดแก่ตัวแทนจำหน่ายที่ 7% เช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้แตกต่างกับตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ชนิดใบ) ที่ได้รับอยู่ ซึ่งจะได้ไม่เป็นปัญหาในการบริหารจัดการรายรับจากการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายของสำนักงานฯ ในอนาคต นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ รมว.คลัง ได้เร่งแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ให้เรียบร้อยโดยเร็ว
นายปิยะพันธุ์ นิมมานเหมินท์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยภายหลังนำผู้บริหารบริษัทล็อกซ์เล่ย์ จีเทค เทคโนโลยีและผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าพบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ว่า เป็นการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน ซึ่งทางบริษัทล็อกซ์เล่ย์ยืนยันว่าสามารถปรับปรุงโปรแกรมเครื่องออนไลน์ที่จะจำหน่ายหวยบนดินผ่านตู้ดังกล่าวได้ทันกำหนดการที่น.พ.สุรพงษ์กำหนดไว้ในเดือนก.ย.นี้แน่นอน ส่วนจะออกหวยบนดินอีกครั้งได้ในงวดวันที่ 1 หรือ 16 ก.ย.51 ต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลและผลสรุปสุดท้ายของบริษัทล็อกซ์เล่ย์
จากการหารือกับ นพ.สุรพงษ์ ได้รับมอบนโยบายใหม่โดยจะเปิดกว้างให้คนเดินโพยเข้ามาขายหวยบนดินที่ใช้เขียนด้วยมืออย่างไม่จำกัดจำนวน และไม่จำเป็นต้องส่งเฉพาะตู้ออนไลน์ตู้ใดตู้หนึ่ง แล้วแต่ความสะดวก เพื่อป้องกันอิทธิพลจากเจ้ามือรายใหญ่
"จากนี้ไปจะเปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปมาสมัครเป็นคนเดินโพยได้ และคนเก่าก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งรมว.คลังให้นโยบายไว้เช่นนี้เพื่อป้องกันเจ้าพ่อเจ้าแม่หวยไม่ให้มีเหมือนในอดีตอีก"นายปิยะพันธุ์กล่าว
สำหรับการจัดสรรเงินรางวัลจะยังคงเป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่นพ.สุรพงษ์ให้ไว้คือผันแปรตามจำนวนผู้ถูกรางวัล แต่จะกำหนดขั้นต่ำไว้ที่บาทละ 500 บาท สำหรับ 3 ตัวบน ส่วนเลขอื่นๆก็จะใช้หลักการเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามแม้สัดส่วนเงินรางวัลจะเป็น 60%ของเม็ดเงินที่ขายหวยบนดินได้แต่ละงวด แต่อาจจะปรับลดเหลือ 57% โดย 3%ที่เหลือจะกันไว้สำหรับรางวัลพิเศษซึ่งจะมาแทนเงินรางวัลแจ๊กพ็อตที่เคยมีอยู่เดิม ส่วนอีก 28%ก็จะต้องนำเข้าเป็นงบประมาณแผ่นดิน และ 12%จะนำมาใช้สำหรับบริหารจัดการซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะแบ่งอย่างไรระหว่างล็อกซ์เล่ย์ คนเดินโพยและสำนักงานสลากฯ
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประมาณ 100 คนได้เดินทางมาชุมนุมที่กระทรวงการคลัง เพื่อยื่นหนังสือถึง นพ.สุรพงษ์ เพื่อขอให้ยกเลิกมาตรการชั่วคราวการเพิ่มส่วนลดให้ผู้แทนจำหน่ายตามนโยบายการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ที่มีการเพิ่มส่วนลด 1% ให้แก่ตัวแทนจำหน่าย
โดยนายทวีป วุฒิบาทุกาจิตต์ ประธานสหภาพฯ กล่าวว่า ต้องการให้นพ.สุรพงษ์พิจารณาอนุมัตินำส่วนลด 1% ที่แบ่งไปจากค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ ไปให้แก่ตัวแทนจำหน่าย ตั้งแต่สมัยปี 48 กลับคืนมาเป็นเงินของภาครัฐ โดยเดิมเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวระยะสั้น 6 เดือน แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้ยกเลิก แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่สามารถแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ก็ตาม
ดังนั้นสหภาพฯ จึงเห็นว่า ควรนำเงินรายได้ 1% ดังกล่าว มาใช้ในการบำรุงประเทศมากกว่า และหากยังปล่อยมาตรการดังกล่าวไว้ต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสำนักงานสลากฯ ทำให้เกิดผลขาดทุนได้ในอนาคต ที่สำคัญมาตรการนี้ไม่ชอบด้วยเหตุผลและผิดหลักการบริหารองค์กรที่ดีในการนำรายได้ที่สำนักงานฯ ควรได้ไปเป็นค่าตอบแทนให้กับผู้กระทำความผิดที่จำหน่ายสลากเกินราคา ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและไม่สามารถแก้ไขปัญหาองค์กรได้อย่างแท้จริง
จากการประเมินพบว่า การเพิ่มส่วนลด 1% ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายนั้น ทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 440 ล้านบาท โดยหลังจากมาตรการใช้ไปครบ 6 เดือนก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ ซึ่งคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ เคยมีมติยกเลิกแล้ว แต่นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง ในขณะนั้น ยังไม่ได้ลงนามอนุมัติ จึงทำให้มาตรการดังกล่าวยังคงอยู่กระทั่งปัจจุบัน สหภาพฯ จึงต้องการให้น.พ.สุรพงษ์พิจารณากลับมาใช้ส่วนลดในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ชนิดใบ) ในอัตราเดิมก่อนมีมาตรการ คือ จ่ายที่ 7% กรณีตัวแทนจำหน่ายเป็นบุคคลธรรมดา และ 9% กรณีตัวแทนจำหน่ายเป็นองค์กร สมาคม หรือหน่วยงานของรัฐ ขณะที่จากมาตรการดังกล่าว ทำให้ส่วนลดของตัวแทนจำหน่ายอยู่ที่ 8% และ 10% ซึ่งแบ่งมาจากรายได้ในส่วนที่เป็นค่าบริหารจัดการของสำนักงานฯ 12% ทำให้ปัจจุบันสำนักงานสลากฯ เหลือรายได้มาใช้เป็นค่าใช้จ่ายเพียง 2% เท่านั้น
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะนำสลากออนไลน์มาใช้นั้นสหภาพฯ เห็นควรกำหนดการให้ส่วนลดแก่ตัวแทนจำหน่ายที่ 7% เช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้แตกต่างกับตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ชนิดใบ) ที่ได้รับอยู่ ซึ่งจะได้ไม่เป็นปัญหาในการบริหารจัดการรายรับจากการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายของสำนักงานฯ ในอนาคต นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ รมว.คลัง ได้เร่งแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ให้เรียบร้อยโดยเร็ว
